หลังจากที่มีรายงานว่านางแนนซี่ เพโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ พร้อมคณะตัวแทนจากสภาคองเกรส สหรัฐฯ จะมีกำหนดการออกเดินทางในวันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเดินทางเยือน 4 ประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ในทวีปเอเชีย ประกอบด้วย ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกันเพื่อต่อต้านการขยายอิทธิพลของจีน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นางเพโลซี่ ยังไม่ยืนยันว่า จะเดินทางเยือนไต้หวัน ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมตามที่มีข่าวหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ผู้นำของจีน กล่าวเตือน นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างการต่อสายหารือกันของผู้นำทั้งสอง โดย ผู้นำจีน ระบุว่า การที่ สหรัฐฯ เข้าแทรกแซงกิจการภายในของไต้หวัน เปรียบเสมือนการเล่นกับไฟ รวมทั้งเรียกร้องให้สหรัฐฯ ปฏิบัติตามนโยบายจีนเดียวอีกด้วย
ล่าสุดมีรายงานจากทางสื่อจีน ระบุว่า กองทัพอากาศจีนไฟเขียว เปิดทางให้เครื่องบินรบของจีนสอยเครื่องบินประธานสภาสหรัฐฯ ได้ทันที หากไม่เปลี่ยนเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังไต้หวัน โดยกองทัพอากาศปลดแอกประชาชนจีน (PLAAF) อนุญาตให้นักบินประจำเครื่องบินรบขับไล่ทำการขึ้นบินประกบสกัดกั้นและแจ้งเตือนไปยังเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ และเครื่องบิน Boeing C-40C (737) ที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นั่งมาด้วย ให้เปลี่ยนเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังไต้หวัน หากเครื่องบินนางเพโลซี ยังเพิกเฉยต่อการแจ้งเตือนของจีนและไม่ยอมเปลี่ยนเส้นทาง กองทัพอากาศจีนขอสงวนสิทธิ์ตามประมวลกฏหมายสูงสุด (รัฐธรรมนูญ) แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน อนุญาตให้นักบินทำการยิงเครื่องบินที่พยายามรุกลํ้าอธิปไตยความมั่นของประเทศได้ทันที
ทั้งนี้ นาวาอากาศเอกอาวุโส Shen Jinke โฆษกกองทัพอากาศจีน (PLAAF) กล่าวว่า “หากพบเจอเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ ขณะคุ้มกันเครื่องบินของเพโลซีไปยังไต้หวัน แสดงว่าเป็นการบุกรุกอธิปไตยของจีน กองทัพจีนมีสิทธิ์บังคับให้พวกเขาเปลี่ยนเส้นทาง ซึ่งรวมถึงการยิงเตือนและการสกัดกั้นทางยุทธวิธีหากไม่ได้ผล ก็จงยิงพวกเขาทิ้งเสีย”
