ออกมาพูดทีก็สั่นสะเทือนที!!! ซึ่งที่สั่นสะเทือนไม่ใช่เพราะความน่ากลัวอะไรหรอก แต่เพราะข้อมูลต่างหาก?!?! ที่ช่อพูดออกมาแบบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นตลอด ปากอ้างว่าเป็นพรรคประชาธิปไตย พร้อมถูกตรวจสอบแต่พอถูกตรวจสอบจริงขึ้นมา ก็ร้องแลกแหกกระเชอ ออกอาการดิ้นพล่าน!?! ไม่เคยหันมองตัวเอง ไม่คิดสำรวจพรรคตัวเอง ซึ่งวันนี้จะพาไปรู้จักกับสื่อและนักวิชาการเครือข่ายของพรรคสีส้มที่ต้องถูกตั้งคำถามดังๆ???
การนำเสนอและเผยแพร่ข้อมูล ข้อเท็จจริงของพรรคอนาคตใหม่ นั้นต่างหากที่ควรต้องถูกตั้งคำถาม
เพราะในเบื้องต้นนั้น กลไกสื่อของพรรคอนาคตใหม่ประกอบด้วย
ตัวบุคคลของพรรค (ธนาธร, ปิยบุตร, พรรณิการ์, พิธา ฯลฯ)
-สื่อหลักที่สนับสนุนหลักคิดและแนวทางของพรรค (มติชน, ข่าวสด, ประชาไท, VoiceTV, iLaw, BBCไทย)
-สื่อนิวมีเดียและ influencers ที่สนับสนุนหลักคิดและแนวทางของพรรคอนาคตใหม่ (เพจ พรรคอนาคตใหม่และเพจเครือข่ายสาขาพรรค, The Standard, The Matter, The Momentum, เพจ Drama Addict, เพจ พระเจ้า ฯลฯ)
-กลุ่มคณาจารย์และนักวิชาการในเครือข่ายฟ้าเดียวกัน และเครือข่ายนักวิชาการปฏิกษัตริย์นิยม ที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ (เช่น 69 นักวิชาการที่ลงชื่อคัดค้านการใช้อำนาจดำเนินการต่อพรรคอนาคตใหม่) ที่พร้อมสนับสนุนทำให้เรื่องที่นำเสนอนั้นดูมีความน่าเชื่อถือเชิงวิชาการ (เช่น กรณี แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 1 ที่นักวิชาการในเครือข่ายนี้เสนอขึ้น)
โดยที่เนื้อหาที่มีการเผยแพร่ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เช่น เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวาทกรรม, ประชาธิปไตย, แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 1, รัฐธรรมนูญเฮงซวยทั้งฉบับ, การปฏิวัติ 2475, เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519, ตุลาการภิวัฒน์, งบประมาณทหาร, ภาวะเศรษฐกิจ(ไม่ดี),
โจมตีภาพลักษณ์นายกฯและ คสช., เรื่องทหาร(ที่ไม่ดี), การสนับสนุนม็อบนักศึกษาฮ่องกงว่าเป็นประชาธิปไตย, การไม่ยืนเคารพในโรงภาพยนตร์ ฯลฯ อันเป็นการตีความหรือนำเสนอแง่มุมของเรื่องนั้นๆเพียงด้านเดียว(ตามที่ตัวเองเข้าใจ)
หรือตัดตอนมาพูดเฉพาะที่ต้องการ(เช่นไม่พูดถึงการทุจริตของรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์) หรือกระทั่งบิดเบือนข้อเท็จจริง (เช่น รองหน.พรรคอนาคตใหม่ ที่แชร์ข่าวปลอม)
โดยมีการสนับสนุนกันเองระหว่าง พรรค-สื่อหลัก-สื่อนิวมีเดีย-นักวิชาการ ได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสาธารณะในวงกว้าง เช่น การพาดพิงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง, การสืบภารกิจ 2475, ประเทศประชาธิปไตยแล้วเศรษฐกิจจะดี ฯลฯ
ไม่นับถึงการระดมกลุ่มผู้สนับสนุนในนิวมีเดียเข้าคุกคามและกลั่นแกล้งบุคคลที่มีความเห็นต่างทางความคิดของตน (เช่น กรณี อุ๊ หฤทัย, กรณี ปั้นจั่น, กรณี อ้น สราวุธ(ถ่ายรูปคนไม่ยืนในโรงหนัง))
ด้วยพฤติกรรมเช่นนี้จึงจำเป็นยิ่งที่ต้องถูกตรวจสอบเพื่อคัดง้างและทำให้เกิดข้อเท็จจริงในด้านที่ถูกปิดบังปรากฏชัดเจนขึ้นเพื่อประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลจากทุกด้านเพื่อใช้วิจารญาณพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
โดยข้อเท็จจริงสถาบันทิศทางไทยมีคณาจารย์ และนักวิชาการที่ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องอันใดกับเครือเนชั่นมาร่วมกันเป็นจำนวนมาก โดยมาจากทุกสาขาวิชา จากหลายมหาวิทยาลัย และทุกเจนเนอเรชั่น
1.ดร.สุวินัย ภรณวินัย
2.ดร.แสงเทียน อยู่เถา
3.ดร.วีรพจน์ ลือประสิทธิ์กุล
4.ดร.นักรบ ระวังการณ์
5.ฑีญา เผ่าสวัสดิ์
6.ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์
7.นายหาญศักดิ์ หาญสมวงศ์
8.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
9.ดร.กัมปนาท ภักดีกุล
10.นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล
เพื่อที่จะให้ความรู้ ให้ข้อเท็จจริง ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือนำพาสังคมไทยก้าวเดินไปในทิศทางตามรอยพระยุคลบาท โดยไม่มีความข้องเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด