การเยือนไต้หวันของเปโลซี ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในยุทธศาสตร์ของจีนที่มีต่อสหรัฐฯ และในยุทธศาสตร์ของแผ่นดินใหญ่ที่มีต่อไต้หวันอย่างไม่อาจหวนกลับคืน
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ เยือนเกาะไต้หวันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แม้ว่าจีนจะต่อต้านอย่างรุนแรงก็ตาม ตอกย้ำชัดเจนว่ายุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ คือการผลักดันจีนให้อยู่ในสถานะที่เป็นปรปักษ์อย่างชัดเจนแล้วรับรู้กันทั้งโลก สหรัฐจะเบี่ยงบ่ายอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น
การตอบโต้ของจีนต่อสหรัฐเริ่มขึ้นขณะที่ประธานสภาฯสหรัฐรีบเผ่นจากไต้หวันไปญี่ปุ่นพร้อมกองเรือพิฆาต และฝูงบินรบคุ้มกันไปตั้งหลักอยู่เกาะโอกินาวาฐานทัพใหญ่ของสหรัฐในญี่ปุ่น จีนเปิดการซ้อมรบครั้งใหญ่แบบปิดล้อมเกาะ กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ได้เปิดฉากการซ้อมรบแบบใช้กำลังทหารในพื้นที่ต่างๆ รอบเกาะ ๖ จุด ขณะที่กระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากรได้ระงับการนำเข้าจากไต้หวันกว่า ๒,๐๐๐ รายการ รวมถึงระงับส่งทรายธรรมชาติส่งออกไปไต้หวันด้วย ค่อนข้างยากที่จะเห็นวาทศิลป์ที่รุนแรง การกระทำที่รุนแรง และการเคลื่อนไหวทางทหารครั้งใหญ่ที่ริเริ่มโดยฝ่ายจีน ซึ่งบ่งชี้ว่าจีนมีความมั่นใจและมีความสามารถมากกว่าที่เคยเป็นมาในการปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน
แน่นอนว่าการเยือนไต้หวันของเปโลซีไม่ได้เป็นเพียงการแสดงทางการเมืองโดยเธอคนเดียวเท่านั้น แต่เป็นผลมาจากการสมรู้ร่วมคิดของกองกำลังที่สนับสนุนไต้หวันและต่อต้านจีนในสหรัฐฯ การเพิกเฉยของรัฐบาลไบเดนต่อการเยือนของเปโลซีได้บ่อนทำลายผลลัพธ์ที่จีนและสหรัฐฯ บรรลุในการติดต่อระดับสูงหลายสิบครั้งในปีที่ผ่านมา และสร้างเงาดำที่ใหญ่กว่าในอนาคตของความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ยากจะราบรื่นอักต่อไป ล่าสุดการรุกทางการทูตอย่างอารยะได้เปิดฉากด้วยการคว่ำบาตรตัวต้นเหตุนางแนนซี่ เปโลซีและครอบครัว และประกาศตัดสัมพันธ์สหรัฐ ๘ ด้าน ทำสหรัฐหัวหมุนไปไม่เป็น
วันที่ ๖ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์และซินหัว รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ ๕ ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ทางการจีนคว่ำบาตรประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี่ เปโลซี และสมาชิกในครอบครัวของเธอ เนื่องจากเธอเพิกเฉยต่อความกังวลที่ร้ายแรงของจีนและการคัดค้านอย่างแข็งขัน ทั้งดื้อดึงยืนกรานไปเยือนภูมิภาคไต้หวันจนได้
พอลล์ เปโลซี(Paul Pelosi) สามีของแนนซี่ เปโลซี อายุ ๘๒ ปีเช่นกัน เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนและที่ปรึกษาด้านการลงทุนในซานฟรานซิสโก พวกเขามีบุตรห้าคน โดยหนึ่งในนั้นคือ คริสติน เปโลซี วัย ๕๖ ปี เป็นนักยุทธศาสตร์ของพรรคเดโมแครต อเล็กซานดรา ลูกสาวคนสุดท้องของพวกเขา วัย ๕๑ ปี เป็นผู้สร้างภาพยนตร์ที่สารคดีที่มีผลงานจำนวนมากปรากฎในสาธารณะ
นอกจากนี้จีนได้ตัดสินใจที่จะตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐฯ ในด้านการทหารและพลเรือน โดยกระทรวงการต่างประเทศประกาศมาตรการตอบโต้การเยือนไต้หวันของเปโลซี ๘ มาตรการดังนี้:
๑. ยกเลิกการเจรจาผู้บัญชาการกองทัพจีน-สหรัฐฯ
๒. ยกเลิกการเจรจาประสานงานนโยบายกลาโหมจีน-สหรัฐฯ (DPCT)
๓. ยกเลิกการประชุมข้อตกลงปรึกษาหารือทางทหารของจีน-สหรัฐฯ (MMCA)
๔. ระงับความร่วมมือจีน-สหรัฐฯ ในการส่งตัวผู้อพยพผิดกฎหมายกลับประเทศ
๕. ระงับความร่วมมือจีน-สหรัฐฯ ด้านความช่วยเหลือทางกฎหมายในคดีอาญา
๖. ระงับความร่วมมือจีน-สหรัฐฯ ในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ
๗. ระงับความร่วมมือต่อต้านยาเสพติดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
๘. ระงับการเจรจาจีน-สหรัฐฯ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า “มันเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างโจ่งแจ้ง บ่อนทำลายอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน เหยียบย่ำหลักการจีนเดียว และคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน”
เปโลซีเยือนไต้หวันในสัปดาห์นี้ แม้จะมีการคัดค้านซ้ำๆ จากปักกิ่งก็ตาม เกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้จีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน โดยสหรัฐฯ ยอมรับนโยบายจีนเดียวอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี ๑๙๗๐
วอชิงตันยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการกับไทเปแม้หลังจากเปลี่ยนการรับรองทางการฑูตเป็นปักกิ่งแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ในเวลาต่อมาได้ติดต่อใกล้ชิดกับรัฐบาลไต้หวันมากขึ้น ปักกิ่งกล่าวว่าวอชิงตันนั่นเองที่ จงใจบ่อนทำลายสถานะที่เป็นอยู่และส่งเสริมการแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน
ขณะที่ทำเนียบขาวพยายามทำตัวให้ออกห่างจากเปโลซี โดยอ้างว่าเป็นการตัดสินใจโดยอิสระของเธอ ที่จะไปเยือนไต้หวัน เจ้าหน้าที่ในกรุงปักกิ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่รับรู้กันที่จะบ่อนทำลายสิทธิ์ของจีนและคุกคามผลที่ตามมา
กองทัพปลดแอกประชาชนจีนได้เริ่มการซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะ ซึ่งสื่อจีนอธิบายว่าเป็นการซ้อมปิดล้อมเต็มรูปแบบ ปักกิ่งยังประกาศคว่ำบาตรทางการค้าในไต้หวันประมาณว่า ล็อคดาวน์ทั้งเศรษฐกิจและการทหารอีกด้วยอย่างน้อยในช่วงเวลาซ้อมรบครั้งใหญ่ตั้งแต่วันที่ ๓-๕ ส.ค.นี้ หากมีสถานการณ์ใหม่ก็อาจมีการขยายเวลาได้
ทั้งโลกต่างจับตาสถานการณ์ร้อนที่ช่องแคบไต้หวันนี้ ว่าจะบานปลายกลายเป็นสงครามใหญ่สมเจตนาของสหรัฐหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กองเรือรบของสหรัฐยังคงปักหลักอยู่ที่ฐานทัพในเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น อ้างคอยติดตามสถานการณ์ แม้จีนจะทำขีปนาวุธลั่นตกลงในเขตเศรษฐกิจพิเศษของยี่ปุ่น ๕ ลูกแล้วก็ตาม??