เปิดลึกเหตุ ตะวันตก ไม่กล้าเปิดศึก “จีน-รัสเซีย”! ขณะยูเครน ถูกถล่มเมืองหลวงยับ ทำยุโรปราคาก๊าซพุ่ง 10 เท่า
จากกรณีที่ผู้ว่าการแคว้นเคียฟแจ้งผ่านเทเลแกรมว่า ชุมชนหนึ่งในเขตวิชโกรอดตกเป็นเป้าหมายโจมตี และมีสิ่งปลูกสร้างแห่งหนึ่งเสียหาย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหรือไม่ ด้านผู้ว่าการแคว้นเชอร์นิฮิฟแจ้งในเวลาเดียวกันว่า มีจรวดหลายลูกถูกยิงมาจากดินแดนของเบลารุส ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือเผยว่า ถูกปืนใหญ่ถล่มด้วย

โดยทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ยูเครน โดนถล่มเมืองหลวง โดยอ้างอิงจาก สาธาธณรัฐโดเนตสก์ รัสเซีย มีเนื้อหาบางส่วนว่า ด้วยสหรัฐ อังกฤษ ฉายา “คู่หูป่วนโลก” สมัยก่อนชาติพวกนี้ทำสงครามฉายเดี่ยวมาหลายร้อยปี อังกฤษ ทำศึกเดี่ยวครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1982 ราว 40 ปีก่อนในสงครามชิงเกาะฟอร์กแลนด์ กับอเจนตินา ส่วนสหรัฐ นั้นไม่เคยทำสงครามเดี่ยวตัวต่อตัวกับชาติใดมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง เคยทำสงครามแบบรุมช่วงสงครามเกาหลี โดยเกณฑ์ชาติบริวารรวมถึงไทยไปรบด้วย ก็ไม่ชนะสหภาพโซเวียติที่หนุนเกาหลีเหนือจนต้องเจรจายุติสงครามกัน สหรัฐ เคยทดลองทำสงครามกึ่งเดี่ยว มีไทยช่วยครั้งสุดท้ายคือปี 1975 ราว 47 ปีก่อน ที่เวียดนามและลาว รบอยู่ 18 ปี สหรัฐ แพ้ขาดหลุดลุ่ย วิ่งหนีกลับบ้าน หลังจากนั้นมาทั้งสหรัฐ อังกฤษ ก็เข็ดไม่กล้าทำสงครามชกตัวต่อตัวกับชาติใดอีกเลย

ต่อมาจึงค้นพบตำราพิชัยสงครามชั้นยอด คือ “ยกพวกไปรุมตีคนอ่อนแอกว่าเท่านั้นจึงจะชนะ” เช่น สงครามอิรัก ซีเรีย ลิเบีย ยูโสลาเวีย อัฟกานิสถาน ดังนั้นในยุคปัจจุบันหากใครคาดหวังจะเห็นสงครามเดี่ยวตัวต่อตัวระหว่างสหรัฐ อังกฤษ กับรัสเซีย จีน ความเป็นไปได้คือ “ศูนย์” เพราะชาติตะวันตกไม่ได้มีความกล้าหาญที่ทำศึกกับคู่ต่อสู้ที่อาวุธสูสีทัดเทียมกัน เมื่อใจไม่กล้าพอทำศึกเดี่ยวมานาน สิ่งที่ทำได้คือ “สร้างภาพว่าพวกมากและแข็งแกร่ง” โดยตั้งกลุ่มสารพัดชื่อ เช่น NATO เอาไว้หาเรื่องแหย่รัสเซีย , Indo-pacific , AUKUS เอาไว้หาเรื่องแหย่จีน กลุ่มสงครามพวกนี้มีหลักการเดียวกันคือ “แบ่งปันข่าวกรองลวงให้ชาติบริวารถูกหลอกใช้ออกหน้าไปตีกับอริก่อน”

สถานการณ์ในยุโรปตอนนี้ นายเดนิส พุชชิลิน หัวหน้ากองทัพสาธาธณรัฐโดเนตสก์ ฝ่ายรัสเซีย เขาได้ร้องขอให้รัสเซียช่วยปลดปล่อย แคว้นและเมืองต่างๆ ในยูเครน ที่เคยก่อตั้งโดยชาวสลาฟรัสเซียในอดีต ดังนั้นทั้ง 8 แห่งนี้ระยะต่อไปจะอ่วมหนักแน่นอน โดยคาดว่ารัสเซียจะเปิดการโจมตีด้วยขีปนาวุธความแม่นยำสูงระยะไกลขนานใหญ่ทางทิศเหนือ ตะวันออก และไต้ของยูเครน พร้อมกับกลยุทธ์ตัด Supply พลังงานยุโรป เพื่อบีบให้สหรัฐ ยุโรป บังคับยูเครนให้เจรจายอมตามเงื่อนไขที่รัสเซียต้องการ
ยิ่งใกล้กลางเดือน ต.ค.2022 ที่เริ่มฤดูหนาวยุโรปเท่าไร รัสเซียจะยิ่งถล่มยูเครนหนักและตัดพลังงานยุโรปมากเท่านั้น เพราะรัสเซียประเมินแล้ว สหรัฐ และ NATO “ใจไม่ถึงพอจะบวกด้วย” คงหายสงสัยศักยภาพทางทหารรัสเซียไปแล้ว และจะหันไปแหย่จีนทางไต้หวัน และญี่ปุ่น เป็นคิวถัดไป เพื่อจะประเมินศักยภาพทางการรบของจีนที่ไม่มีใครเคยเห็นมาตั้งแต่ปี 1945
ล่าสุดวันที่ 28 ก.ค.2022 กองทัพรัสเซีย จึงเดินหน้าตามแผน โดยยิงขีปนาวุธความแม่นยำสูง 6 ลูกมาจากเรือในทะเลดำถล่มที่ตั้งทางทางทหารชานกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ทำให้อาคาร 3 หลังพังพินาศราบเสียหายอย่างหนัก รวมถึงทหารยูเครน และทหารรับจ้างต่างชาติ Azov กลายเป็นปุ๋ยกองใหญ่ , ในวันเดียวกันกองทัพรัสเซียยังยิงขีปนาวุธหลายชนิดราว 25 ลูกมาจากเมืองโกเมล เบลารุส ใส่เมืองเชอร์นิฮิฟ ทางเหนือของยูเครน
, ยิงขีปนาวุธถล่มศูนย์กลางบริหารเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน , ยิงจรวดใส่เมืองครอปวีนิตสกี ที่อยู่ห่างจากกรุงเคียฟ 250 กม. , และภายหลังรัสเซียลดปริมาณส่งแก๊สผ่านท่อ NordStream1 ไปที่เยอรมนีเหลือแค่ 20% จากเดิม เกิดความโกลาหลอย่างหนักราคาก๊าซในยุโรปพุ่งสูงออกชั้นบรรยากาศแพงมากถึง 2,200 ดอลลาร์ต่อพันลูกบาศก์เมตร หรือแพงขึ้นกว่าเดิม 10 เท่าตัว
อัตราเงินเฟ้อเยอรมนี 8.5% ราคาเชื้อเพลิงครัวเรือนเพิ่ม 35.7% ต้องจ่ายเพิ่มหลังคาเรือนละเฉลี่ยราว 1,000 ยูโร/เดือน (38,500 บาท) และขณะนี้นายแกรฮาร์ด ชโรเดอร์ อดีตนายกฯ รัฐมนตรีเยอรมนี ได้รับการร้องขอจากภาคอุตสาหกรรมให้เป็นตัวแทนบินไปกรุงมอสโค รัสเซีย อย่างเร่งด่วนฉุกเฉินขอเปิดน่านฟ้ารัสเซียเป็นกรณีพิเศษเพื่อยอมศิโรราบกับประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย ถ้าผู้นำรัสเซียไม่ยอม เยอรมนีที่มีเศรษฐกิจใหญ่สุดพังชาติเดียว สหภาพยุโรป ที่เหลือจะล้มลงระเนระนาดหมด