จากกรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 18พ.ย.ที่ผ่านมา พาดพิง”สถาบันทิศทางไทย” กล่าวหา การตั้งสถาบันทิศทางไทย นั้นเป็นความพยายามยกระดับ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในเครือของเนชั่น
ดร. สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการของสถาบันทิศทางไทย ระบุว่า ผมตัดสินใจเข้าไปร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทยกับคุณต้อย สนธิญาณ ก็เพื่อหวังสร้าง”ขุมพลังที่สาม” ที่สามารถก้าวข้ามความแตกแยกครั้งใหญ่ทางความคิดในสังคมไทยที่ดำรงอยู่มากว่าสิบปีแล้ว … โดยการเสนอ “เรื่องเล่าใหม่”แบบสัจจนิยมและปฏิบัตินิยม ผ่านการเผชิญหน้ากับวิกฤตและหายนะระดับโลกในอนาคตข้างหน้าร่วมกัน
รวมทั้งการทำให้คนทั้งสังคมตระหนักร่วมกันว่าบัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคข้อมูลนิยม (Dataism) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันเรียกร้องการปรับตัวทุกภาคส่วนของสังคมไทยทั้งในระดับปัจเจกและระดับองค์กร
การบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีสถาบันทิศทางไทยของคุณช่อแห่งพรรคอนาคตใหม่ที่กล่าวหาว่าสถาบันทิศทางไทยเป็นแค่หุ่นเชิดของสื่อเนชั่น … มันดูถูกจริยธรรมของเหล่าคณาจารย์ของสถาบันทิศทางไทยซึ่งส่วนใหญ่มีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกมากเกินไป
ถ้าคนอย่างสุวินัย ภรณวลัยถูกซื้อได้ ผมคงสยบให้แก่ระบอบทักษิณไปตั้งแต่ปี 2002 หรือเมื่อ 17 ปีก่อนไปแล้วตั้งแต่สมัยที่คุณทักษิณก่อตั้งพรรคไทยรักไทยใหม่ๆ หรือไม่ผมก็คงดิ้นรนหาทางได้ดิบได้ดีทางการเมืองในรัฐบาลปัจจุบันไปแล้ว
แต่ความทะเยอทะยานในอำนาจแบบนี้ไม่เคยครองใจผมได้เลยตลอดชีวิตของผม
ปัญญาชนอิสระอย่างผมเป็นตัวแทนแค่วิถีของผมเท่านั้นเอง
ทุกๆการตัดสินใจออกมาเคลื่อนไหวของผมล้วนคำนึงถึงบ้านเมืองและสันติประชาธรรมในระยะยาวเป็นหลักทั้งสิ้น