ดร.แสงเทียน ให้กำลังใจป๋าเทพ กล้าพูด กล้าแสดงออก บนวิถีทางประชาธิปไตย

0

จากกรณีที่ป๋าเทพหรือเทพ โพธิ์งาม นักแสดงตลกชั้นครูในวงการแสดงของประเทศไทย ที่ออกมากล่าวถึงผู้ว่ากรุงเทพมหานคร โดยมีการกล่าวอย่างชัดเจนที่มีการแสดงความคิดเห็น ไปในทิศทางที่ไม่ตรงกับความนิยมในตัวผู้ว่าฯจากการออกสื่อของหลายช่องและช่องทางของสื่อในสังคมออนไลน์ ที่โหมกระหน่ำยิ่งกว่า Super PR ของกรุงเทพมหานคร ไปอย่างเห็นได้ชัดในปัจจุบัน

การเมือง - 'ดร.แสงเทียน'ตอกหน้า'ปิยบุตร'ถามตรงๆ ใครกันแน่สร้าง'ความผิดปกติ'

โซเชียลแห่คอมเมนต์'ป๋าเทพ' ใน 'เพจขนมเปี๊ยะขั้นเทพ' หลังขายได้ทะลุแสนต่อวัน สยามรัฐ

ก็ต้องให้ป๋าเทพเข้าใจสถานการณ์ในช่วงนี้ มันเป็นช่วง “ข้าวใหม่ปลามัน“ การจะไปกล่าวถึงในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับกระแสต่างๆ ที่มีในช่วงนี้ก็อาจต้องทานกับเสียงด่าว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่นักข่าวที่กล่าวถึงป๋าเทพว่าไม่รู้อะไร หรือไม่เกี่ยวเพราะเป็นคนที่ไม่ได้ลงคะแนน หรือไม่ได้ดูตอนที่ท่านผู้ว่าทำงาน ดูสื่อจะทำตัวเป็นกระบอกเสียงแทนผู้ว่าฯอย่างเต็มที่ ก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะย้อนไปถึงสมัยที่ นักวิชาการหรือคนที่ไม่เห็นด้วยกับช่วงการขึ้นมาบริหารบ้านเมืองโดยการนำการตลาดและการประชาสัมพันธ์มานำหน้าการทำงาน เพื่อให้ผู้สนับสนุนเห็นว่ากำลังทำงานอย่างหนักในทุก ๆ วัน ในช่วงนั้นการเห็นต่างจากแนวคิดของผู้นำที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร จึงเป็นเรื่องต้องห้ามของสังคมไป คนที่เริ่มมองเห็นว่าเป็นการประชาสัมพันธ์มากไป เช่น การจัดให้มี Reality ของผู้นำไปนอนพักค้างกับบ้านชาวบ้าน จะกินอะไร จะอาบน้ำอย่างไร ดูน่าสนใจ และดูเป็นการเข้าถึงผลงานของการมองเห็นค่าของคนรากหญ้าไปหมด นักวิชาการหรือประชาชนคนที่วิพากษ์วิจารณ์คนไหนพูดไม่เยินยอ หรือไม่เห็นด้วยก็หาที่ยืนในสังคมลำบาก บางครั้งต้องอยู่อย่างลำบากแทบเอาชีวิตไม่รอดจากกระบวนการของลิ่วล้อรัฐบาลโดยเฉพาะความเป็นรัฐตำรวจในสมัยนั้น ในพื้นที่ที่มีการออกความคิดเห็นผ่านสื่อวิทยุชุมชน การกล่าวปราศรัยในงานเลี้ยง งานรวมกลุ่มต่างๆ ของชาวบ้านสุ่มเสี่ยงต่อคุกตะรางและถูกประนามจากสังคมอยู่ตลอดเวลา ลองย้อนกลับไปถามคนในสมัยนั้นดู ก็จะได้คำตอบชัดเจน จนกระทั่งมีคนกล้าพอจนทำให้เกิด “ปรากฏการสนธิ” ในช่วงนั้นและตามมาด้วยการประท้วงเปิดโปงสิ่งที่ซุกอยู่หลังม่านประชาสัมพันธ์สร้างภาพพจน์อันสวยหรูมาอย่างยาวนาน จนหลายคนไม่ค่อยอยากไปฟื้นฝอยอะไรกับเรื่องนี้มากนัก

นุ้ย เชิญยิ้ม ลั่นอยู่วงการตลก 30 ปีไม่ปีนเกลียวใคร หลังชาวเน็ตโยง ป๋าเทพ

ครั้งนี้เกิดขึ้นกับคนที่เห็นต่าง ไม่เยินยอ ไม่ชอบใจ ไม่เห็นด้วย กับความเป็นไปในการออกสื่อต่างๆ ของผู้ว่ากรุงเทพมหานครบ้าง โดยมีสื่อโทรทัศน์หลายช่อง ทั้งในระบบโทรทัศน์ช่องปกติ ในระบบช่องดาวเทียม หรือในระบบช่องออนไลน์ ต่างคอยเฝ้าช่องการไลฟ์สดของผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นข่าว ไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นผลงาน การนำเสนอผ่านช่องทางต่างๆ ไม่แตกต่างจากช่วงที่มีการติดตามเรื่องของ “ลุงพล” หรือ “สอง พส.” ในช่วงที่ผ่านมาเลย การกล่าวไปในทิศทางที่ไม่ชื่นชม มองว่าไม่มีผลงาน กลายเป็นคนที่ถูกมองว่า “เสือก” “ไม่มีสิทธิ์” “มัวแต่นอนไม่ดูตอนทำงาน” ฯลฯ

ดราม่าอีกแล้ว! 'ป๋าเทพ โพธิ์งาม' ไลฟ์จวก 'ชัชชาติ' หัดทำงานบ้าง อย่าเอาแต่วิ่งทั้งวัน

ป๋าเทพ จวกชัชชาติ ทำงานอะไรบ้าง วิ่งทั้งวัน ไปดูความเป็นอยู่ของประชาชนบ้าง

ป๋าเทพ โพธิ์งาม

จึงไม่ได้แปลกใจที่จะเห็นคนเข้ามาต่อว่าป๋าเทพต่างๆ นานา เพราะคนส่วนใหญ่ที่มีความคิดแบบป๋าเทพตัดสินใจที่จะเงียบดีกว่า แต่คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการเมืองการปกครองมาหลายยุคหลายสมัยอย่างคนที่ชื่อ เทพ โพธิ์งาม คงมองอะไรได้ออกและดีพอสมควร และเป็นคนกล้าพอในทุก ๆ เรื่อง ชัดเจนในทุกประเด็น เป็นคนทีน่าสนใจในความคิดความเห็นเวลาแสดงออกมาไม่น้อย

ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ให้กำลังใจกับการกล้าคิด กล้าแสดงออกในสิ่งที่ทวนกระแส กล้ากระตุกให้คนที่กำลังได้กับกระแสนิยมได้คิดในแง่มุมอื่นๆ ที่ไม่ได้มีแต่คนเยินยอบ้าง สิ่งที่ป๋าเทพกล้าทำนี้ มีแต่สิ่งที่ดีต่อคนกรุงเทพมหานครถ้าผู้ว่ากรุงเทพมหานครจะทำให้เห็นแทนที่จะมาตอบโต้

แปลกไปมั้ย กับแนวคิดแบบนี้ที่ “ทีด่ารัฐบาล ก็คิดว่าเป็นคนที่มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ตามระบบประชาธิปไตย แต่เวลามีคนพูดไม่ชอบใจผู้ว่ากรุงเทพฯ บ้างกลับหาว่าเขาเสือก นี่มันประชาธิปไตยแบบไหนกันหรือ…”

ชัชชาติ ตอบปมป๋าเทพ ไม่ได้เอาเวลาวิ่งไปเบียดบังเวลาราชการ ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร

รศ.ดร.แสงเทียน อยู่เถา

ประธานยุทธศาสตร์วิจัยสถาบันทิศทางไทย

(๓๑ กรกฎาคม 2565)