จัดเต็ม! ศชอ.หอบหลักฐานมัด 13 เฟซบุ๊กร่วมบลูลี่ หมิ่นฯสถาบันทิศทางไทย ส่งปอท.ฟันกราวรูด

0

จากที่เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (1 สิงหาค 2565) ที่ศูนย์รับแจ้งความ​ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง(บช.ก.) นั้น

ทั้งนี้นายนพดล พรหมภาสิต เลขาธิการศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) และ แอดมินน้ำ เพจ ศปปส. ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ทองศูนย์ อุ่นวงค์ รอง ผบก.ปอท. ร.ต.อ.ณัฐพล ทะเลน้อย รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. โดยนำหลักฐานการโพสต์และแสดงความคิดเห็นโจมตีให้ร้ายในลักษณะร่วมกันบลูลี่”สถาบันทิศทางไทย”จำนวน 13 บัญชีเฟซบุ๊ก

โดยนายนพดล เปิดเผยด้วยว่า ทาง ศชอ.ได้รับมอบอำนาจจากสถาบันทิศทางไทย โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กรรมการ ฯ มอบอำนาจให้ตนมาแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่เข้าไปร่วมกันหมิ่นสถาบันทิศทางไทยให้เกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง

“ศชอ.ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดจำนวน 13 บัญชีเฟซบุ๊ก 1 ในนั้นเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศในคดีความมั่นคง (อั้ม เนโกะ)”

นอกจากนี้ เลขาฯ ศชอ. ยังฝากเตือนสติทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นส้ม-แดง หรือสลิ่ม การไปบลูลี่คนอื่น การคอมเม้นต์ด่า ตลอดจนการโพสต์สิ่งต่างๆ ที่เป็นสาธารณะ ถ้าบุคคลที่ถูกกล่าวถึงทราบและดูแล้วว่าได้รับความเสียหาย เขาอาจจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายอาญามาตรา 326 , 328 หรือ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ได้ ทุกฝ่ายมีสิทธิที่จะเป็นโจทก์และจำเลยได้ทั้งนั้น

“ล่าสุดฝ่ายสลิ่มมาขอให้ตนช่วยหลังโดนส้ม-แดงแจ้งความดำเนินคดี ตนขอดูรายละเอียดเห็นว่าใช้ชื่อ-นามสกุลจริงไปด่าเขารุนแรงมาก ไม่ใช่โพสต์เดียวหรือแสดงความเห็นเดียว แต่ไปด่าเขารัวๆ เลย แม้จะไม่เอ่ยชื่อเขาแต่ถ้าเขาสามารถพิสูจน์ให้ศาลเห็นได้ว่าเป็นเขา คุณก็จะมีความผิด จะอ้างว่าด่าลอยๆ ไม่ระบุใครแบบนั้นไม่ได้ ถ้าคนถูกด่าสามารถโยงได้ก็มีความผิด

อายุความคดี 3 เดือนก็จริง แต่ถ้าเขาพิสูจน์ได้ว่าเขารับรู้แล้วแจ้งความก็สามารถดำเนินคดีได้ อย่าไปคิดเองว่าโพสต์นานนับปีแล้วน่าจะหมดอายุความไปแล้ว แนะนำว่าอย่าไปด่าว่าใคร คุยกันอย่างสุจริตชน วิพากษ์วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรดีกว่า

ศชอ.เราเปิดมาประมาณ 2 ปี (2 ก.ย.63) ช่วยเหลือคนถูกบลูลี่ในสังคมออนไลน์มาจำนวนหลายราย ส่วนใหญ่จะยอมรับผิดก่อนในชั้นพนักงานสอบสวน มีบางรายปฏิเสธแต่เมื่อคดีขึ้นสู่ชั้นอัยการ – ศาล พอถึงหน้าบังลังก์ก็จะยอมรับสารภาพหมด

แนะนำให้รับหมายเรียก มาพบ พงส.ตามที่นัด และยอมรับจบเรื่องในชั้นพนักงานสอบสวนเลยจะดีที่สุด ถ้าไม่ได้ทำจริงๆ ก็ค่อยต่อสู้ในชั้นศาลให้ถึงที่สุด ศาลตัดสินว่าไม่ผิดก็สามารถฟ้องกลับได้” เลขาศชอ. กล่าว