EU หนีไม่พ้น! หวังลดซื้อก๊าซจากปูติน หันไปซื้อจากอาเซอร์ไบจาน ที่มีรัสเซียเป็นเจ้าของแหล่งก๊าซที่ใหญ่ที่สุด!
จากกรณีที่ก๊าซพรอม (Gazprom) บริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย แจ้งกับลูกค้าในยุโรปว่าไม่สามารถรับประกันการจัดส่งก๊าซได้ เนื่องจากสถานการณ์ “พิเศษ” ซึ่งนับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงทางเศรษฐกิจชนิดตาต่อตาฟันต่อฟันต่อชาติตะวันตก จากกรณีที่รัสเซียบุกยูเครน
ซึ่งในขณะที่นอร์ดสตรีม 1 ซึ่งเป็นท่อส่งก๊าซหลัก ที่ส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังเยอรมนีและประเทศอื่น ๆ อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงประจำปีเป็นเวลา 10 วัน โดยมีกำหนดเสร็จสิ้นในวันพฤหัสบดีนี้ การประกาศของก๊าซพรอมครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องหมายความว่า ก๊าซพรอมจะหยุดการส่งก๊าซ แต่อาจหมายความได้ว่าบริษัทไม่น่าจะต้องรับผิดชอบ หากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา
ต่ออมาทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ยุโรป ประกาศจะไม่ซื้อก๊าซจาก Gazprom แต่ซื้อจาก Lukoil เป็นบริษัทใหญ่เป็นอันดับสองในรัสเซีย รองจาก Gazprom โดยอ้างอิงจาก Infoquest และ Lukoil Oil company ระบุว่า
ประเทศอดีตสหภาพโซเวียตทั้ง 15 ประเทศ คือ รัสเซีย ยูเครน เบลารุส เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย มอลโดวา จอร์เจีย อาเมเนีย อาเซอร์ไบจาน คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน และคีร์กีซสถาน มีพลังงานน้ำมัน ก๊าซ และแร่โลหะมูลค่ามหาศาล โดยอาเซอร์ไบจาน เป็นประเทศที่ติดกับทะเลสาบแคสเปียน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สินค้าหลักที่เป็นขุมทรัพย์มีมูลค่ามหาศาลคือน้ำมันและก๊าซ คิดเป็นกว่า 95% ของรายได้จากการส่งออกทั้งหมด
รัสเซียเป็นพันธมิตรทางทหารของอาร์เมเนีย และมีฐานทัพตั้งอยู่ แต่รัสเซียก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอาเซอร์ไบจานอีกด้วย โดยฝรั่งเศส เป็นถิ่นพำนักของคนเชื้อสายอาร์เมเนียจำนวนมาก ส่วนตุรเคียสนับสนุนชนเชื้อสายเติร์กในอาเซอร์ไบจาน ทำให้ฝรั่งเศส กับตุรกีขบเหลี่ยมกัน รอยต่อดินแดนของ 2 ชาตินี้คือ เขตนากอร์โน-คาราบัค ทำให้เกิดการสู้รบตีกันเรื่อยมาโดยใช้อาวุธจากฝรั่งเศส และตุรเคีย เมื่อรบกันดุเดือดขึ้นเสียชีวิตสักพันคน พอรัสเซียไปห้ามทัพก็หยุดตีกันไปเอง เพราะ 2 ชาตินี้เคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียติจึงรู้ฤทธิ์รัสเซียเป็นอย่างดี
ถ้าห้ามแล้วไม่ฟัง และอยากลองดีแบบเชชเนีย หรือจอร์เจีย รัสเซียก็จะยกทัพไปถล่มจนราบ จึงทำให้ศึกอาเซอร์ไบจาน อาร์เมเนีย ไม่บานปลายไปนานนัก พอเจ็บ และเสียชีวิตมากขึ้นก็จะห้ามทัพง่ายถือเป็นเรื่องธรรมชาติของ 2 ชาตินี้ บารมีรัสเซียที่แผ่เหนืออาเซอร์ไบจาน ทำให้รัสเซียไปลงทุนด้านพลังงานโดยบริษัท Lukoil เป็นบริษัทพลังงานรัสเซีย มีสำนักงานใหญ่ในกรุงมอสโก เชี่ยวชาญในการสกัด ผลิต ขนส่ง และ จำหน่าย ปิโตรเลียมก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมครบวงจร Lukoil เป็นบริษัทใหญ่เป็นอันดับสองในรัสเซีย รองจาก Gazprom
ปี 2020 มีรายได้ 4,744,000 ล้านรูเบิล เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ปี 2019 ผลิตน้ำมันได้ 1.639 ล้านบาร์เรล/วัน) และก๊าซธรรมชาติ 35,046 ล้านลูกบาศก์เมตร มีบริษัทย่อยในกว่า 28 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในอาเซอร์ไบจาน Lukoil รัสเซีย คือเจ้าพ่อพลังงานที่ไม่มีใครทดแทนได้ แถม Lukoil ยังเป็นเจ้าของโรงกลั่นในบัลแกเรีย โรมาเนีย และอิตาลี เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ อีกด้วย , ล่าสุดนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) และประธานาธิบดีอิลฮัม แอลีเยฟ แห่งอาเซอร์ไบจาน ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน
ขยายโครงการ Southern Gas Corridor โดยให้อาเซอร์ไบจานเพิ่มการส่งออกก๊าซไปยังยุโรปมากจากปัจจุบัน 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี เพิ่มเป็น 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในปีหน้า 2023 , และเพิ่มเป็น 20,000 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปีภายใน 5 ปีถึง 2027 (แค่ 13% ที่ยุโรปเคยได้รับก๊าซจากรัสเซียเท่านั้น) โดย EU ปลื้มใจมากที่จะช่วยให้ลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย โดยเธอระบุว่าการส่งก๊าซเพิ่มจะช่วยรับประกันความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ยุโรป..ข่าวดีคือรัสเซียไปดักรอไว้แล้ว เจ้าของแหล่งก๊าซใหญ่ที่สุดในอาเซอร์ไบจานคือ Lukoil ของรัสเซียนั่นเอง
