โอกาสในวิกฤต!? พาณิชย์ยันจีนแบนสินค้าไต้หวันกว่า ๑๐๐ รายการไม่กระทบไทย เร่งหาช่องทางส่งออกแทน

0

พาณิชย์ ติดตามสถานการณ์จีน-ไต้หวันอย่างใกล้ชิด ล่าสุดจีนสั่งห้ามนำเข้า-ส่งออกสินค้ากว่า ๑๐๐ รายการจากไต้หวัน เบื้องต้นพบไม่กระทบไทย พร้อมหาช่องทางโอกาสในการส่งออกเพิ่มรายได้ 

วันที่ ๔ ส.ค.๒๕๖๕ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์  ได้ออกมาเปิดเผยว่า สำนักงานทูตพาณิชย์มะนิลา (ส่วนที่2) – ไต้หวัน รายงานถึงการเดินทางของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ นางแนนซี เพโลซี ได้เดินทางไปยังไต้หวันซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้าของไทย แต่เบื้องต้นทูตพาณิชย์ได้ระบุว่า ผลกระทบไม่น่าจะส่งผลกับประเทศไทยโดยตรง 

ผิดกับทางไต้หวันเอง ที่ในขณะนี้ประเทศจีนได้ห้ามนำเข้าสินค้าจากไต้หวันแล้วจำนวนกว่า ๑๐๐ รายการ ตัวอย่างเช่น ส้ม ปลาดาบ และขนมขบเคี้ยว รวมถึงระงับการส่งออกทรายซึ่งไต้หวันต้องพึ่งพาการนำเข้าจากจีนอีกด้วย 

โดยขนมขบเคี้ยวเป็นสินค้าส่วนใหญ่ที่จีนห้ามนำเข้าจากไต้หวัน รวมถึงพายสับปะรดอีกด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการส่งออกวัตถุดิบของไทยไปยังไต้หวัน เช่น วัตถุดิบของการทำพายสับปะรด

การสั่งแบนดังกล่าวครอบคลุมสินค้าถึง ๓๕ ประเภท เช่น ปลาและอาหารทะเล น้ำมันปรุงอาหาร บิสกิตและเค้ก ทั้งยังส่งผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ของไต้หวัน เช่น Ve Wong ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และ Chi Mei ผู้ผลิตอาหารแช่แข็ง

ทางด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการสั่งให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์และตรวจสอบสินค้าที่สามารถส่งออกไปทดแทนได้ และดำเนินการเชื่อมโยงผู้นำสินค้าเข้าจีนให้เร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการส่งออกของไทย 

จากการรายงานของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่ได้ติดตาม พบว่าสินค้าที่ไทยมีศัยกภาพสามารถส่งออกไปจีนแทนที่ไต้หวันได้ สำรวจเบื้องต้น ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผลไม้ ปลา ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม

การลงโทษทางเศรษฐกิจถือเป็นแท็กติกที่จีนเคยใช้ลงโทษไต้หวันมาก่อนหน้านี้แล้ว เช่น การสั่งห้ามนำเข้าสับปะรด แอปเปิ้ล และน้อยหน่าจากไต้หวันในปี ๒๐๒๑ จนไต้หวันต้องทำแคมเปญสับปะรดเพื่อประชาธิปไตยและเสรีภาพขึ้นมาต่อสู้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการแบนของจีนมักจะจำกัดอยู่ในกลุ่มสินค้าไม่กี่ชนิด ไม่เคยมีการแบนสินค้าจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน

ชู ชุยเจิ้ง รองประธานสภากิจการจีนแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน ระบุว่า

“ในอดีตจีนจะสั่งแบนสินค้าในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เช่น ผลไม้หรือปลา ทำให้เศรษฐกิจไต้หวันได้รับผลกระทบไม่มากนักในระดับมหภาค แต่ครั้งนี้เป็นการแบนครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท และนี่อาจเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของมาตรการตอบโต้ เรามั่นใจว่าจะมีมาตรการลงโทษอื่นๆ ตามออกมาอีก”  

นักวิเคราะห์เชื่อว่า การสั่งแบนสินค้าไต้หวันของจีนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อโจมตีพรรค DPP ของไช่ อิงเหวิน ที่กำลังจะเข้าสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้โดยตรง โดยหากเศรษฐกิจของไต้หวันมีปัญหา ก็จะทำให้พรรค DPP ได้รับคะแนนโหวตลดลง

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ของไต้หวันกล่าวว่า รัฐบาลยังอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบจากมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าของจีน แต่เชื่อว่าจะมีผลกระทบพอสมควร โดยรัฐบาลไต้หวันจะช่วยให้การลงทะเบียนของบริษัทต่างๆ เป็นไปตามเกณฑ์ใหม่ของรัฐบาลจีน แม้จะเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ช่วยให้การแบนสินค้าไต้หวันถูกยกเลิกก็ตาม