ชาติยุโรป รุมเท EU! หันพึ่งพลังงานรัสเซีย ขณะสหรัฐ ยอมขายหน้า สั่งซื้อปุ๋ยล็อตใหญ่ ใช้เรือบรรทุกติดธงไลบีเรียบังหน้า!

0

ชาติยุโรป รุมเท EU! หันพึ่งพลังงานรัสเซีย ขณะสหรัฐ ยอมขายหน้า สั่งซื้อปุ๋ยล็อตใหญ่ ใช้เรือบรรทุกติดธงไลบีเรียบังหน้า!

จากกรณีที่ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แถลงเมื่อวันพุธ โดยเสนอเป้าหมายให้ชาติสมาชิกสมัครใจลดการใช้ก๊าซ 15% เริ่มจากวันที่ 1 ส.ค.2565 ถึง 31 มี.ค.2566 เมื่อเทียบกับปริมาณการใช้ก๊าซเฉลี่ยช่วงเวลาเดียวกันระหว่างปี 2559-2564

เธอกล่าวว่า “รัสเซียกำลังแบล็กเมลเรา รัสเซียใช้พลังงานเป็นอาวุธ ดังนั้นไม่ว่าในกรณีใดที่มีการตัดก๊าซบางส่วน ส่วนใหญ่หรือทั้งหมดจากรัสเซีย ยุโรปจำเป็นต้องเตรียมพร้อม”

ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ยุโรปซื้อก๊าซ ปุ๋ย ล็อตใหญ่จากรัสเซีย โดยอ้างอิงจากสำนักข่าวreutersและRTnews ระบุว่า จากกรณีคณะกรรมาธิการยุโรป เสนอแผนให้ชาติสมาชิก EU เปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานอื่นเพื่อลดการบริโภคก๊าซ และสั่งให้พลเรือนของตนเองปันส่วนการใช้ก๊าซ มุ่งหน้าสู่การลดบริโภคก๊าซ 15% กำหนดให้เป็น “เป้าหมายบังคับ” หากยุโรปเผชิญวิกฤตขาดแคลนก๊าซขั้นรุนแรงนั้น ด้วย EU มี 27 ชาติที่ต้องใช้มติเอกฉันท์ขาดประเทศใดไม่ได้

แต่ขณะนี้ได้เกิด “กบฎ” ต่อแผนนี้แล้ว ประเทศแรกที่สวนทันที คือ สเปน นางเทเรซา ริเบรา รัฐมนตรีพลังงาน ระบุว่า “ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งที่จะบอกว่าสเปนไม่สนับสนุนข้อเสนอนี้ แผนดังกล่าวไม่เคยมีการพูดคุยตกลงใดๆ ในคณะมนตรียุโรป ทางคณะกรรมาธิการฯ ไม่สามารถเรียกร้องให้เสียสละได้ในเมื่อพวกเขาไม่เคยแม้กระทั่งสอบถามความคิดเห็นของพวกเราๆ ชาวสเปนไม่เคยใช้พลังงานฟุ่มเฟือย”

ชาติที่สอง คือ กรีซ โดยโฆษกรัฐบาลแถลงว่า “เราไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ EU ที่ให้ลดการใช้ก๊าซลง 15%” เพราะกรีซต้องพึ่งพิงก๊าซของรัสเซียถึง 40% ของการนำเข้าทั้งหมด , ชาติที่สาม คือ โปรตุเกส โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน “มีหลายประเทศที่ไม่ยอมปกป้องตนเอง แล้วตอนนี้กำลังร้องขอความช่วยเหลือ” (เขาหมายถึงเยอรมนี) พร้อมระบุว่าแผนปันส่วนทั่วทั้ง EU ไม่ได้คำนึงข้อเท็จจริงว่าโปรตุเกสไม่ได้มีท่อลำเลียงเชื่อมต่อกับประเทศใดของยุโรป นั่นหมายความว่าคลังสำรองก๊าซโปรตุเกส ไม่สามารถถูกนำไปแบ่งปันปัญหาขาดแคลนให้ที่อื่นๆ ได้”
ชาติถัดไป คือ อิตาลี โปแลนด์ และ ฮังการี ได้ประกาศคัดค้านแผนนี้เช่นกัน เพราะแค่นี้ก็แย่พออยู่แล้ว , ที่หนักสุด คือ ฮังการี นอกจากจะก่อกบฎไม่สนใจแผนของ EU แล้ว “ยังก่อวินาศกรรมแผน” อีกด้วยเหตุจากฮังการี นำเข้าก๊าซกว่า 85% และน้ำมันกว่า 60% จากรัสเซีย เมื่อปี 2021 ที่แล้ว ฮังการี ก็เลยลงนามสัญญาซื้อก๊าซจาก Gazprom รัฐวิสาหกิจรัสเซีย ระยะยาว 15 ปีรวดเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน โดยจะได้รับก๊าซ 3,500 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี จัดส่งท่อที่ผ่านบัลแกเรียและเซอร์เบีย และอีก 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี ท่อผ่านออสเตรีย แต่ฮังการี ต้องการซื้อก๊าซเพิ่มก่อนฤดูหนาว
ลอยแพบรรดาชาติต่าง ๆ ของ EU ที่กำลังประสบความยากลำบากในการหาก๊าซมาเติมคลังสำรอง และการทำสัญญาระยะสั้นส่งผลให้ซื้อราคาก๊าซพุ่งสูงขึ้นกว่าฮังการีหลายเท่า โดยตั้งแต่ ส.ค.2022 รัฐบาลฮังการี ประกาศห้ามส่งออกพลังงาน และเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งเดียวของประเทศที่ร่วมทุนกับรัสเซียเป็นผู้พัฒนาทางเทคนิคที่ซับซ้อนให้ , ฮังการี สิงห์ปืนไว จึงรีบชิงส่งนายปีเตอร์ ซิจจาร์โต รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี เยือนกรุงมอสโก เข้าพบนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ซึ่งดูแลด้านพลังงาน
เพื่อขอเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งก๊าซทั้งหมดมาใช้ท่อส่งก๊าซเติร์กสตรีม ที่ส่งผ่านเซอร์เบีย เข้าสู่ฮังการี เพราะสองชาตินี้คือคู่หูแท็กทีมไปไหนไปกันมาตลอด เมื่อฮังการี ขอมารัสเซียก็จัดให้โดยจะพิจารณาคำขอซื้อโควต้าก๊าซเพิ่มจากเดิมอีกราว 700 ล้านลูกบาศก์เมตร ของฮังการีเป็นกรณีพิเศษจากข้อตกลงเดิม เพื่อรับประกัน 100% ว่าฮังการีจะมีก๊าซสำรองเหลือเพียงพอใช้ในฤดูหนาวอย่างแน่นอนชาวฮังการีสบายใจได้ , รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี แถลงข่าวเหน็บ EU ว่า “บางคนอาจจะขายคำมั่นสัญญาเปล่าๆ และต้องไล่ตามฝัน แต่โลกความจริงที่จับต้องได้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่หากดูสถานการณ์ตลาดในเวลานี้ ต้องยอมรับว่า หากไม่มีก๊าซรัสเซีย ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ฮังการี จะหาก๊าซมาเติมได้อีก 700 ล้านลูกบาศก์เมตร”
เขาระบุต่อว่า “ยามปกติคลังก๊าซสำรองของฮังการีมีเต็มพอ แต่เนื่องจากนี่ไม่ใช่ช่วงเวลาปกติ ฮังการีจึงต้องการก๊าซมากขึ้นเพื่อให้มั่นใจ และหวังว่าการเจรจากับรัสเซีย จะได้เร็วที่สุด เพราะฤดูกาลที่ต้องใช้เครื่องทำความร้อนให้ความอบอุ่นจะเริ่มต้น 15 ต.ค.2022 นี้แล้ว ที่ผ่านมาฮังการี เหมือน “หมอดูตาทิพย์” ที่เคยเตือน EU ว่าการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย คือ “ระเบิดปรมาณูสำหรับเศรษฐกิจ” และยังทำลาย Supply พลังงาน การคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย จะทำลายเศรษฐกิจ EU ทั้งหมด และสิ่งที่เตือนก็เป็นจริงรัฐบาลยุโรป ล้มคว่ำ 5 ชาติไปแล้ว ชาติที่เหลือกำลังล้มลุกคลุกคลานร่อแร่
ส่วนสหรัฐ นั้นปี 2564 ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ นำเข้าปุ๋ยยูเรียแอมโมเนียมไนเตรตจากรัสเซีย มูลค่า 262.6 ล้านดอลลาร์ เพราะรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ส่งออกปุ๋ยรายใหญ่ ซึ่งปัจจัยสำคัญในการรักษาผลผลิตข้าวโพด ถั่วเหลือง ข้าว และข้าวสาลี สหรัฐให้อยู่ในระดับสูง แต่ปัจจุบันยูเครน ไม่มีปุ๋ยส่งออก สหรัฐ จึงประสบปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยและราคาแพง เสี่ยงขาดแคลนอาหาร
ล่าสุดสหรัฐ คุกเข่าอ้อนวอนสั่งปุ๋ยจากรัสเซีย ด้วยความเขินจึงว่าจ้างเรือบรรทุกน้ำมันติดธงชาติไลบีเรีย บรรทุกสารละลายยูเรียแอมโมเนียมไนเตรต ประมาณ 39,000 ตัน บรรทุกจากท่าเรือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย มีกำหนดจะถึงเมืองนิวออร์ลีนส์ สหรัฐ ในสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลัง และหน่วยงานศุลกากร สหรัฐฯ ปฏิเสธที่ให้ข้อมูลใดๆ