สถานการณ์ร้อนในช่องแคบไต้หวันยังคุกรุ่น จีนเป็นฝ่ายมีแต้มต่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาสกลายเป็นฝ่ายรุกทั้งทางการทูต เศรษฐกิจและทางการทหาร ชัยชนะที่ฉาบฉวยของสหรัฐในการใช้นักการเมืองหญิงมาล่อเป้าให้จีนถล่ม แต่จีนไม่ตกหลุมพลาง กลับเป็นผลดีกับจีนในยุทธศาสตร์รวมชาติ
ดูแอ็คชั่นของจีนล่าสุดเมื่อวานนี้ จีนจัดหนักซัลโวขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงครั้งแรก 11 ลูกยิงข้ามเกาะ ขณะล้อมด้วยกองเรือพิฆาตเคลื่อนที่เร็วแบบยันต์ ๖ ทิศ ขยับเข้าใกล้ทีละนิด พร้อมกับส่งเครื่องบินขับไล่รอบละ ๒๗ ลำบินเฉียดเส้นมัธยฐานบ้าง ผ่าเข้าไปให้ใจสั่นเล่นบ้าง ทางการจีนบอกจะทำให้ชินซึ่งก็ดูจะเป็นเช่นนั้น เพราะประชาชนไต้หวันทั่วไปยังดำเนินชีวิตเป็นปกติ ออกไปจับจ่ายใช้สอยไม่ตื่นตระหนก
ที่สำคัญพอเห็นสหรัฐเพี่ยงพล้ำในทางยุทธวิธี อังกฤษก็ยื่นหน้ามาทันทีว่าจะส่งทูตไปเยือนไต้หวันบ้าง แต่ยังไม่บอกว่าจะมาวันไหน คาดว่าไม่กล้ามาช่วงซ้อมรบยิงกระสุนจริงของจีนในช่วงนี้เป็นแน่
วันที่ ๕ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์และซีจีทีเอนรายงานการเปิดฉากซ้อมรบใหญ่รอบไต้หวัน หลังจากเวลาที่กำหนดไว้ นั่นคือ ประมาณเที่ยงวัน (ตรงกับราวๆ ๑๑.๐๐ น.ตามเวลาเมืองไทย ของวันพฤหัสบดีที่ ๔ ส.ค.ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน :ซีซีทีวี รายงานว่า การซ้อมรบได้เริ่มต้นขึ้น โดยจะสิ้นสุดลงในเวลาเดียวกันของวันอาทิตย์ที่ ๗ ส.ค. และเสริมว่า การซ้อมรบที่ถือเป็นการซ้อมรบในช่องแคบไต้หวันครั้งใหญ่ที่สุดของจีน จะครอบคลุมการยิงด้วยกระสุนจริงลงในทะเลและขึ้นสู่อากาศในบริเวณรอบไต้หวัน
พันเอกอาวุโส สือ อี้ โฆษกกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของจีนแถลงว่า เสร็จสิ้นการยิงขีปนาวุธตามแบบแผนธรรมดา (นั่นคือ ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์) ในบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งด้านตะวันออกของไต้หวัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบที่วางแผนไว้ โดยมีเป้าหมายในการทดสอบความแม่นยำของขีปนาวุธและความสามารถในการต่อต้านการเข้าถึงพื้นที่ของศัตรู และ/หรือ ต่อต้านการควบคุมพื้นที่ดังกล่าวของศัตรู
จีนยิงขีปนาวุธทิ้งตัว (ballistic missile) ชั้นตงเฟิง (Dongfeng) จำนวน ๑๑ ลูก โดยแบ่งเป็น “หลายๆ ระลอก” เข้าสู่น่านน้ำด้านต่างๆ รอบเกาะไต้หวัน ทางการไต้หวันโวยวายว่าละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ
ชาวเน็ตเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่าจรวดพิสัยไกลถูกยิงจากผิงถาน มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกของจีน ห่างจากเกาะไต้หวันเพียง ๑๒๕ กิโลเมตร นอกจากนี้ทั้งเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือดำน้ำนิวเคลียร์ก็อยู่ในรายการปรากฏตัวในน่านน้ำช่องแคบไต้หวันด้วย ขนมาเพียบเครื่องบินขับไล่ล่องหน เจ-๒๐(J-20) และเรือบรรทุกบินรบยู-๒๐ (YU-20)
นักวิเคราะห์ทางการทหารของจีนกล่าวว่า การซ้อมรบครั้งนี้ “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” และเป็นครั้งแรกที่มีการยิงขีปนาวุธข้ามเกาะไต้หวัน การซ้อมรบครั้งนี้จัดขึ้นในแบบเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบจริง หากกองกำลังไต้หวันเผชิญหน้ากับกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) โดยเจตนาและมีการยิงโดยไม่ตั้งใจ พีแอลเอก็จะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวและปฏิบัติรุกรบเร็วภายใน ๒ ชั่วโมงตามที่เคยเปิดเผยไว้ก่อนหน้านี้เสมอ
จีนประกาศ the principle One China หรือหลักการ ‘จีนเดียว’ ได้รับกระแสตอรับจากนานาชาติทั่วโลก จีนยืนยันไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตน และสงวนสิทธิ์ในการเข้าผนวกด้วยกำลัง โดยประกาศเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า ความขัดแย้งกับไต้หวันเป็นกิจการภายในของจีน และสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งคณะรัฐมนตรีจีนแถลงว่า การลงโทษพวกที่ดื้อรั้นซึ่งส่งเสริมการประกาศแยกตัวของไต้หวัน ร่วมมือกับกองกำลังภายนอกนั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตามรายชื่อแกนนำที่ทำผิดกฎหมายความมั่นคงมีโทษทางอาญาทั้งปรับและจำคุก ที่ฮือฮาคือ นายกรัฐมนตรีเกาะไต้หวัน, ประธานสภาฯ,รมว.กระทรวงการต่างประเทศ อาจมีการหนีหลังเลิกซ้อมรบ หรืออาจถูกรวบในระหว่างนี้
ขณะที่ หวัง ยี่มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ประกาศขณะที่อยู่ในการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศสมาคมอาเซียน ที่จัดขึ้นที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา วันเดียวกันว่า การเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เป็นการกระทำที่บ้าคลั่ง ไร้ความรับผิดชอบ และไร้เหตุผลอย่างยิ่งของสหรัฐอเมริกาและไม่พบรมว.ต่างประเทศสหรัฐและตัวแทนต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่ตั้งใจมาจุดพลุต่อถ้าจีนถล่มเปโลซี ทำให้ทั้งสองไม่สามารถโหมกระแสต่อ เพราะอาเซียนไม่เล่นด้วย
ท่ามกลางความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันส.ส.อังกฤษทะลุกลางป้องวางแผนเยือนไต้หวัน โดยนายทอม ทูเจนดัต(Tom Tugendhat) ประกาศจะเป็นผู้นำคณะทูตเดินทางมาให้กำลังใจไช่ อิงเหวิน แต่อ้างเป็นช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างลอนดอนกับปักกิ่งแย่ลง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคนเก่า บอริส จอห์นสันมาถึงทีมบริหารใหม่ประกาศต้านจีนตั้งแต่สมัครเลือกตั้งสดๆร้อนๆ
การเคลื่อนไหวของอังกฤษครั้งนี้แสดงว่า ตะวันตกต้องการจุดชนวนสงครามให้ได้ ดังกรณีปฏิวัติสีในฮ่องกงซึ่งในที่สุดจีนก็สามารถปราบจนราบคาบแต่ยืดเยื้อ ขณะที่สถานการณ์ของไต้หวันต่างจากฮ่องกงจึงเห็นการเคลื่อนไหวทางทหารของจีนอย่างดุดันเป็นบทแรก ตามด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ ดำเนินคดีทางกฎหมายแยกปลาเน่าจากข้อง ยังคงต้องจับตากระแสขัดแย้งภายในไต้หวันระหว่างฝ่ายสนับสนุนรวมชาติ และฝ่ายต้องการแยกตัวเป็นอิสระภายใต้การสนับสนุนของตะวันตกที่มีสหรัฐและอังกฤษเป็นหัวโจกว่าจีนจะรับมืออย่างไร!!