ยูเครนล้มละลาย! ขอระงับหนี้ตะวันตก 2 ปี ทุ่มงบทั้งหมดสู้รัสเซีย! ซ้ำร้าย ขาดคุณสมบัติเข้า EU ถาวร!
จากกรณีที่มีรายงานว่ารัฐบาลยูเครน ขอความเห็นใจบรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติ รวมถึงมหาอำนาจตะวันตก และบริษัทด้านการลงทุนชั้นนำของโลก ช่วยเหลือด้วยการพักชำระหนี้ชั่วคราวเป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้ยูเครนสามารถทุ่มเทงบประมาณไปกับการทำสงครามกับรัสเซียได้
ทั้งนี้ ยูเครนบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับรัฐบาลต่างชาติที่ถือครองพันธบัตรในการขอพักชำระหนี้ ระหว่างวันที่ 1 ส.ค.ปีนี้ ไปจนถึงปลายปี 2566 เป็นอย่างน้อย ท่ามกลางผลกระทบจากสงครามกับรัสเซีย ซึ่งทำให้ยูเครนเผชิญวิกฤติขาดดุลงบประมาณสูงถึงเดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์
ต่อมาทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ ยูเครนถังแตกเบี้ยวจ่ายหนี้ เตรียมล้มละลาย โดยอ้างอิงจากสำนักข่าวReuters และ RTnews ระบุว่า จากกรณีประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน วิดีโอลิ้งไปที่การประชุมฟื้นฟู URC2022 ที่เมืองลูกาโน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีอังกฤษ เป็นเจ้าภาพ
ระบุว่า “ตอนนี้ ยูเครน ต้องการเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์ เพื่ออยู่ให้ได้ไปจนถึง ธ.ค.2022 จากนั้นช่วงปี 2023 – 2032 เขาจะเอาเงินอีก 750,000 ล้านดอลลาร์” ( 26.77 ล้านล้านบาท) โดยเกณฑ์ให้ชาติที่ปกครองโดยประชาธิปไตยทั่วโลก ต้องจัดสรรเงินเอาไปให้เขาที่มุ่งจะเป็นผู้นำยูเครนแต่เพียงผู้เดียวใช้เงินนี้ไปไม่ต่ำกว่าอีก 10 ปี อ้างว่าจะนำเงินมาก่อสร้างโน่นนี่นั่น ท่ามกลางฝนเหล็กห่าใหญ่รัสเซียนั้น ต่อมาสหภาพยุโรป (EU) ระงับเงินกู้ระยะยาวฟื้นฟูยูเครน 9,000 ล้านยูโร และเงินกู้ฉุกเฉินจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่ 1,500 ล้านยูโร รวม 10,500 ล้านยูโร
คงเหลือเงินให้กู้ค่าอาวุธ 500 ล้านยูโร เป็นปืนใหญ่ Saesar ฝรั่งเศส จำนวน 6 กระบอก (12 กระบอกก่อนหน้าพังไปแล้ว) และจรวด HIMARS สหรัฐ จำนวน 4 ระบบ (ส่งมาครั้งก่อนพังไปหมดแล้ว) หมายถึงชาติตะวันตกให้ยูเครนกู้เฉพาะค่าอาวุธ แต่ไม่อนุมัติให้กู้สำหรับฟื้นฟูประเทศ , นาย Tymofiy Mylovanov ที่ปรึกษาทำเนียบ
ประธานาธิบดียูเครนได้กระตุ้นประเทศตะวันตกเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินเร่งด่วน โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาสถาบันระดับโลก เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ธนาคารโลก และรัฐบาลตะวันตก ให้คำมั่นว่าจะให้เงินยูเครนอีก 38,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่การสนับสนุนนั้นเป็นเงินกู้มากกว่าความช่วยเหลือให้เปล่า
ยูเครน ยังมีหนี้พันธบัตรรัฐบาลจำนวนมากซึ่งรวมการกู้ยืมเงินมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าธนาคารกลางยูเครน จะขายทองคำสำรองไปแล้ว 12,400 ล้านดอลลาร์ ก็ยังไม่พอจ่ายหนี้ค่าอาวุธตะวันตก , สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ยุโรป ทุกแห่งจัดอันดับหนี้ยูเครนเป็น “หนี้ขยะ” หรือหนี้ด้อยคุณภาพเจ้าหนี้แทบไม่มีโอกาสได้รับชำระหนี้คืน , ล่าสุดยูเครน ฉุนมากที่ถูกระงับเงินกู้ จึงขอ “ระงับจ่ายชำระหนี้ต่างประเทศ , ระงับจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด และวางแผนเลื่อนการจ่ายเงินสำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่เชื่อมโยงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งเสนอหลังจากการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งล่าสุดในปี 2015 ซึ่งออกแบบมาเพื่อจ่ายให้กับนักลงทุนชั้นดีหากเศรษฐกิจประสบความสำเร็จ”
เป็นการขอระงับจ่ายหนี้ให้กับมหาอำนาจตะวันตก และบริษัท การลงทุนรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นเวลานาน 2 ปี อ้างว่าต้องใช้ทรัพยากรทางการเงินในการขับไล่รัสเซีย โดยกระทรวงการคลังยูเครนระบุว่า ต้องเผชิญกับความผิดพลาดประมาณการ GDP ที่ลดลง 35 – 45% ในปีนี้ อีกทั้งความล่าช้าการได้รับการสนับสนุนเงินกู้ และอาวุธอย่างรวดเร็วจากทั้งรัฐบาลตะวันตกมหาอำนาจ และกองทุนขนาดใหญ่ ที่ให้ยูเครนกู้ยืม เพื่อที่จะเอามาทันเวลาการชำระหนี้ที่ครบกำหนดประมาณ 1,200 ล้านดอลลาร์ ก.ย.2022 นี้
หลักสากลแล้วการผิดนัดชำระหนี้อย่างร้ายแรง ขอปรับโครงสร้างหนี้แบบนี้ จะจัดเป็น “ประเทศล้มละลายทางการเงิน” แบบศรีลังกา การให้กู้เพิ่มนั้นจะต้องขายสิทธิในดินแดน ขายทรัพย์สินมูลค่าสูงพวกรัฐวิสาหกิจ ท่าเรือ สัมปทานพลังงานระยะยาว ฯลฯ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับเจ้าหนี้ ยูเครน จะไม่สามารถมีทรัพย์สินใดได้อีกหลายทศวรรษ และขาดคุณสมบัติเข้ากลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ถาวร , แต่ยูเครน ก็ยังไม่ยอมรับสถานะการล้มละลาย ยังคงดื้อดึงเสนอขายพันธบัตรรัฐบาลให้ดอกเบี้ยสูงให้เจ้าหนี้เพิ่ม เพราะปัจจุบันรัฐบาลยูเครน ไม่มีรายได้จากสินค้าโภคภัณฑ์ใดส่งออก จนเกิดการหยุดชะงักของกระแสเงินสดทางการคลังและความต้องการเงินเพิ่มขึ้นของรัฐบาลที่นำไปซื้ออาวุธมาทำสงครามจนหมด
จึงสร้างแรงกดดันต่อสภาพคล่องการเงินอย่างรุนแรงไม่เคยปรากฏมาก่อนและความยากลำบากในการชำระหนี้ , ในขณะที่หัวหน้าฝ่ายการเงิน กองทุนเพื่อการลงทุนธนาคารของสหภาพยุโรป (European Investment Bank) ได้เตือนว่า “ยูเครนอาจต้องใช้เงินกู้ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ เกินศักยภาพชำระหนี้ไปมาก การประกาศหยุดชำระหนี้ (ล้มละลาย) จะช่วยให้ประหยัดเงินลดขาดดุลงบประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์/เดือน ดังนั้นในช่วงระยะเวลารอการตัดบัญชีแน่นอน EU ควรระงับให้เงินกู้ยูเครนเพิ่มอีก เพื่อลดความเสี่ยงหนี้สูญ”
รัฐบาลตะวันตก สหรัฐ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร ขานรับว่า “เราในฐานะเจ้าหนี้คู่สัญญาอย่างเป็นทางการของยูเครน จะประสานการระงับการชำระหนี้ (ล้มละลาย) นอกจากนี้ยังสนับสนุนอย่างยิ่งให้เจ้าหนี้อย่างเป็นทางการรายอื่นๆ ทั้งหมดบรรลุข้อตกลงระงับการชำระหนี้อย่างรวดเร็ว” , โฆษกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า “ข้อตกลงล่วงหน้าระงับชำระหนี้โดยสมัครใจ (ล้มละลาย) จะเป็นผลบวกสำหรับแนวโน้มนี้” , นาย Sergii Marchenko รัฐมนตรีกระทรวงการคลังยูเครนแถลงอ้างว่าแผนดังกล่าวได้รับ “สัญญาณสนับสนุนอย่างชัดเจน” จากกองทุนเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางแห่ง เช่น BlackRock, Fidelity, Amia Capital และ Gemsstock
ถือเป็นการยอมรับสภาพความจริงเป็นทางการครั้งแรกว่า “ยูเครน หมดปัญญาชำระหนี้ตามกำหนดเวลา และล้มละลายแล้ว” แม้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยูเครน คุยโวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามีรายได้จากภาษี ขายไฟฟ้า ธัญพืช ฯลฯ จะรักษาสถานะการชำระหนี้ไว้ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้จริงตามที่ประกาศไว้ มูลค่าพันธบัตรรัฐบาลยูเครน มีมูลค่าตกลงไปแล้วกว่า 80% แทบไม่เหลือมูลค่าคุ้มทุนต่อเจ้าหนี้อีกแล้ว แม้ว่ายูเครนจะขอระงับชำระหนี้เก่า (ยอมล้มละลาย) แต่สัปดาห์ที่แล้วบริษัทพลังงาน Naftogaz รัฐวิสาหกิจยูเครน โดยนาย Viktor Szabo ผู้จัดการกองทุนของ abrdn ซึ่งถือพันธบัตรรัฐบาลของยูเครน ระบุว่าการปรับโครงสร้างหนี้ (ระงับจ่ายหนี้) คงต้องเกิดขึ้น
“แต่จะไม่สามารถทำได้ก่อนที่สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ นั่นคืออย่างน้อยต้องมีการเจรจาหยุดยิงอย่างยั่งยืน” , นาย Petar Atanasov หัวหน้าร่วมฝ่ายวิจัยอธิปไตยของ Gramercy ผู้เชี่ยวชาญกองทุนตราสารหนี้ด้อยคุณภาพ ระบุว่า “มีการสนับสนุนค่อนข้างมากที่จะเห็นด้วยกับการหยุดชำระหนี้ (ล้มละลาย) ของยูเครน แต่เสียดายที่ไม่มีการเจรจาสันติภาพหรือการหยุดยิง” , ล่าสุดนาย Sergei Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่าวัตถุประสงค์ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนตอนนี้ไปไกลกว่าภูมิภาค Donbas ทางตะวันออก ขณะนี้กลาโหมรัสเซีย มีคำสั่งเร่งโจมตีขยายพื้นที่กว้างใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ทุกทิศทาง
สรุป..หากรัฐบาลมหาอำนาจตะวันตกเจ้าหนี้ กองทุนใหญ่ให้ยูเครนกู้ยืม ไม่เร่งผลักดันเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย ยื่นข้อเสนอมอบดินแดน และยกเลิกคว่ำบาตรโดยเร็วที่สุด จะยิ่งทำให้เขตแดน และทรัพยากรยูเครนถูกยึดหดหายไปเรื่อยๆ จนหลักประกันหนี้ไม่คุ้มค่าเพียงพอค้ำประกัน แต่ถ้าเจรจาสันติภาพลงนามตกลงกันแล้ว เจ้าหนี้จึงจะยอมรับการระงับชำระหนี้ (ล้มละลาย) แล้วเริ่มยึดหลักทรัพย์ ชาวยูเครนลูกหลานต้องร่วมชดใช้หนี้ไปเป็นร้อยปี มีทางเดียวจะหลุดพ้นคือแต่ละแคว้นต้องแข็งข้อประกาศแยกเอกราชจากยูเครน เพื่อพ้นจากสถานะลูกหนี้ไป