ลอยแพไต้หวัน! เบื้องลึก 185 ปท.โลกตัดสัมพันธ์ทูต แฉสหรัฐก็ปิดสถานทูตในไทเป พบจีนส่งสัญญาณชาวไต้หวันให้เทพรรครบ.จะคืนสันติ

0

ลอยแพไต้หวัน! เบื้องลึก 185 ปท.โลกตัดสัมพันธ์ทูต แฉสหรัฐก็ปิดสถานทูตในไทเป พบจีนส่งสัญญาณชาวไต้หวันให้เทพรรครบ.จะคืนสันติ

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 กองทัพจีนยิงขีปนาวุธหลายลูกข้ามไต้หวัน ตกในน่านน้ำขณะทำการซ้อมรบใหญ่ในช่องแคบไต้หวันวันแรก  เพื่อตอบโต้กรณี “แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนฯสหรัฐเยือนไต้หวัน ขณะด้านนักวิเคราะห์มองว่า จีนนำกำลังล้อม 6 จุดรอบ เกาะไต้หวัน ในการซ้อมรบช่วง 3 วันนี้ เป็นการส่งสัญญาณถึงมาตรการตอบโต้ไต้หวันทั้งการปิดล้อมน่านฟ้า-น่านน้ำ และตัดการขนส่งสินค้าทางเรือ

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความหัวข้อ ไต้หวัน มือทาบอก! สหรัฐ ขอให้กำลังใจอย่างห่วงๆ อยู่ห่างๆ รอออร์เดอร์อาวุธเสมอ โดยอ้างอิงจาก Globaltimes ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนระบุว่า 

ปี 1971 สหประชาชาติ ที่มีฝ่ายระเบียบโลกเก่าครองอำนาจดัน 181 ประเทศ รับรองจีนแผ่นดินใหญ่ (PRC) ยอมรับจีนเดียว แล้วสหรัฐ ลอยแพถีบหัวส่งจีนไต้หวัน อ้างว่าไม่ค่อยสนิทเพราะไต้หวันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของจีน พลเมืองก็เท่ามลฑลเดียว น้อยกว่าจีนแผ่นดินใหญ่มาก จึงไร้ประโยชน์ ตั้งแต่นั้นมาจีนแผ่นดินใหญ่ (PRC) จึงใช้สิทธิโดยชอบธรรมที่สหประชาชาติรับรอง ถ้าต้องการมีความสัมพันธ์กับจีน ก็ห้ามมีความสัมพันธ์กับไต้หวันโดยตรง
เพราะเป็นแค่ระดับมลฑล ทำให้ปัจจุบัน ประชาคมโลก 185 ประเทศไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน
แม้แต่สหรัฐฯ ก็ปิดสถานทูตในกรุงไทเป ไต้หวันถึงทุกวันนี้ มีแค่สำนักงานประสานการค้า แต่สหรัฐฯ ก็ทำตัวเป็นอีแอบขายอาวุธให้กับไต้หวันมาตลอดเป็นมูลค่ามหาศาลต่อปี โดยรับประกันว่าตราบใดที่ซื้ออาวุธอยู่ก็จะรับประกันความมั่นคงและจะพาพวกมายืนเคียงข้าง แต่ไม่ขอรับรองเอกราช , ไต้หวันช่วงแรกยุคที่พรรคก๊กมินตั๋งเป็นรัฐบาล มีความหวังว่าไปยึดอำนาจคืนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนแผ่นดินใหญ่และปกครอง 2 ดินแดน ต่อมาเกิด “ขบวนการแยกเอกราชไต้หวัน” กลายเป็นพรรคการเมือง ประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ที่ไม่ต้องการรวมชาติจีนเดียว
แม้ว่าไต้หวัน ไม่มีสถานะรัฐ ไม่อาจใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ไม่มีขอบเขตน่านฟ้า ไม่มีขอบเขตทะเลของตนเอง ไม่มีตัวแทนในสหประชาชาติ ไม่อาจทำสนธิสัญญากับรัฐใดได้ แต่ไต้หวันคิดไปเองฝ่ายเดียวว่าตนเองเป็นประเทศ จึงมีการตั้งรัฐบาล และประธานาธิบดีอุปโลกที่ไม่เคยมีชาติใดรับรอง นับจากปี 2000 จนถึงปัจจุบัน มีการเลือกตั้งผู้นำไต้หวันทั้งหมด 6 ครั้ง พรรค DPP ชนะไป 4 ครั้ง ล่าสุดในปี 2020 ไช่ อิง-เหวิน ตัวแทนจาก DPP เอาชนะพรรคก๊กมินตั๋งมากกว่า 2.6 ล้านเสียง นางไช่ อิง-เหวิน เชื้อสายญี่ปุ่นระบุว่า “เราไม่จำเป็นต้องประกาศตัวว่าเป็นเอกราช เพราะเราเป็นประเทศเอกราชอยู่แล้ว เราเรียกตัวเองว่า สาธารณรัฐจีน หรือ ไต้หวัน”
พรรค DPP ไม่ยึดรากเหง้าบรรพบุรุษ แม้หน้าตาภาษาวัฒนธรรมจะเป็นจีน แต่พยายามบอกกับชาวโลกว่าเป็นชาวไต้หวัน เพราะคิดระยะสั้นว่าระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะเอาตัวรอดได้ ด้านความมั่นคงสงครามค่อยไปตายเอาดาบหน้า , ส่วนพรรคก๊กมินตั๋ง ผู้ก่อตั้งไต้หวันยุคบุกเบิกเริ่มไม่พอใจพรรค DPP ที่ครองอำนาจนานเกินไปจึงเริ่มเอียงมาสานสัมพันธ์กับรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ และมีความสนใจในรูปแบบ “จีนเดียว” 1 ประเทศ 2 ระบบคล้ายฮ่องกง มาเก๊า
ที่ทำมาแล้วได้ผลดี และเห็นถึงสันติภาพระยะยาวถ้าไม่มีความขัดแย้งสงครามต่อกัน เพราะบทเรียนบรรพบุรุษพิสูจน์แล้วไม่มีประโยชน์ แถมยังผูกใจเจ็บสหรัฐ ที่หักหลังในอดีต หากไต้หวันจะเป็นประเทศได้มีขั้นตอนคือ ที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติทุกประเทศ ต้องลงมติใหม่ โดยจะต้องไม่ถูกคัดค้านจากคณะมนตรีถาวร UN คือ จีน รัสเซีย
และบรรดาประเทศฝ่ายจัดระเบียบโลกใหม่ราว 150 ประเทศก็ต้องโหวตรับรองให้ด้วย ตอนนี้ทั่วโลกกว่า 100 ประเทศหรือเกินกึ่งหนึ่งได้ทะยอยออกแถลงการณ์เลือกข้างจีนเดียวแล้ว และยังทะยอยออกแถลงการณ์เพิ่มขึ้นทุกวัน
ล่าสุดสื่อจีนระบุว่า “การซ้อมรบของกองทัพจีนนั้นไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ประชาชนที่อาศัยในไต้หวัน แต่พวกเขาจำเป็นต้องตระหนักให้มากขึ้นว่า การลงคะแนนเสียงให้กับพรรค DPP จะไม่นำไปสู่ผลลัพท์ที่ดีในอนาคต ถ้าชาวไต้หวันเลือกจะรักษาความเห็นชอบเดิมในปี 1992 (หมายถึงพรรคก็กมินตั๋ง) ชาวไต้หวันทั้งปวงจะได้รับความสุขกับส่วนแบ่งดอกผลการพัฒนาอย่างสันติ”
นี่คือสัญญาณทางเลือกจากทางการจีนว่า ปัญหาข้อติดขัดทุกด้านแก้ได้ภายในชาติโดยพรรคก็กมินตั๋ง ผู้ปกครองไต้หวันชุดแรก ในแนวทาง 1 ประเทศ 2 ระบบคล้ายฮ่องกง มาเก๊าเท่านั้นแล้วพี่น้องทุกคนจับมือก้าวไปข้างหน้าด้วยกันตอนนี้สหรัฐ ได้แต่ส่งเครื่องบินมาส่องป้วนเปี้ยนให้กำลังใจอย่างห่วงๆ อยู่ห่างๆ และนำแก๊งค์ G7 ผุๆ ไร้หัวไปแล้ว 2 ชาติแถลงโวยวายไปตามเรื่องแต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะกองทัพเรือดำน้ำรัสเซียเองก็อยู่ย่านนี้เต็มไปหมด