กินแห้วกองโต! ไบเดน กลับบ้านมือเปล่า เยือนซาอุฯคะแนนติดลบ หลายชาติตอกหน้า หมดเวลาระเบียบโลกเก่า!?

0

หลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา และได้พบปะซึ่งหน้ากับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุฯ โดยมีการหารือกันหลายเรื่องทางด้านเศษรฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องน้ำมัน ที่ก่อนหน้านี้ มีสื่อของสหรัฐฯรายงานว่า ไบเดนกลับลำไปง้อเจ้าชายโมฮัมเหม็ด เนื่องจากเข้าตาจนเรื่องก๊าซ และพลังงาน อันเป็นผลมาจากการคว่ำบาตรรัสเซีย

โจ ไบเดน” แจงแผนเดินทางไปซาอุฯ ท่ามกลางอเมริกันวิจารณ์แรง

ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก World Update รายงานว่า สหรัฐ กินแห้ว! กลับบ้านมือเปล่าหลังเยือนซาอุฯ ที่สมัครเข้ากลุ่ม BRICS ไปก่อนแล้ว เมื่อ ปี 2019 โจ ไบเดน เคยประกาศหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ว่า “ถ้าได้เป็นประธานาธิบดี เขาจะลงโทษมกุฎราชกุมารซาอุฯ จากการตายของนายคาช็อกกี” (นักข่าวซาอุฯ ที่เป็นสายลับสหรัฐ และผู้ร่วมก่อการรัฐประหารหนีไปตุรเคีย และเสียชีวิต) สหรัฐฯ จะไม่ขายอาวุธให้ซาอุฯ จะทำให้ซาอุฯ กลายเป็นประเทศนอกคอกของโลก จะหยุดให้การช่วยเหลือทุกอย่าง จะไม่ขายของที่จำเป็นแก่ซาอุฯ” จนทำให้สายสัมพันธ์ ซาอุฯ – สหรัฐ ขาดผึงทันที ข้อตกลงเปโตรดอลดาห์มาตั้งแต่ปี 1973 เป็นอันสิ้นสุดลง

ไบเดน'ชนกำปั้น'เจ้าชายซาอุฯ'ก่อนหารือฟื้นสัมพันธ์

แต่ต่อมาซาอุฯ ได้หันมาขายน้ำมันเป็นเงินหยวนให้กับจีนถึง 25% มูลค่าการส่งออก สัดส่วนเปโตรดอลลาห์ตลาดโลกหล่นฮวบ ฉุดค่าเงินยูโร ปอนด์ อ่อนค่าและดิ่งลงไปเมื่อเทียบกับรูเบิล หยวน สัดส่วนเงินหยวน-รูเบิลตลาดเงินตราเพิ่มขึ้นกว่า 1,000% สถานะดอลลาร์ในเวลานี้เรียกว่า “Dollar Milkshake” เป็นช่วงแรงดิ้นเฮือกสุดท้าย ที่จะสูญเสียสถานะเงินหลักที่ครองโลก แม้สหรัฐ จะส่งรักษาการนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ไปง้อซาอุฯ มาก่อนหน้าก็ได้กินแห้ว

ล่าสุดประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ เยือนเมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ กษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และพบกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน และประธานาธิบดีไบเดนแถลงข่าวหลังจากหารือกับมกุฎราชกุมารฯ โดยระบุว่า “ได้ยกประเด็นเรื่องการสังหารนายคาช็อกกีมาเป็นวาระสำคัญในการหารือ และได้ย้ำจุดยืนไปว่า การสังหารนายคาช็อกกีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเขาและสหรัฐฯ ผมพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ การจะเงียบเฉยต่อประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนนั้น ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เราเป็นและสิ่งที่ผมเป็น ผมยืนหยัดเพื่อคุณค่าของสิ่งที่เรายึดถือนี้มาโดยตลอด”

มกุฎราชกุมารบิน ซัลมาน ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว อีกทั้งผู้ต้องหา 9 รายถูกส่งตัวจากตุรเคีย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในซาอุฯ แล้ว , ล่าสุดทรงเผยแพร่ข้อความทางโซเชียลมีเดียส่วนพระองค์ว่า “ขอตั้งมั่นในการให้ความเข้าใจต่อคุณค่าที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ ซึ่งนั่นจะเป็นการให้เกียรติให้ความเคารพที่เสมอกัน หากมีความพยายามใดที่จะเป็นการบังคับขู่เข็ญเข้าควบคุมคุณค่านั้นเกิดขึ้น ผู้นั้นก็จะต้องยอมรับผลที่ตามมาอย่างหนักที่สุด..น้ำมัน VS นโยบายความปลอดภัย เป็นเรื่องเก่า และตกยุค ล้าสมัยไปแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ไบเดน จะเดินทางถึงซาอุฯ ไม่กี่ชั่วโมง มีรายงานว่าซาอุดิอาระเบีย สมัครเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ไปแล้ว..เปโตรดอลลาร์ไม่มีอนาคตอีกแล้ว ระเบียบโลกเก่าพังแล้ว ระเบียบโลกใหม่เริ่มแล้วนับแต่นี้เป็นต้นไป..