“มาครง” งอแง โวยรัสเซียใช้ตัดก๊าซเป็นอาวุธ สั่งปชช.ทุกคนใช้ไฟฟ้าประหยัด ผวาจะไม่รอดพ้นช่วงฤดูหนาว

0

จากกรณีที่มีรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่ช่วงเดือนมิ.ย. ว่าองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ออกแถลงการณ์ ว่ายุโรปควรมีแผนสำรองที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที กรณีที่รัสเซียตัดการส่งก๊าซธรรมชาติเข้าสู่ภูมิภาค “อย่างสิ้นเชิง” ในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง นัยว่าเป็นข้อต่อรองทางการเมือง ท่ามกลางวิกฤติการณ์ในยูเครนที่ยังคงตึงเครียด

ล่าสุดประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ออกมาเปิดเผยว่า ประชาชนต้องเรียนรู้อย่างรวดเร็วในการอยู่รอดโดยปราศจากก๊าซรัสเซีย เนื่องจากมอสโกกำลังใช้การตัดอุปทานที่ป้อนแก่ยุโรปเป็นอาวุธ ในสงครามกับยูเครน

นอกจากนี้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ยังเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนลดการบริโภคพลังงาน โดยเขาจะยื่นแผนควบคุมทางพลังงาน ซึ่งจะขอให้พลเมืองทุกคนมีหน้าที่ประหยัดพลังงาน อย่างเช่น ปิดไฟตอนที่ออกจากสำนักงาน “เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมตนเองสำหรับเหตุการณ์หนึ่งที่เราต้องรับมือกับการปราศจากก๊าซของรัสเซียโดยสิ้นเชิง รัสเซียกำลังใช้พลังงานเป็นอาวุธในสงคราม” เขากล่าว พร้อมระบุความขัดแย้งในยูเครน “ส่อแววลากยาว”

ราคาพลังงานดีดตัวขึ้นอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้ารัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ และมันพุ่งทะยานยิ่งขึ้นอีกนับตั้งแต่นั้น ทำให้บรรดาชาติเศรษฐกิจหลัก ๆ ของโลกต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากบิลค่าไฟที่พุ่งทะยาน เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลฝรั่งเศสจึงกำหนดเพดานราคาไฟฟ้าและราคาก๊าซมาตรฐานที่ได้รับการต่ออายุไปจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม มาครง บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสงวนมาตรการนี้ “ไว้เฉพาะกับกลุ่มคนที่ต้องการมันมากที่สุด”

ทั้งนี้เขายังบอกด้วยว่าฝรั่งเศสจำเป็นต้องลงทุนในด้านกองกำลังป้องกันตนเอง สืบเนื่องจากปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย “งบประมาณกลาโหมจะไม่ลดลง ในทางตรงกันข้าม เราต้องลงทุนใหม่ในคลังของเรา เราต้องมีความสามารถผลิตกระสุนมากขึ้นและเร็วขึ้น” มาครงกล่าว หลังเป็นประธานพิธีสวนสนามในวันชาติฝรั่งเศส

มาครงยืนยันว่าฝรั่งเศสมีความตั้งใจเดินหน้าช่วยเหลือยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย พร้อมระบุว่าปารีส เช่นเดียวกับบรรดาพันธมิตรในนาโต “ต้องการหยุดสงคราม โดยไม่ทำสงคราม” “สงครามจะยืดเยื้อ แต่ฝรั่งเศสจะอยู่ในจุดๆ หนึ่งที่จะคอยช่วยเหลือยูเครนเสมอ”