กลายเป็นประเด็นเดือดที่น่าจับตา ทันทีที่แนนซี่ เปโลซี่ ประธานรัฐสภาสหรัฐอเมริกา ได้เยือนไต้หวันเป็นที่เรียบร้อย ทำให้จีนออกมาประณามสหรัฐฯและกล่าวว่า พวกเขาต้องชดใช้ในการกระทำครั้งนี้
ล่าสุดจีนสั่งแบนสินค้าที่ขนส่งจากไต้หวันกว่า 100 แบรนด์จ ากผู้ส่งออกอาหารสัญชาติไต้หวัน ถือเป็นการใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจของจีน โดยสำนักข่าวท้องถิ่น United Daily News รายงานว่าคำสั่งแบนดังกล่าวประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสินค้าหลายประเภท เช่น อาหารทะเล ชา และน้ำผึ้ง
คำสั่งแบนสินค้าล่าสุดของจีน คือมาตรการที่ต้องการโจมตีไปที่อุตสาหกรรมเกษตร สินค้าเกษตรหลายชนิดมาจากผู้ผลิตที่อยู่ทางตอนใต้ของไต้หวันและได้รับการสนับสนุนทางการเมือง จากประธานธิบดีไช่ อิงเหวิน จีนแบนการนำเข้าสับปะรดจากไต้หวันตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่เพียงแค่นี้แต่ยังแบนผลไม้นำเข้าชนิดอื่นด้วย เช่น ชมพู่ น้อยหน่าในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งผลไม้ส่วนใหญ่ที่ผลิตในไต้หวันนั้นส่วนใหญ่บริโภคภายในประเทศและส่งออกมายังจีน
การแบนสินค้านำเข้าจากไต้หวันล่าสุดของจีนคือการแบนเพื่อโต้ตอบสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของแนนซี่ เปโลซี่ ที่มีความต้องการจะมาเยือนไต้หวัน
ขณะที่ทางด้านนายเซี่ย เฟิง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศจีน เรียกนายนิโคลัส เบิร์น เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีน เข้าพบหลังจากที่ในที่สุด นางแนนซี่ เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางถึงไต้หวันไม่นาน นายสิ ได้กล่าวกับนิโคลัส เบิร์นว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ นับเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก และผลที่ตามมาก็จะร้ายแรงอย่างยิ่งด้วย จีนจะไม่อยู่เฉยแน่นอน และที่สุดแล้ว ไต้หวันจะต้องกลับสู่มาตุภูมิของจีน