หลังจากที่กองทัพรัสเซียประกาศจะโจมตียูเครน ได้กำหนดพื้นที่เขตแดนแล้วว่า ต้องไปไกลว่าดอนบาส ก็ทำให้กองทัพยูเครนเริ่มผวา ว่าอาวุธที่มี จะเพียงพอต่อการสู้ต่อหรือไม่ ต่อมาก็มีรายงานด้วยว่า พลเอกอเล็กซี่ เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสภาแอตแลนติกของสหรัฐว่า รัฐบาลมีความสนใจที่จะสร้าง “พื้นที่ทดสอบ” ของประเทศ ยูเครนกำลังแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ทั้งหมดกับพันธมิตร ยูเครนมีความสนใจในการทดสอบระบบสมัยใหม่ในการต่อสู้กับศัตรู และยูเครนกำลังเชิญผู้ผลิตอาวุธ ให้มาใช้ยูเครนเป็นที่ทดสอบอาวุธใหม่ เพราะยูเครนมีสภาพของสนามรบในหลากหลายรูปแบบ
ล่าสุดมีรายงานเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงยูเครน ย้ำผ่านสื่อว่าสงครามต้องจบก่อนฤดูหนาว แต่ยังคงขอให้ตะวันตกส่งอาวุธสู้รัสเซีย และเรียกร้องถึงยูเอ็น การเจรจาไร้ผลสัมฤทธิ์ โดย รอยเตอร์ รายงานว่า ผู้ช่วยระดับสูงของประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า ทางการยูเครนไม่ต้องการให้สงครามยืดเยื้อไปจนถึงฤดูหนาว ช่วง (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) เนื่องจากอาจทำให้กองกำลังรัสเซียค่อย ๆ บุกทะลวงเข้ามาเเละทำให้ยุทธวิธีโจมตีตอบโต้กลับของฝั่งยูเครนยากขึ้น อาวุธที่ทางการสหรัฐจัดให้ยูเครนมาใช้นั้น จะทำให้มีปริมาณอาวุธที่เพียงพอในช่วงก่อนฤดูหนาว เพื่อให้กองกำลังของยูเครนได้รับ “ชัยชนะ” ก่อนหน้านั้น “มันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเราที่จะไม่ (ปล่อยให้สงคราม) เข้าสู่ฤดูหนาว เพราะฤดูหนาวจะทำให้รัสเซียมีเวลาเพิ่มขึ้นในการบุกเข้ามา และมันจะยากขึ้นอย่างเเน่นอน”
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนยังชี้ว่า การเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันวนเวียนอยู่เพียงเเต่ว่าจะส่งออกข้าวของยูเครนจากท่าเรือที่ถูกกีดกันอย่างไร แต่ไม่ใช่การหาทางออกว่าจะทำอย่างไร เพื่อจบความขัดเเย้งที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้
เขาย้ำเตือนถึงความต้องการของทางการยูเครนที่จะให้ชาติตะวันตกส่งมอบอาวุธเพิ่มขึ้นอีก และย้ำอีกว่า เขากำลังหวังพึ่งความช่วยเหลือทางการเงินของสหรัฐกว่าพันล้านดอลลาร์ ในรูปแบบของยุทโธปกรณ์และความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจด้วย