สหรัฐเจอวิกฤตครั้งใหญ่! ศก.ถดถอย หลายธุรกิจเจ็บระนาว-ไฟป่าลามเกือบ 7 หมื่นไร่ ซ้ำร้ายเจอเหตุยิงรายวัน!
จากกรณีที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานตัวเลขหนี้สาธารณะของประเทศพบว่า ปริมาณหนี้สาธารณะสหรัฐฯ พุ่งทะยานสูงถึง 30 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สร้างสถิติเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ระดับหนี้สูงขึ้นอย่างมาก ประกอบกับเจอวิกฤตอย่างหนักในประเทศ ไม่ว่าจะปัญหาเงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจพัง เกิดวิกฤตไฟป่าอาละวาด และเหตุอาชญากรรมหลายครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีวิกฤตในสหรัฐขณะนี้ โดยอ้างอิงจากสำนักข่าว Reuters และ FinancecialTime ระบุว่า ขณะนี้สหรัฐ ดูจะเจอมรสุมปัญหารุมเร้าถาโถมไส่พร้อมกัน ตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ เบเดน แถลงข่าวแสดงวิสัยทัศน์ในการรับมือภาวะโลกร้อนว่า “จะทุ่มงบประมาณ 2,300 ล้านดอลลาร์ เพื่อติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามบ้านเรือน
ถัดจากนั้นวันเดียวไบเดน ที่มีประวัติฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA จำนวน 4 เข็ม ป่วยด้วยโรคโควิด จึงต้องหายเงียบไปจากหน้าจอแถลงข่าว และรักษาตัวเองอยู่ในทำเนียบขาว ภายใต้ที่ปรึกษาหมอเฟาซี ผู้ผลักดันฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3-4 และเพิ่งป่วยจากโรคโควิดไปเหมือนกัน และขณะนี้สหรัฐ ยังมีการระบาดโรคฝีดาษลิงสูงมากเป็นอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย
ช่วงไม่ถึง 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐ มีหนี้สินสะสมล้นพ้นตัวกว่า 30 ล้านล้านดอลลาร์ ถังแตกขาดสภาพคล่องถึงขนาดจะผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศ ธนาคารกลางจึงต้องรีบทำ QE “ค้ำประกันตัวเอง” แล้วพิมพ์เงินดอลลาร์กระดาษขนานใหญ่ไร้ทองคำค้ำประกันกว่า 5.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปชำระหนี้ต่างประเทศ และใช้จ่ายทางงบประมาณ เป็นวิธีแก้ปัญหากำปั้นทุบดินโดยไม่ต้องหารายได้ภาครัฐให้ยุ่งยาก ต่อมานานาชาติเจ้าหนี้รายใหญ่จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ เทขายทิ้งดอลลาร์ เงินไหลกับต้นทางสหรัฐ มากเกินจนท่วมระบบการเงินต้องทำ QT ดูดเงินออกจากระบบแล้วลบทิ้งทางบัญชี ขึ้นอัตราดอกเบี้ยถี่รัวๆ แต่หยุดยั้งอัตราเงินเฟ้อไม่ได้กระโดดจั้มขึ้นมาเป็น 9.1%
ส่งผลให้สื่อไฟแนนเชียลไทมส์ทำโพลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์โลกชั้นนำลงความเห็นกว่า 70% ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ “กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย” เกิดความวิตกกังวลในนักธุรกิจลงทุนขนาดใหญ่ ที่ต้องประคองเอาตัวรอด เช่น Google , Microsoft , Apple ประกาศนโยบาย “ปลดพนักงานเดิมออกบางส่วน ชะลอการจ้างงานใหม่” โดย Apple มีนโยบายสั่งลดต้นทุนและการเติบโตตำแหน่งงานลงในบางแผนก , Microsoft สั่งปลดพนักงานออกถึง 1,800 คน หรือ 1% ของพนักงานทั้งหมด , Google งดการจ้างงานใหม่ลงในปีนี้ , Twitter ประกาศสั่งปลดพนักงาน และหยุดการจ้างงานชั่วคราว , Meta บริษัทแม่ Facebook ยกเลิกแผนการจ้างวิศวกรภายในไม่ต่ำกว่า 30%
โดยนายมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก CEO แจ้งกับพนักงานว่า “เขาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ครั้งนี้กำลังจะเกิดวิกฤติครั้งร้ายแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่” , Amazon ประกาศต้องการลดกำลังพนักงานลง , Tesla เลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 10,000 คนหรือราว 10% จะต้องตกงานภายใน 3 เดือน พร้อมประกาศเลิกจ้างพนักงาน 200 คน แผนกขับขี่อัตโนมัติ โรงงานเทสลาในเมืองซานเมเทโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐนี้ได้เกิดไฟป่าลุกลามไหม้ในวงกว้างไปกว่า 65,000 ไร่แล้ว ยังไม่สามารถดับเพลิงโหมกระหน่ำป่าและบ้านเรือนประชาชนปานทะเลเพลิงได้
ล่าสุดเกิดเหตุกราดยิงปะทะกันระหว่างแก๊งค์ 2 กลุ่ม ในสวนสาธารณะ Peck Park Sunday ในเมืองซานเปโดร นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะนั้นในสวนมีงานแสดงรถยนต์ มีผู้คนประมาณ 500 คน มีเสียงปืนดังรัวขึ้นมากกว่า 20 นัด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บกว่า 6 ราย ในแต่ละปีของสหรัฐ นั้นมีการยิงกันเสียชีวิตด้วยปืนราว 40,000 ราย มากกว่าเกิดสงคราม และกฎหมายให้สามารถพกปืนในที่สาธารณะได้จึงเกิดเหตุกราดยิงกันรายวันในย่านชุมชน
