หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2565 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯได้เดินทางถึงอิสราเอล โดยภารกิจครั้งนี้นับเป็นการเยือนประเทศแห่งนี้อย่างเป็นทางการ ครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ เมื่อเดือนม.ค. 2564 ไบเดน กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐ “ลึกซึ้งเข้ากระดูกดำ” เพราะเป็นความผูกพันจากรุ่นสู่รุ่น อิสราเอลและสหรัฐ “ลงทุนด้วยกันและมีความฝันด้วยกัน”
ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐย้ำจุดยืนของรัฐบาลวอชิงตัน ในการสนับสนุนการรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพ ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ที่ชะงักไปตั้งแต่ปี 2557 และเน้นว่าการที่ต่างฝ่ายต่างต้องยอมรับ “สถานะสองรัฐ” ถือเป็น “ทางออกเหมาะสมและดีที่สุด”
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐใช้โอกาสในการเยือนอิสราเอลครั้งนี้ กล่าวถึงอิหร่านด้วยว่า รัฐบาลวอชิงตันมีความพร้อมเจรจากับอีกฝ่ายเสมอ เพื่อรักษาและปรับโครงสร้างของข้อตกลงนิวเคลียร์ ที่ลงนามร่วมกัน เมื่อปี 2558 ด้วย
แต่แล้วก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ โดยในเฟซบุ๊ก Jaroensook Limbanchongkit Pone ได้โพสต์ข้อความว่า ปู่ไบเดน ปธน. #สหรัฐ ไปสปีชที่ #อิสราเอล บ่งบอกสภาพของปู่ว่าล้าเต็มทนแล้ว จึงออกอาการหลง ๆ ลืม ๆ อย่างเห็นได้ชัด และติดนิสัยชอบเช็คแฮนด์กับแม่ซื้อ!!
เหนื่อยแทนปู่จริง ๆ
ทำให้มีคอมเม้นต์มองว่า สภาพไบเดนนั้น เหมือนอ่อนล้า ออกแนวจะมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ แล้วหรือไม่ บางคอมเม้นต์ก็มองว่า อาจจะผายมือ เพื่อเชิญให้นั่ง แต่ด้วยอายุที่มาก บวกกับอาจจะมีโรคประจำตัว ทำให้สภาพไบเดนดูอิดโรยมาก ๆ เพราะก่อนหน้านี้ เพิ่งมีข่าวเรื่องจักรยานล้ม จนทำให้โดนแซวมาแล้วว่า สภาพเขา เหมือนกับสภาพสหรัฐฯในเวลานี้