สถานการณ์สู้รบในยูเครนดูเดือดเข้มข้น เมื่อสหรัฐได้ส่งอาวุธทำลายล้างระดับสูงหนุนยูเครนสู้ศึก เกิดความสูญเสียประชาชนทั้งฝ่ายยูเครนและรัสเซีย ล่าสุดกองกำลังการบินและอวกาศของรัสเซียได้ประกาศทำลายเครื่องบินรบยูเครนหลายลำ ขณะเปิดตัวผู้นำหน่วยอวกาศรัสเซียคนใหม่ เล่นเอาตะวันตกอ้าปากค้างว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะที่ผ่านมาอดีตบอสของรอสคอสมอส มีผลงานตอบโต้ตะวันตกอย่างเข้มข้น
วันที่ ๑๘ ก.ค.สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และซินหัวรายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้แถลงเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๖ ก.ค.ที่ผ่านมาว่าเครื่องบินรบของรัสเซียน แอร์โรสเปซ ฟอร์ซ(Russian Aerospace Forces) ได้ทำลายเครื่องบินยูเครน๓ลำในการรบทางอากาศ รวมถึงมิก-๒๙ (MiG-29) ๒ ลำในเมืองโนโวพาฟลอฟกา( Novopavlovka)ภูมิภาคนิโคเลียฟ (Nikolaev) และเมืองวลาดิมีรอฟกา (Vladimirovka) ในภูมิภาคเนโปรเปตรอฟ (Dnepropetrovsk) ของรัสเซีย
ด้านเอสยู-๒๕(Su-25) ซึ่งเป็นเครื่องบินรบรุ่นเก่าของสหภาพโซเวียตที่อยู่ในยูเครนอีก ๑ ลำถูกทำลายในพื้นที่เมืองเซเวิร์ส (Seversk) นอกจากนี้ เฮลิคอปเตอร์ยูเครน ๒ ลำถูกยิงกลางอากาศ เป็นรุ่นเอ็มไอ-๘ (Mi-8) และเอ็มไอ-๒๔ (Mi-24)ที่ผลิตโดยอดีตสหภาพโซเวียตเช่นกัน
สรุปกองทัพรัสเซีย ได้ทำลายยุทโธปกรณ์ทางทหารของยูเครนจนถึงปัจจุบัน ได้แก่เครื่องบินยูเครน ๒๕๖ ลำและเฮลิคอปเตอร์ ๑๓๙ ลำ, โดรน ๑,๕๕๗ ลำ, ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน ๓๕๕ ลำ, รถถัง ๔,๐๗๓ คันและยานเกราะต่อสู้อื่นๆ, ระบบจรวดยิงจรวดหลายลำกล้อง ๗๔๖ ลำ, ปืนใหญ่และปืนครก ๓,๑๔๙ คัน และยานพาหนะทางทหารพิเศษ ๔,๒๕๓ คัน ทั้งหมดถูกทำลายในสนามปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย
เซอร์เก ชอยกู(Sergei Shoigu) รมว.กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้สั่งกองกำลังติดอาวุธของประเทศให้ “ดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกทิศทาง” เพื่อป้องกันไม่ให้กองทหารยูเครนโจมตีดอนบาสและภูมิภาคอื่น ๆ อย่างหนาแน่น ชอยกูได้ตรวจเยี่ยมกลุ่มทหารทางตอนใต้และตอนกลางของรัสเซีย ด้วยตนเองพร้อมกับมอบเหรียญกล้าหาญชมเชยแก่ผู้ปฏิบัติงาน ๒ นายเป็นกำลังใจด้วยรางวัลแด่ผู้อุทิศตนให้ประเทศชาติและประชาชน
ล่าสุดกองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธคาลิเบอร์(Kalibr)โจมตีอาคารกองทหารรักษาการณ์ในเมือง วินนิตเซีย(Vinnytsia) ทางตะวันตกของยูเครน มีการจัดการประชุม ณ สถานที่ดังกล่าวระหว่างกองบัญชาการกองทัพยูเครนและผู้จัดหาอาวุธจากต่างประเทศ ก่อนหน้านี้รัสเซียออกคำเตือนว่า ถ้ายังบุกรุกเขตแดนรัสเซียจะโจมตีจุดบัญชาการรบของยูเครน แต่ยูเครนยังคงโวยวายว่ารัสเซียยิงอาคารบ้านเรือนประชาชน โดยไม่พูดความจริงว่าสถานที่นั้นคือแหล่งบัญชาการรบ
ท่ามกลางการสู้รบยังดุเดือดในโดเนตสก์ ปธน.ปูตินแห่งรัสเซียได้ประกาศแต่งตั้งยูริ บอริซอฟ(Yury Borisov) เป็นหัวหน้าหน่วยอวกาสรอสคอสมอส (Roscosmos) แน่นอนก่อกระแสฮือฮา คาดเดากระหึ่มไปว่าเกิดอะไรขึ้น
ยูริ บอริซอฟ เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีรัสเซียและดูแลสัญญาและการวิจัยด้านการป้องกันประเทศ ได้รับมอบหมายให้ทำงานด้านอวกาศแทนดมิทรี โรโกซิน (Dmitry Rogozin) แม้ว่าจะไม่ชัดเจนในทันทีว่าอดีตหัวหน้ารอสคอสมอส จะทำอะไรต่อไป แต่โฆษกของเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ(Dmitry Peskov) กล่าวว่าเขาจะได้รับงานใหม่เร็วๆนี้
โรโกซิน(Rogozin) เคยเป็น ส.ส. และทูตรัสเซียประจำ NATO และรองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าที่รอสคอสมอส ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๐๑๘ ในขณะที่เป็นผู้นำหน่วยงานอวกาศ
เขามีบทบาทตอบโต้ตะวันตกบ่อยครั้ง ในปี ๒๐๑๔ เขาแนะนำว่า NASA ควรต้องใช้แทรมโพลีนสำหรับฝึกการทำภารกิจอวกาศที่มีคนควบคุมให้มากขึ้น เนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่อรัสเซีย คำพูดแซะดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ พึ่งพารัสเซียในการส่งมอบและนำลูกเรือของสถานีอวกาศนานาชาติกลับมา เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้มีส่วนร่วมในการตอบโต้กับอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผู้บริหาร SpaceX
ยูริ บอริซอฟ เป็นนายทหารอาชีพที่เชี่ยวชาญด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างปี ๒๕๕๕ ถึง ๒๕๖๑ เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมซึ่งรับผิดชอบด้านการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดหาระบบอาวุธที่ทันสมัย เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองนายกรรัฐมนตรีแทนที่ โรโnซิน ที่ออกไปด้วย
ผลงานล่าสุดก่อนที่โรโกซินจะถูกย้ายงาน คือได้แถลงผลความสำเร็จการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ซาร์มัต(Sarmat:ICBM) และเตรียมผลิตต่อเนื่อง เมื่อวันอังคารที่ ๑๑ ก.ค.ที่ผ่านมา
เขาพูดเกี่ยวกับความสามารถในการรุกของซาร์มัต โดยกล่าวว่า “ มันสามารถทำลายชายฝั่งครึ่งหนึ่งของทวีปใหญ่บางแห่งได้ หากประเทศใดประเทศหนึ่งตัดสินใจที่จะคุกคามอย่างก้าวร้าวต่อรัสเซีย
ขีปนาวุธซาร์มัต(Sarmat: ICBM) ประสบความสำเร็จในการทดสอบเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายนที่เขตอาร์คันเกลสก์ (Arkhangelsk) ปธน.ปูติน กล่าวเมื่อปลายเดือนมิถุนายนว่า ขีปนาวุธใหม่นี้คาดว่าจะเข้าสู่หน้าที่การรบเชิงรุกภายในสิ้นปี ๒๕๖๕
ICBM ถูกกำหนดให้มาแทนที่ระบบวอยอีโวดา (Voyevoda) รุ่นเก่า หรือที่NATO เรียกว่าเอสเอส-๑๘ ซาตาน(SS-18 Satan) ขีปนาวุธซาร์มัตมีฉายาว่า ‘ซาตาน ๒’ เป็นขีปนาวุธที่ทรงพลังที่สุดในประเภทเดียวกัน ในแง่ของระยะทางและหัวรบ และได้รับการออกแบบให้ “ทะลุทะลวงต่อระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีอยู่ทั้งหมดในโลกปัจจุบัน”