จากที่วันนี้ 19 กรกฎาคม 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ถึงสถานการณ์ในยูเครนที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งนั้น
ทั้งนี้เนื้อหาที่ ดร.ปฐมพงษ์ ระบุไว้มีรายละเอียดว่า “รัสเซียชนะสงครามในยูเครนแล้ว:เงินเฟ้อในประเทศอเมริกาสูงเป็นประวัติการณ์แม้ว่าเฟดจะพยายามขึ้นดอกเบี้ยยังไงก็ตาม
นักเศรษฐศาสตร์มองว่ามองไม่เห็นอนาคตว่าจะคลี่คลายดีขึ้นอย่างไร ในขณะที่อเมริกาทำสงครามกับรัสเซียในยูเครน ซึ่งแฉกันออกมาแล้วว่ากลุ่มที่ทำหน้าที่บัญชาการรบในยูเครนล้วนแล้วแต่เป็นสายลับหรือทหารนาโต้ทั้งนั้น
ระยะนี้ รัสเซียเปิดฉากยิงถล่มอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่นาโต้ส่งไปให้ยูเครนเสียยับเยินในทุกๆ จุด เมื่อทำสงคราม ยูเครนก็ต้องการเงินจากอเมริกาช่วย แล้วอเมริกาจะมีเงินช่วยได้สักกี่น้ำในขณะที่เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักเช่นนี้?
สงครามนี้ เป็นสงครามที่อเมริกาไม่มีทางชนะได้เลยแม้แต่น้อย อาวุธที่ส่งไปก็ไม่สามารถทำให้รัสเซียถอยหลังได้แม้แต่นิดเดียว เกาะงูที่รัสเซียถอนทหารไป ก็เป็นการถอนทหารตามยุทธวิธีในการรบ เมื่อใดที่ทหารยูเครนบุกเกาะงู เมื่อนั้น ก็จะตายยกกองทัพเช่นเดียวกัน
คนอเมริกันต้องหันมาทำใจแล้วว่าพวกตนกำลังพ่ายแพ้สงครามในยูเครน หลังจากเพิ่งพ่ายแพ้สงครามในอาฟกานิสถานมาหมาดๆ
เซเลนสกีไล่ปลดเจ้าหน้าที่ตนออกจากตำแหน่ง:คราวก่อน ผมเคยเขียนว่ารัสเซียมีสายลับในยูเครนเยอะแยะไปหมด พอรู้ว่าอเมริกาหรือนาโต้ประเทศอื่นๆ ส่งอาวุธมาให้ยูเครนและซ่อนไว้ตรงไหน คนพวกนี้ก็จะแจ้งให้ทราบ
เดิมที ยูเครนเก็บอาวุธไว้ที่คลังแสงของค่ายทหาร แต่รัสเซียเล่นใช้คณะทูตกาลิบร์ไปถล่มจนเละบ่อยๆ ตรงไหนที่ซ่อนใต้ดินลึกๆ ก็เจอขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกจากรัสเซีย เละกว่าเดิมไป อาวุธที่ยูเครนมีก็เลยโดนถล่มเละหมด
ในที่สุด ยูเครนก็หันมาซ่อนอาวุธที่ได้จากนาโต้ที่ตึกโรงเรียนบ้าง โกดังหลังห้างสรรพสินค้าบ้าง โรงแรมที่แปรสภาพเป็นค่ายทหารบ้าง ตึกเก็บพัสดุมหาวิทยาลัยบ้าง โรงพยาบาลแม่และเด็กที่ร้างบ้าง ตึกพาณิชย์บ้าง ฯลฯ เพื่อให้รอดจากสายตารัสเซีย
แต่ทว่า ๑.ยูเครนเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตมาก่อน เดิมทียูเครน ได้ชื่อว่าเป็น *รัสเซียน้อย* ด้วยซ้ำ ๒.ประชาชนยูเครนกับรัสเซียเป็นมิตรต่อกัน พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันใดๆ อยู่เป็นเมืองพี่เมืองน้องมานาน มองกันเป็นญาติสนิท
มามีเรื่องก็เมื่อนายเซเลนสกีทำตัวเป็นหุ่นเชิดอเมริกา ยอมให้อเมริกามาสร้างกลุ่มนีโอนาซีเพื่อหาเรื่องรัสเซียในยูเครนนี่แหละครับ ประชาชนที่เคยเป็นมิตรกับรัสเซียมาแต่เดิม รวมทั้งนักการเมืองจึงไม่พอใจและพากันต่อต้านเซเลนสกี เรียกร้องให้เซเลนสกีเลิกเป็นทาสรับใช้อเมริกาเสีย
นายเซเลนสกีจึงด่าคนเหล่านี้ว่าเป็นพวกกบฎ นักการเมืองกลุ่มไหนที่เสนอนโยบายเป็นมิตรกับรัสเซียและต่อต้านอเมริกาพร้อมพวกตนก็ตราหน้าว่าเป็นพวกกบฎไปหมด
ความจริงแล้ว เซเลนสกีต่างหากที่เป็น *กบฎ* ต่อธรรมเนียมประเพณี วิเทโศบายที่มีมานานในยูเครนของตนเอง เพราะทำตัวเป็น *หุ่นเชิด* ของอเมริกา เป็นผู้นำภัยมาสู่ยูเครนเพราะการคบกับรัฐบาลอเมริกาแท้ๆ หลังจากที่ยูเครนกับรัสเซียอยู่ในฐานะมิตรสหายกันมานมนานกาเล
แม้เซเลนสกีจะไล่พนักงานของรัฐที่ตนคิดว่าเป็นกบฎออก ก็ไม่มีทางหมดหรอกครับ ยังจะมีประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากยังช่วยกันส่งข่าวลับ เช่น อาวุธจากนาโต้ที่ส่งเข้ายูเครนเพื่อให้รัสเซียตรวจสอบและยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายได้ง่าย
จนกว่านายเซเลนสกีจะหลุดออกจากตำแหน่งนั่นแหละครับ”