กร่างใส่ไทยไร้มารยาท!! ว่าที่ทูตสหรัฐคนใหม่ ประกาศจะบีบไทยตัดสัมพันธ์เมียนมา ยกเลิกม.๑๑๒

0

ลางไม่ดีสำหรับสหรัฐ ที่เสนอทูตคนใหม่สายเหยี่ยวมาประจำประเทศไทย ด้วยท่าทีก้าวร้าวขณะชี้แจงในสภาคองเกรส เตรียมจะมาแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย ทั้งเรื่องนโยบายต่างประเทศและเรื่องละเอียดอ่อนในสังคม ประหนึ่งว่าประเทศไทยเป็นอาณานิคมที่จะต้องทำตามคำสั่งวอชิงตันอย่างไม่มีเงื่อนไข

สำนวนไทยกล่าวว่า “อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่” นั่นคือสหรัฐไม่ได้มาดีใช่หรือไม่?? คนก่อนจุ้นขนาดไหน คนนี้น่าจะเตรียมเล่นบทแทรกแซงหนักกว่าเดิม

ปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศเสนอชื่อโรเบิร์ต เอฟ โกเดก ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยทำเนียบขาวเปิดเผยตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐในไทย ว่างลงตั้งแต่การจากไปในเดือนมกราคม ๒๕๖๔ ของ ไมเคิล เดซอมเบร (Michael DeSombre) ผู้ได้รับการแต่งตั้งทางการเมืองโดยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยปกติเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่บริการต่างประเทศที่สมควรเป็นมืออาชีพในการสานสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ สร้างทัศนคติที่ดีต่อประชาชน แต่สำหรับว่าที่เอกอัครราชทูตคนใหม่ที่จะมาประจำประเทศไทย ยังไม่ทันเข้ามานั่งเก้าอี้ทูตในไทย ก็กร่างใส่ข้ามฟ้ามาแต่หัววัน 

ประเด็นร้อนที่แสนจะฮือฮานี้แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดียไทยกระหึ่ม ด้านเพจข่าวสาร “บูรพาไม่แพ้ ได้นำเสนอรายงานไว้น่าสนใจดังนี้

ตีหัวตั้งแต่ยังไม่เข้าบ้าน ว่าที่ทูตสหรัฐ ประกาศจะให้ไทยปรับปรุงสิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และลดการซื้อพลังงานจากพม่า เพื่อกดดันให้รัฐบาลทหารคืนประชาธิปไตย

นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค Robert F. Godec ว่าที่เอกอัครรัฐทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพ ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภาสหรัฐว่า ตั้งใจจะช่วยไทยปรับปรุงเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศ และให้ไทยร่วมกดดันพม่าด้วย

วุฒิสมาชิกสหรัฐตั้งกระทู้ถามนายโกเดคถึง ม.๑๑๒ ซึ่งส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และมีผู้ถูกจับกุมคุมขังมากมาย

นายโกเดคกล่าวว่า สหรัฐเคารพราชวงศ์ไทยในฐานะสถาบันหนึ่ง และเข้าใจความจงรักภักดีของคนไทยต่อราชวงศ์ แต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เขาเคยเน้นย้ำทั้งต่อสาธารณะและในทางส่วนตัวถึงความสำคัญที่ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องหวาดกลัวการถูกจับกุม และจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

“ผมขอย้ำว่า คนที่ถูกจับกุมตัวจะต้องได้รับการปฏิบัติโดยเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างเต็มที่ในระหว่างการดำเนินคดี”

ว่าที่ทูตสหรัฐยังระบุว่า จะช่วยเหลือประเทศไทยปรับปรุงสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงาน โดยบอกว่า ได้เห็นพัฒนาการบางอย่าง แต่ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก และเขายืนยันจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้มีพัฒนาการ

ให้ปตท. เลิกซื้อก๊าซพม่า กดดันคืนประชาธิปไตย 

ว่าที่ทูตสหรัฐคนใหม่ยังระบุว่า จะกดดันให้ไทยลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากพม่า ตามรายงานของหน่วยงานสิทธิมนุษยชนว่า ไทยนำเข้าพลังงานจากพม่าถึงร้อยละ๘๐

“เรากำลังหาทางให้ไทยเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลพม่า ทางเลือกทุกอย่างวางอยู่บนโต๊ะ รวมถึงเรื่องน้ำมันและก๊าซ รัฐบาลทหารพม่าได้ทำการอันเหี้ยมโหด และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหยุดยั้ง”

เขาย้ำว่าเรื่องพม่าจะเป็น ประเด็นสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่จะหารือกับทางการไทย

องค์กร  Human Rights Watch ระบุว่า ปตท. เป็นผู้จ่ายเงินให้กับรัฐบาลทหารพม่ารายใหญ่ที่สุด ด้วยการซื้อก๊าซธรรมชาติจากบ่อก๊าซยานาดาและซอว์ติกา คิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 80 ของปริมาณส่งออกทั้งหมดของพม่า รายได้จากก๊าซธรรมชาติเป็นรายได้ต่างประเทศสำคัญของพม่า มีมูลค่ามากถึง ๑,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เคยรับผิดชอบกิจการไทยและเมียนมา ในช่วงประจำกรมเอเชียตะวันออก หลังจากนั้นไปเป็นทูตประจำตูนีเซียและเคนย่า เชี่ยวชาญปัญหาแอฟริกา และยังเคยทำงานเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิรัก เขาได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้เป็นเอกอัครราชทูตประจำกรุงเทพฯ คนใหม่ ขณะนี้รอการรับรองจากวุฒิสภา

ความตั้งใจของสหรัฐที่หวนกลับคืนสู่อาเซียน ชูธงต้านจีนและรัสเซียอย่างเปิดเผย การส่งว่าที่ทูตมาประจำไทยแสดงบทก้าวร้าวแต่เริ่มแรก เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทย คนไทยต้องจับตา ด้วยคำกล่าวอ้างยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่รัฐบาลไทยไปลงนามด้วย จะมาพร้อมกระตุ้นไฟสงครามขัดแย้งกับเพื่อนบ้านหรือไม่?  ขณะที่การเคลื่อนไหวของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและดุเดือดขึ้นทุกขณะ ท่ามกลางสงครามทางทหาร และสงครามเศรษฐกิจของการต่อสู้ช่วงชิงการนำพลิกระเบียบโลกใหม่ ระหว่างมหาอำนาจเก่าและกลุ่มอำนาจหลายขั้ว!!