หลังจากที่ค่าเงินยูโร กำลังประสบวิกฤตที่ค่าเงินอ่อนลงในรอบ 20 ปี ทำให้หลายชาติจับตามองว่า อีกไม่นานยุโรปจะลำบากกันทั่วหน้าด้วย เพราะใกล้ถึงฤดูหนาว และประชาชนต้องประหยัดพลังงานตามคำสั่งของผู้นำด้วย แม้ว่าหลาย ๆ ประเทศจะรู้ชะตาดีว่า การคว่ำบาตรรัสเซียก่อนหน้านี้ มีผลทำให้ประเทศตัวเองกำลังย่ำแย่ พลังงานอาจจะไม่มีเพียงพอลากยาวไปถึงฤดูหนาว รวมทั้งหลายประเทศพร้อมกลับลำไปง้อก๊าซรัสเซียอีกครั้ง
โดยขณะนี้มี 2 ประเทศในกลุุ่ม EU ที่ออกมาเคลื่อนไหวทันที ยอมรับว่า การคว่ำบาตรตามสหรัฐฯ พาให้ชาติตัวเองลำบาก เริ่มที่ฮังการี ที่ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2565 ประกาศภาวะฉุกเฉินทางพลังงาน รับมือวิกฤตขาดแคลนช่วงฤดูหนาว อันสืบเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรพลังงานรัสเซียของอียู แม้ตนเองไม่เห็นด้วย โดยเกอร์เกอลี กูลยาส ผู้ช่วยของนายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ เออร์บาน แถลงว่าจะยกระดับกำลังผลิตก๊าซและถ่านหินภายในประเทศ และเติมเต็มคลังสำรองก๊าซก่อนฤดูหนาวมาเยือน
ด้วยที่อียูกำลังตัดตัวเองออกจากการนำเข้าพลังงานรัสเซีย กูลยาส บอกกับผู้สื่อข่าว คาดหมายว่าทางกลุ่มไม่น่าจะมีก๊าซเพียงพอตั้งแต่ฤดูใบไม่ร่วง (กันยายนถึงพฤศจิกายน) เป็นต้นไป และในมาตรการตอบสนองต่อวิกฤตทางอุปทานดังกล่าว เขาได้แถลงแผน 7 ขั้น ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ส่วนอีกหนึ่งประเทศ คือ เยอรมันนี จำเป็นต้องซื้อก๊าซธรรมชาติของรัสเซียเพิ่มเติม เนื่องจากคลังสำรองก๊าซในปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะเห็นประเทศแห่งนี้ผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวไปได้ จากความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเบอร์ลิน ที่รับผิดชอบงานด้านเครือข่ายไฟฟ้าและก๊าซ มีรายงานว่าเยอรมนีจำเป็นต้องซื้อก๊าซธรรมชาติของรัสเซียเพิ่มเติมมากน้อยแค่ไหน เวลานี้ขึ้นอยู่กับว่างานซ่อมบำรุงท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 1 จะแล้วเสร็จตามความคาดหมายในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) หรือไม่
ขณะที่ เคลาส์ มุลเลอร์ ประธานสำนักงานเครือข่ายกลาง (Federal Network Agency) กระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานของเยอรมนี ยอมรับว่าเยอรมนีคงต้องเผชิญกับฤดูหนาวที่ยากลำบาก 2 ปีติด จากความเสี่ยงก๊าซธรรมชาติขาดแคลน แต่พอถึงช่วงฤดูร้อนปี 2024 ประเทศของเขาจะเป็นอิสระจากก๊าซของรัสเซีย “แต่สิ่งที่เป็นความจริงเช่นกัน คือ ราคาจะไม่มีทางกลับมาอยู่ในระดับต่ำเหมือนในอดีตอีกแล้ว”