มิตรยามยาก!? จีน-อินเดียเร่งช่วยศรีลังกา เพิ่มลงทุน,ปรับโครงสร้างหนี้ ขณะเมกาเมินแต่ทุ่ม ๗.๖ พันล้านหนุนยูเครนรบ

0

การเมืองในศรีลังกาที่ยังไม่สงบอย่างแท้จริง อาจเป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าของรัฐบาลบริหารประเทศ และเป็นตัวการขัดขวางการปล่อยกู้ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ขณะเดียวกันจีนและอินเดียเปิดเผยท่าทีในการช่วยเหลือศรีลังการอย่างเอาการเอางาน แต่ไม่ต้องกล่าวถึงสหรัฐฯผู้นำโลกตะวันตกมัวแต่หมกมุ่นหนุนเศรษฐกิจสงคราม ทุ่มเงินให้ยูเครนรบกับรัสเซียมหาศาล ล่าสุดมูลค่า ๗.๖ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ ๒๘๐,๐๐๐ ล้านบาท

วันที่ ๒๗ ก.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า อินเดียเปิดเผยพร้อมช่วยศรีลัง มูลค่าจำนวน ๒๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังปธน.คนเก่าที่เพิ่งแต่งตั้งใหม่มีกำหนดเยือนจีนเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังสี จิ้นผิงให้คำมั่นผ่านข้อความแสดงความยินดีรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

อินเดียตกลงขยายเงินกู้จำนวน ๓.๘ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และช่วยเหลือศรีลังกาที่ประสบวิกฤตตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ ขณะนี้ได้เปลี่ยนโฟกัสไปที่การลงทุนเพิ่มขึ่นแทน  โดยนิวเดลีเชื่อว่าการสร้างทุนเป็นทางออกถาวรสำหรับเศรษฐกิจศรีลังกาที่ประสบปัญหาวิกฤตจนเกิดจลาจลวุ่นวายที่ผ่านมา

อินเดียได้จัดหาข้าว ยารักษาโรค และนมมูลค่าประมาณ ๒๒ ล้านดอลลาร์ให้แก่ศรีลังกา เพื่อเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม  เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐบาลที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่เข้ามารับตำแหน่งในโคลัมโบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการระดับสูงของอินเดียในกรุงโคลัมโบกล่าวเมื่อวันอังคารที่ ๒๖ ก.ค.ที่ผ่านมา

ความช่วยเหลือดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำกรุงปักกิ่ง ปาลิตา โคโฮนา (Palitha Kohona) กล่าวว่าประธานาธิบดี รานิล วิกรสิงห์ (Ranil Wickremesinghe) มีแผนจะเยือนจีนเพื่อหารือเกี่ยวกับการค้า การลงทุน และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยไม่สนใจกับคำเตือน “กับดักหนี้”ของตะวันตก โดยเฉพาะจากสหรัฐฯซึ่งชี้ให้ไปขอกู้จากไอเอ็มเอฟ ซึ่งจนป่านนี้ยังไม่มีคำตอบ คาดว่าเงื่อนไขเอาเปรียบศรีลังกามากเกินไป จึงเจรจาหลายครั้งไม่ลงตัว

ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ศรีลังกาจึงแสวงหาการลงทุนเพิ่มเติมจากจีนในโครงการท่าเรือโคลัมโบและฮัมบันโตตา

ชาติตะวันตกกล่าวโทษโครงการท่าเรือที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีนในประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ เนื่องมาจากวิกฤตหนี้ อย่างไรก็ตาม จีนตอบโต้ข้อกล่าวหา โดยกล่าวโทษกองทุนร่วมทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และเงินกู้จากสถาบันพหุภาคีที่ได้รับอิทธิพลจากสหรัฐฯ พูดง่ายๆคือเหล่าเฮดฟันด์ทั้งหลายคือเจ้าหนี้รายใหญ่ที่แท้จริง ส่วนจีนเป็นเจ้าหนี้ศรีลังกา ๑๐% เท่านั้น สำหรับสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่

ในข้อความแสดงความยินดีถึงปธน. รานิล วิกรมสิงห์ ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งใหม่ ปธน.สี จิ้นผิง ของจีน แสดงความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือตามความสามารถแก่ศรีลังกาอย่างเต็มที่หลังจากส่งข้าวสารบริจาคช่วยเด็กนักเรียนกว่า ๑,๐๐๐ ตันไปเมื่อเร็วๆนี้

ศรีลังกาได้เจรจาเรื่องเงินช่วยเหลือจำนวน ๔,๐๐๐ พันล้านดอลลาร์จากจีนมาหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตจีนในวันจันทร์ปฏิเสธที่จะระบุวันที่ใด ๆ สำหรับการสรุปข้อตกลงดังกล่าว

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ศรีลังกาประกาศว่ากำลังจำกัดการนำเข้าเชื้อเพลิงเป็นเวลา ๑๒ เดือนข้างหน้า เพื่อตอบสนองต่อวิกฤตอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ศรีลังกาเป็นหนี้หนี้ต่างประเทศจำนวน ๕๑,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่ให้ยืมโดยกองทุนร่วมลงทุนและสถาบันพหุภาคีเอกชน

ด้านสหรัฐอเมริกาที่ไม่ว่างช่วยศรีลังกาเลย หมกมุ่นสนับสนุนยูเครนทำศึกกับรัสเซียไม่หยุด ทุ่มงบฯอุดหนุนล่าสุด ๗,๖๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ ๒๘,๐๐๐ ล้านบาท

สถานการณ์เช่นนี้เป็นการวัดใจมิตรยามศรีลังกายากลำบาก มีแต่พันธมิตรตะวันออกที่ช่วยเหลือกัน ตะวันตกจ้องแต่ตำหนิ และลงโทษถ้าไม่ทำตามวาระผลประโยชน์ที่ตนต้องการ!???