ถือว่าน่านจับตามองสถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่มีกระแสข่าวแกนนำรัฐบาลส่งสัญญาณต้องการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น ปรากฎว่า มีความเคลื่อนไหวของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บางส่วนทันที โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงภาคเหนือ ภาคอีสาน ที่ไม่เห็นด้วยกับการกลับไปใช้บัตรใบเดียว เพราะไม่ได้ทำให้ได้เปรียบแต่อย่างใด
โดย ส.ส.บางคนได้แสดงความเห็นในไลน์กลุ่มพรรคแล้วว่าไม่เห็นด้วย เพราะกระแสในพื้นที่สู้กับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่ได้ เสี่ยงจะสอบตก เพราะประชาชนจะมีแค่ตัวเลือกเดียว ขณะที่การใช้บัตรสองใบอย่างน้อยจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน สามารถเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส.แม้ไม่ชอบพรรคที่สังกัดก็ตาม บางพื้นที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่มีฐานเสียงแข็งแรงพอจะขอร้องกับประชาชนได้ เพราะประชาชนยังสามารถไปกาพรรคที่ชื่นชอบได้อีกใบหนึ่ง ซึ่งการใช้บัตรใบเดียว เอื้อแค่เพียงพื้นที่ภาคใต้ที่ พปชร. และตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมยังมีกระแสอยู่
ทั้งนี้ ส.ส.ภาคเหนือบางส่วนถึงกับระบุว่า หากที่สุดผู้ใหญ่ตัดสินใจใช้บัตรใบเดียว อาจจะต้องโยกย้ายพรรคเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ เนื่องจากกระแสของพรรคเพื่อไทยค่อนข้างแรง
นอกจากนี้มีรายงานว่า นอกจาก ส.ส.ของพปชร. ยังมี ส.ส.ภาคอีสานบางส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่เห็นด้วยกับบัตรใบเดียวด้วยเหตุผลเดียวกัน และพยายามจะแจ้งกับผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไม่ให้สนับสนุนแนวทางนี้
อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องบัตรใบเดียวนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. ได้แจ้ง ส.ส.ของพรรคเรื่องบัตรใบเดียวตั้งแต่การประชุม ส.ส.เมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้ว โดยการประชุมครั้งนั้นนอกจากกำชับให้ ส.ส.ลงมติรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด 11 คนไปในทิศทางเดียวกัน
ซึ่งพล.อ.ประวิตรยังได้แจ้งกับ ส.ส.ว่าจะมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญในสัปดาห์นี้ แต่สุดท้ายชะลอออกไปก่อน ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า สาเหตุที่ต้องการกลับไปใช้บัตรใบเดียว เนื่องจากแกนนำพรรคได้มีการคำนวณสูตรต่าง ๆ หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบัตรเลือกตั้งสองใบทั้งสูตรหาร 500 หรือหาร 100 และการกลับไปใช้บัตรใบเดียว ซึ่งประเมินกันแล้วว่า บัตรใบเดียวเหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุด และยังยืนยันด้วยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปใช้บัตรใบเดียวสามารถทำทันก่อนครบอายุรัฐบาล