หลังจากที่ผู้นำในหลายประเทศของกลุ่ม EU ออกมายอมรับว่า ผลจากการคว่ำบาตรรัสเซีย ได้กลับมาเล่นงานอย่างหนัก และอาจจะไม่รอดวิกฤตในหน้าหนาวนี้ไปด้วย รวมถึงเรื่องการขาดแคลนอาหาร ที่เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ประชากรอดอยาก จึงมีรายงานว่าสหภาพยุโรปผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรธนาคารรัสเซียบางแห่ง เพื่อเปิดทางการส่งออกสินค้าอาหาร-การเกษตรของรัสเซีย ให้กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง
โดยเมื่อรายงานเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ว่าสหภาพยุโรป (EU) จะปรับแก้มาตรการคว่ำบาตรธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำของรัสเซียบางแห่ง แต่จะมีผลเฉพาะกับธนาคารที่มีความเกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้าอาหาร การเกษตรและปุ๋ย เท่านั้น
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้นำในแอฟริกาเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบของการคว่ำบาตรสถาบันการเงินรัสเซีย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนอาหารรุนแรง นอกเหนือไปจากการบุกยูเครนของรัสเซียและการปิดกั้นท่าเรือในทะเลดำ
การเปลี่ยนแปลงมาตรการคว่ำบาตรนี้คาดว่าจะได้รับการรับรองโดยทูตของสหภาพยุโรปในวันนี้ ภายใต้การปรับแก้ ประเทศในสหภาพยุโรปจะสามารถยกเลิกการแช่แข็งทรัพยากรทางเศรษฐกิจและสินทรัพย์ของสถาบันการเงินชั้นนำของรัสเซีย ประกอบด้วย VTB, Sovcombank, Novikombank, Otkritie FC Bank, VEB, Promsvyazbank และ Bank Rossiya ได้
อย่างไรก็ตาม ธนาคาร Sberbank ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย จะยังคงถูกแช่แข็งสินทรัพย์ต่อไป ยกเว้นทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการส่งออกสินค้าอาหาร
ร่างเอกสารปรับแก้มาตรการคว่ำบาตรระบุว่า เงินของธนาคารที่เคยถูกคว่ำบาตรเหล่านี้ “สามารถนำออกมาใช้ได้ หลังจากผ่านการพิจารณาแล้วว่า เงินทุนหรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจนั้นมีความจำเป็นสำหรับการซื้อ นำเข้า หรือขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหาร รวมถึงข้าวสาลีและปุ๋ย” สหภาพยุโรปยังวางแผนที่จะอำนวยความสะดวกในการส่งออกอาหารจากท่าเรือรัสเซีย ซึ่งหยุดดำเนินการไปนับตั้งแต่มีการคว่ำบาตรจากสหภาพยุโรป