ต่างกันลิบลับ! เปิดท่าทีผู้นำจีน-รัสเซีย ช่วยพัฒนาปท.พันธมิตร-เปิดตลาดการค้า เทียบไบเดน เอาแต่ปั่นหัว-รุกรานชาติอื่น
จากกรณีที่ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า สหรัฐฯ ต้องหยุด “ขโมย” น้ำมันจากประชาชนและประเทศซีเรียและยกเลิกการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียว
โดยคำกล่าวของประธานาธิบดีรัสเซีย มีขึ้นหลังการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีอิหร่านและตุรกีที่กรุงเตหะราน ซึ่งผู้นำทั้งสามยังมีความเห็นพ้องกันว่าสหรัฐฯ ควรออกจากอาณาเขตทางตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรตีส ที่เรียกว่า ทรานส์-ยูเฟรตีส และหยุดทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมในซีเรียเลวร้ายลงด้วยการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียว
ทั้งระบุว่า มีทหารสหรัฐฯ หลายร้อยนายเดินทางเข้าซีเรียโดยผิดกฎหมายเพื่อควบคุมบ่อน้ำมันและทุ่งข้าวสาลีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นที่ของกองกำลังติดอาวุธของกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือเอสดีเอฟ ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ
ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า การคว่ำบาตรซีเรีย ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและไม่ควรเป็นเรื่องการเมือง และเรียกร้องให้สหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ เพิ่มความช่วยเหลือแก่ชาวซีเรีย โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ ประเด็นทางการเมือง และการตั้งเงื่อนไขเบื้องต้น
ล่าสุดทาง ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ อธิบายประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยใหม่ง่ายๆ:
ไปไหนมาไหน ผู้นำจีนมีแต่พูดคุยเรื่องช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจระดับรากหญ้าและเป็นหุ้นส่วนร่วมมือกันทางเศรษฐกิจอย่างทัดเทียมกัน ไม่ได้สนใจรุกรานชาติไหน
ส่วนผู้นำรัสเซียไปไหนมาไหนก็หาทางเปิดตลาดขายอาหารเกษตรอินทรีย์/หัวเชื้อปุ๋ย/พลังงาน คือน้ำมันดิบ น้ำมันที่กลั่นแล้วและก๊าซธรรมชาติ/แร่ธาตุหายาก ฯลฯ ของตนเอง ไม่ได้สนใจรุกรานใคร
แต่อเมริกา เน้น ๒ เรื่อง
๑.ใช้สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยที่ประเทศตนเองก็ยังไม่มีมาโจมตีชาติอื่นๆ เพื่อหาทางรุกราน โดยใช้รายงานต่างๆ มีทั้งจริง ทั้งกุขึ้น ที่ NGOs หรือหน่วยงานภาครัฐของตนทำขึ้น เช่น Trafficking In Person (TIP) ประจำปีเป็นเครื่องมือโจมตี
ปกปิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนคนผิวดำ คนพื้นเมืองเดิมและการละเมิดสิทธิมนุษยชนของตำรวจตนเอง สกัดมิให้สื่อกระแสหลักรายงานการะเมิดสิทธิมนุษยชนชาวปาเลสไตน์ของอิสราเอลที่ตนสนับสนุน มิให้สื่อรายงานอาชญากรรมที่ตนทำขึ้นระหว่างส่งทหารไปรุกราน ละเมิดอธิปไตยชาติอื่น เช่น อิรัก อาฟกานิสถานและซีเรีย
๒.ยุให้ชาติต่างๆ ก่อสงครามเพื่อขายอาวุธอย่างเดียว
ตอนนี้ วิญญูชนทั่วโลกเริ่มแฉอเมริกามากยิ่งขึ้น กอปรกองทัพรัสเซียสามารถยันกองทัพนาโต้ได้อย่างชิลล์ๆ ในยูเครน ความเชื่อถือในรัฐบาลอเมริกาจึงลดลงฮวบฮาบ