สงครามในสนามรบยูเครนดุเดือดต่อเนื่องไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ ดูเหมือนรัสเซียรุกคืบไม่หยุดยั้งทั้งในสมรภูมิทางการทหาร และทางการเมืองช่วงชิงประชาชน ล่าสุดออกกฎหมายอำนวยความสะดวกให้ชาวยูเครนสามารถเปลี่ยนสัญชาติเป็นรัสเซียได้โดยง่าย พร้อมจัดสรรชีวิตความเป็นอยู่และปลดหนี้สาธารณะให้ด้วย แบบนี้ก็ไม่ต้องรอทำประชามติแต่อย่างไร ภาพรวมคือรัสเซียยึดพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ติดทะเลดำและทะเลอะซอฟได้เบ็ดเสร็จ
สงครามข่าวสารก็ไม่น้อยหน้าจนทางอียูต้องออกมายอมรับว่า รัสเซียได้เผยแพร่ข่าวสารตลอดวันกลายเป็นที่นิยมของประชาชนแม้หลายประเทศทั้งสหรัฐและยุโรปคว่ำบาตรปิดกั้น แต่ช่องข่าวสารของรัสเซียกลับเป็นที่นิยมค้นหาเป็นอันดับหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง
เบื้องหลังฝุ่นควันของสงครามร้อนแรงในยูเครนนี้ นักวิจัยอาวุโสของรัสเซียได้ฟันธงต้นเหตุเบื้องลึกของ การจัดระเบียบโลกใหม่หรือ The Great Reset นั้น สหรัฐต้องการเป็นผู้นำเดี่ยวในโลกใหม่ ใช้ยุทธวิธีสร้างวิกฤตยูเครนเพื่อรวมชาติตะวันตกไว้เบื้องหลัง เป้าหมายที่แท้จริงคือการเผชิญหน้ากับจีน แต่เมื่อรัสเซียเปิดฉากทำลายแผนก่อนในช่วงแรกจะเห็นว่าสหรัฐไปไม่เป็น มีแต่ตั้งรับ
นักวิจัยย้ำว่า โลกกำลังเคลื่อนจากวิกฤตความมั่นคงของยุโรปไปสู่วิกฤตโลกที่เป็นสากลอย่างแท้จริง
วันที่ ๑๓ ก.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า อิวาน เซียนโก(Ivan Zuenko) นักวิจัยอาวุโสของ Institute of International Studies and Associate Professor of the Department of Oriental Studies, MGIMO, Moscow ออกบทวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนระบุว่า
หากไม่มีการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างมอสโกว์และปักกิ่งในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา และหากรัสเซียไม่มีทางเลือกอื่นในเอเชีย แทนที่ตลาดน้ำมันและก๊าซในยุโรป รัสเซียก็จะไม่สามารถโจมตียูเครนได้
ค่ายตะวันตกกำลังพยายามอธิบายปรากฏการณ์นี้ว่าจีนเป็นผู้รับประโยชน์หลักของวิกฤตยุโรปและสถานการณ์กำลังพัฒนาตามแผนของปักกิ่ง ซึ่งไม่เป็นความจริง
หากประเมินลักษณะและผลของเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียต่อยูเครน ที่เริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ สิ่งที่ชัดเจนคือไม่สามารถพิจารณาแยกจากบริบททางประวัติศาสตร์การต่อสู้ในยูเครนได้ อย่างน้อยระยะเวลาแปดปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากการรัฐประหารไมดาน โค่นล้มรัฐบาลของวิกเตอร์ ยานูโควิชในยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก หรือดีกว่านั้น ตลอดระยะเวลาของระเบียบโลกหลังสหภาพโซเวียตสิ้นสุดลงในปี ๒๕๓๔
และไม่ควรลดเหลือเพียงความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกว์กับเคียฟโดดๆ สถานการณ์ในยูเครนเป็นผลมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น ประเทศในกลุ่มยูโร-แอตแลนติกไม่เต็มใจที่จะสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมในยุโรปซึ่งรวมถึงรัสเซียด้วย ความขัดแย้งในปัจจุบันและผลกระทบทางเศรษฐกิจเกี่ยวข้องกับโลกส่วนใหญ่ด้วย นอกจากนี้ ในสถานการณ์ที่สหรัฐใช้กลยุทธ์ ‘การยกเลิกทั้งหมด’ และการแยกความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและมนุษยธรรมเป็นปัจจัยหลักในการต่อต้านรัสเซีย จีนได้กลายเป็นกุญแจสำคัญในฉากสงครามครั้งนี้
เมื่อจีนไม่ร่วมมือตะวันตกลงโทษรัสเซียต่อการปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ยังอุดหนุนซื้อสินค้ารัสเซียต่อไป และด้วยเหตุนี้ทำให้สามารถจัดตั้งกองหลังทางยุทธศาสตร์ที่น่าเชื่อถือได้ ไม่เช่นนั้นความต่อเนื่องของการรุกคืบเอาชนะในการศึกที่แท้จริงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐ-นาโต้คงเป็นไปไม่ได้
เหตุการณ์ปัจจุบันไม่ได้เป็นไปตามความชอบหรือผลประโยชน์ของปักกิ่ง จีนเองก็เชื่อมั่นว่าสหรัฐฯ เป็นเพียงฝ่ายเดียวที่ยืนหยัดเพื่อผลประโยชน์ของตนได้ในขณะนี้ โดยถือว่าวอชิงตันเป็น ‘ผู้หิวโหยอำนาจและผลประโยชน์’
การรวมตัวของ ‘ตะวันตกโดยรวม’ อยู่บนพื้นฐานของการแบ่งขั้วจินตนาการของ ‘ประชาธิปไตยกับเผด็จการ’ ซึ่งถูกโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็น ‘การต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว’ สิ่งนี้เป็นอันตรายเพราะไม่สอดคล้องความเป็นจริงทั้งหมด
โดยรวมแล้ว สถานการณ์ของจีนมีความซับซ้อน ประเทศได้เตรียมพร้อมสำหรับความจริงที่ว่าไม่ช้าก็เร็วบทบาทของผู้นำระดับโลกของจีน จะต้องถูกตอบโต้จากสหรัฐด้วยแรงกดดันทางเศรษฐกิจ การกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อจีนเช่นเดียวกับที่รัสเซียเผชิญหรืออาจมากกว่า วาทกรรมที่ก้าวร้าวของผู้นำตะวันตกในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยอดีตปธน.ทรัมป์ ทำให้ปักกิ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเตรียมพร้อมสำหรับสงครามในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ‘สงครามลูกผสม’ หรือ ‘สงครามตัวแทน’ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ต่างๆ ได้คลี่คลายเร็วเกินไปหลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารในสมรภูมิยูเครน
ลอนดอนและวอชิงตันซึ่งนับเป็นเมืองหลวงของ Euro-Atlantic ตระหนักดีถึงสิ่งนี้และพวกเขากำลังกดดันจีนทางภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อให้เกิด ‘ความแตกแยกของการรักษาความปลอดภัยในภูมิภาค Euro-Atlantic และ Indo-Pacificตามวาทศิลป์ก้าวร้าวของสหรัฐและนาโต้ตลอดจนประเทศบริวาร ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการดำเนินการสร้าง ‘NATO สากล’ อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นสถานการณ์ปัจจุบัน เราจึงกำลังเปลี่ยนจากวิกฤตความมั่นคงของยุโรปไปสู่วิกฤตระดับโลกอย่างแท้จริง และในที่สุด วิกฤตในยูเครนอาจถูกจดจำในฐานะการแสดงโชว์หน้าม่านก่อนงานหลักที่แท้จริงจะเผยโฉม!!!
