หลังจากที่เคยมีสื่อของชาติตะวันตก รายงานเรื่องอาการป่วยของปูติน และได้ตั้งข้อสังเกตว่า ปูตินป่วยด้วยโรคร้าย ทำให้ต้องตั้งเพื่อนสนิท ขึ้นมาควบคุมการเดินหน้าของสงคราม โดยล่าสุดรัฐบาลรัสเซียยืนยันว่า ปูติน มีสุขภาพดี พร้อมปฏิเสธข่าวลือที่ว่า ประธานาธิบดีปูติน ของรัสเซีย ป่วยหนักและสุขภาพไม่ดี
ส่วนทางด้านสำนักข่าวกรองกลาง หรือ CIA ของสหรัฐฯ เปิดเผยระบุว่า ไม่มีข่าวกรองยืนยันว่า ปูติน มีปัญหาสุขภาพ หรือป่วยหนัก หลังจากที่มีข่าวลือหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งกำลังมีอายุครบ 70 ปีในปีนี้ กำลังป่วยและอาจเป็นโรคมะเร็ง
โดยดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของรัฐบาลรัสเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มีการคาดเดาไปต่าง ๆ นานา จากฝั่งตะวันตกเกี่ยวกับสุขภาพของประธานาธิบดีในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และรายงานว่าปูตินป่วย ซึ่งไม่มีอะไรเลยนอกจากข่าวปลอม ๆ
ขณะที่ วิลเลียม เบิร์นส ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ CIA ได้ออกมายืนยันว่า ยังไม่มีข่าวกรองใดที่ระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินป่วย หรือมีสุขภาพที่ย่ำแย่ พร้อมกับกล่าวติดตลกว่า ปูตินออกจะแข็งแรงเกินไปด้วยซ้ำ
เบิร์นส กล่าวที่งาน Aspen Security Forum ว่า มีข่าวลือเยอะมากเกี่ยวกับสุขภาพของปูติน และเท่าที่เราสามารถเปิดเผยได้เขาสุขภาพดีเกินไปจริง ๆ และได้กล่าวเสริมว่า นี่ยังไม่ใช่ข้อมูลข่าวกรองอย่างเป็นทางการ จากที่เขาได้สังเกตและรับมือกับปูตินมาเป็นเวลากว่า 20 ปี เขาพบว่า ปูตินเป็นผู้ที่เชื่อในการควบคุม การข่มขู่ และการทำให้เท่าเทียม ซึ่งทำได้ยากขึ้นในช่วงสิบปีที่ผ่านมา
ปูติน ถูกทำให้เชื่อว่า โชคชะตาของเขาในฐานะผู้นำรัสเซีย ต้องฟื้นฟูอำนาจให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง เขาเชื่อว่ากุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่เป้าหมาย คือ การสร้างขอบเขตอิทธิพลบริเวณประเทศเพื่อนบ้านรัสเซียขึ้นมาใหม่ ซึ่งรวมถึงการควบคุมยูเครน ที่ปูตินเชื่อว่าไม่ใช่ประเทศ
คำกล่าวของเบิร์นสมีขึ้น ขณะที่ สหรัฐฯ ประกาศที่จะส่งระบบขีปนาวุธ HIMARS พิสัยไกลให้กับยูเครนเพิ่มอีก 4 ชุด รวมทั้งหมด 16 ชุดแล้ว เพื่อสกัดการรุกคืบของทหารรัสเซีย โดยก่อนหน้านี้เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่า กองทัพรัสเซียไม่ได้มุ่งเน้นไปที่พื้นที่ตะวันออกของยูเครนเพียงอย่างเดียว และบอกเป็นนัยว่า กลยุทธ์ของรัฐบาลรัสเซียได้เปลี่ยนไป หลังจากที่ตะวันตกสนับสนุนยูเครนด้วยอาวุธในลักษณะนี้