จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ที่กองทัพปลดแอกประชาชน (PLA) เปิดฉากซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะไต้หวันแล้ว ตามคำมั่นที่จะเปิดตัวปฏิบัติการทางทหารแบบพุ่งเป้าหมายหลายชุด เพื่อตอบโต้การเยือนไต้หวันของนางแนนซี่ เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน โดยเป็นการซ้อมยิงจริงในช่องแคบไต้หวัน และซ้อมยิงขีปนาวุธในส่วนทางตะวันออกของเกาะ
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบินขับไล่ล่องหน J-20 เข้าร่วมซ้อมรบมาตั้งแต่ก่อนที่เปโลซีจะเดินทางถึงไต้หวันมาก่อนแล้วด้วย ทั้งนี้จีนยังได้ออกกำหนดการถ่ายทอดสดการซ้อมรบครั้งนี้ ในวันที่ 4-7 สิงหาคม โดยจะเป็นการซ้อมในพื้นที่ 6 แห่งที่ล้อมรอบเกาะไต้หวันในทุกทิศทาง
ส่วนทางด้านสื่อ Global Times ของจีนได้รายงานถึงความเห็นของนักวิเคราะห์ ต่อการซ้อมรบครั้งนี้ว่า จีนไม่ได้มุ่งเป้าไปที่เปโลซีแต่อย่างใด แต่เป็นการซ้อมรบที่จับตาถึงท่าทีของไต้หวันที่พยายามแยกตัวออกจากจีน และเร่งกระบวนการรวมชาติให้เร็วขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจีนเองก็มีกระบวนการมากมาย ในการรวมชาติที่นอกเหนือจากการซ้อมรบ เช่น การกำหนดเป้าหมายทางทหารของไต้หวัน แบบที่เคยทำเมื่อครั้งวิกฤตช่องแคบไต้หวันในปี 1996, การส่งเครื่องบินทหารและเรือเข้าไปยังน่านฟ้า และพื้นที่ทางทะเลของไต้หวัน, รวมถึงการผลักดันกฎหมายใหม่สำหรับการรวมชาติด้วย
นักวิเคราะห์ต่างชาติยังเสริมด้วยว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของเปโลซีนั้น ไม่มีเหตุผลใดที่จีนจะต้องวิตกกังวล เพราะการแสดงออกทางการเมืองดังกล่าว ไม่มีทางเปลี่ยนข้อได้เปรียบที่จีนมีอยู่ โดยเฉพาะการทหาร การกระทำครั้งนี้ จะไม่ทำให้เกิดเอกราชในไต้หวัน หรือเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนได้ ซึ่งสิ่งที่จีนจำเป็นต้องทำคือ ใช้เหตุการณ์นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการผลักดันไปให้ถึงกระบวนการรวมชาติให้จงได้
ขณะที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ จีนเลือกตอบโต้กลับ โดยการที่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน จะไม่มีแผนจะพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ในการประชุมอาเซียนที่ทั้ง 2 จะเข้าร่วมประชุมในสัปดาห์นี้ นั่นทำให้น่าจับตามองว่าเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจที่จีนมีต่อสหรัฐ
เพราะนางฮัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงยืนยันว่า นายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไม่มีแผนที่จะพบกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แม้ว่าทั้งคู่จะเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 55 ในสัปดาห์นี้ ที่กัมพูชา โดยการเยือนของนายหวังครั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของนายปรัก โซคนน์ รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา เพื่อหารือถึงประเด็นที่มีความกังวลกับประเทศต่าง ๆ ร่วมกัน