หลังจากที่ทางด้านดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ ได้โพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ระบุถึงประเด็นทางการเคลื่อนไหวของรัสเซียด้วยว่า วลาดิเมียร์ ปูตินพูดไว้ว่า ‘ถ้านาโต้คิดอยากเอาชนะรัสเซียในการทำสงคราม เชิญมาพิสูจน์ได้เลย สองวันก่อน มีข่าวใหญ่ที่สะท้านโลกอยู่อันหนึ่ง เป็นข่าวที่วลาดิเมียร์ ปูตินพูดออกสื่ออย่างตรงไปตรงมาว่า
‘ถ้านาโตคิดจะเอาชนะรัสเซียในการทำสงคราม เชิญพิสูจน์ได้เลย’ ซึ่งหมายถึงว่ารัสเซียมั่นใจเปี่ยมล้นมากและอ่านขาดแล้วว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ของอเมริกาสู้รัสเซียไม่ได้ ทั้งนี้นาโต ยังคงไม่ละความพยายาม ที่จะส่งอาวุธและยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ให้กับยูเครน ด้วยเชื่อว่าจะยังสามารถเอาชนะปูตินได้
ล่าสุดสื่อดังของอังกฤษ ได้รายงานระบุว่า นาโตเริ่มกังวลเกี่ยวกับการจัดการยุทโธปกรณ์ของยูเครน ที่นาโตระดมส่งให้ และกำลังพยายามสร้างกลไกการติดตาม เพื่อป้องกันอาวุธตกไปอยู่ในตลาดมืดแทน
Financial Times หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษ ได้รายงานข่าวโดยอ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดนามรายหนึ่งว่า เหล่าสมาชิกนาโต และสหภาพยุโรป เริ่มมีความกังวลมากขึ้น เกี่ยวกับวิธีการที่ยูเครนจัดการกับยุทโธปกรณ์ที่เหล่าชาติตะวันตกจัดหาให้ และประเทศเหล่านี้เริ่มต้องการสร้างกลไกการติดตามพิเศษสำหรับยุทโธปกรณ์แล้ว
เจ้าหน้าที่เล่ารายละเอียดว่า ยุทโธปกรณ์เหล่านี้ทั้งหมด ได้ถูกส่งไปปล่อยที่ทางตอนใต้ของโปแลนด์ เพื่อถูกส่งไปยังชายแดน จากนั้นจึงถูกแบ่งออกไปขนส่งกับเหล่ายานพาหนะต่างๆ ทั้งรถบรรทุก รถตู้ และบางครั้งรถยนต์ส่วนตัว เพื่อขับข้ามไปส่งยังดินแดนยูเครน ซึ่งช่วงตรงนี้ มันเป็นช่วงเว้นว่าง ที่ไม่มีทางรู้ว่าพวกเขาไปที่ไหน ใช้งานที่ไหน หรือแม้แต่อาวุธพวกนี้ยังอยู่ในยูเครนหรือไม่ เพราะตามรายงานของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหภาพยุโรปได้เผยว่า อาวุธบางส่วนอาจออกจากดินแดนของยูเครนและกลับไปยังยุโรปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีความเห็นที่สอดคล้องกัน ของนายยานา เซอร์โนโชวา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสาธารณรัฐเช็ก ที่กล่าวกับนักข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงการลักลอบใด ๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะติดตามสิ่งของทุกชิ้น แม้ว่าประเทศผู้บริจาคจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อติดตามอาวุธก็ตาม โดยดูได้จากอดีตยูโกสลาเวีย ที่ชาติตะวันตกประสบความล้มเหลวในเรื่องนี้ ซึ่งกับยูเครนก็คงไม่ต่างกัน
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือนเมษายน สำนักงานตำรวจสากลแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรโพล ได้เตือนว่า มีการสอบสวนที่พบว่า อาวุธได้ถูกค้าออกจากยูเครน และส่งเข้ากลุ่มอาชญากรในตลาดมืดของสหภาพยุโรป ซึ่งทางที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของยูเครนก็ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องการเป็นศูนย์กลางการลักลอบขนอาวุธรายใหญ่ของยูเครน และยืนยันว่า การเคลื่อนย้ายอาวุธใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าหรือออกจากยูเครน ได้มีการตรวจสอบและดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งโดยยูเครนและพันธมิตรระหว่างประเทศ
