นาโต้ ออกโรงจุ้นปักกิ่ง! ซ้อมรบใกล้ไต้หวัน ทำเกินกว่าเหตุ! เจอรัสเซีย สวนแทน ทำสหรัฐฯหน้าหงาย!
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (4 สิงหาคม 2565) มีรายงานว่า กระทรวงกลาโหมไต้หวันเผยว่า จีนได้ยิงขีปนาวุธหลายลูกเข้ามายังน่านน้ำใกล้พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน หลังจากจีนประกาศว่าไต้หวันจะต้องชดใช้ กรณีต้อนรับ “แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
ทำเนียบขาวประณามการตัดสินใจของจีน ในการยิงขีปนาวุธจริงใกล้กับไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ และเป็นการกระทำที่ยั่วยุ โดยจีนมีความพยายามมาอย่างยาวนาน ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานภาพที่เป็นอยู่ของไต้หวัน
ในขณะที่มีรายงานจากสำนักข่างรอยเตอร์ ระบุว่า พลเอก เยนส์ สต็อลเตินบาร์ก (Jens Stoltenberg) เลขาธิการใหญ่องค์การนาโตแถลงเตือนปักกิ่ง ถึงการซ้อมรบครั้งใหญ่ของจีนรอบไต้หวันหลังการเยือนของประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี
“การเยือนของประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ไม่ใช่เหตุผลสำหรับจีนในการที่ต้องแสดงปฎิกริยาเกินกว่าเหตุหรือข่มขู่ไต้หวันหรือการใช้ถ้อยคำที่คุกคาม” สต็อลเตินบาร์กกล่าว
และเขากล่าวต่อว่า “สหรัฐฯและพันธมิตรชาตินาโตอื่นๆได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเยือนไต้หวันตามปกติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลสำหรับจีนที่ต้องแสดงปฎิกริยารุนแรงเกินกว่าเหตุ”
ในขณะที่รัสเซียออกแถลงการณ์วันเดียวกัน ตอบโต้นาโต ชี้ ปักกิ่งมีสิทธิ์อธิปไตยชอบธรรมในการซ้อมรบล้อมไต้หวัน อ้างเป็นการยั่วยุที่มาจากฝ่ายสหรัฐฯทำให้มีความตรึงเครียดเพิ่มขึ้นภายในภูมิภาค
โดยโฆษกเครมลิน ดมิตรี เพสคอฟ กล่าวตอบคำถามว่า “มันสิทธิ์อธิปไตยชอบธรรมของจีน” และเขากล่าวต่อว่า “ความตรึงเครียดในภูมิภาคและรอบไต้หวันถูกยั่วยุ…ด้วยการเยือนของประธานสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี” และเสริมต่อว่า “มันไม่มีความจำเป็นอย่างสิ้นเชิงสำหรับการเยือนและเป็นการยั่วยุที่ไม่จำเป็น”
นอกจากนี้ เพโลซีหลังเดินทางเข้าเกาหลีใต้ในค่ำวานนี้(3) เธอมีกำหนดที่จะเดินทางไปเยือนเส้นลดความตรึงเครียดทางการทหาร DMZ ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในจุดร้อนของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
และสำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์มีใจความว่า การเยือนเส้น DMZ ของเพโลซีเป็นการส่งสัญญาณการป้องปรามอย่างแข็งแกร่งระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯต่อต้านเกาหลีเหนือ และการเยือนทำให้เพโลซี กลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯที่ได้ไปเยือนเส้น DMZ หลังจากครั้งสุดท้ายหลังอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ พบกับประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึนในปี 2019
เพโลซีกล่าวกับบรรดาผู้นำเกาหลีใต้ว่า “พวกเราขอกล่าวต่อพวกคุณว่า มิตรภาพและความสัมพันธ์นั้นเริ่มมาจากความเร่งด่วนและความมั่นคงเมื่อหลายปีมาก่อนและได้กลายเป็นมิตรภาพที่อบอุ่นมากที่สุด ดังนั้นพวกเราต้องการเดินหน้าทางด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการบริหารทางรัฐบาลผ่านทางระหว่างรัฐสภาระหว่างกัน”
อย่างไรก็ตามไม่มีหมายกำหนดการเดินทางข้ามไปเยือนเกาหลีเหนือสำหรับเพโลซีที่ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นประเทศสุดท้ายตามหมายกำหนดการเดินทางทัวร์เอเชียครั้งนี้
