หลังจากรมว.ต่างประเทศสหรัฐมาแผลงฤทธิ์ในอาเซียน นอกจากเฉ่งรัสเซีย-จีนแล้ว มาถึงไทยก็ฟาดเมียนมาแบบจัดเต็มพร้อมพบฝ่ายต้านด้วย ไม่ถึงสองวันก็มีข่าวผู้นำเมียนมาเดินทางทริปส่วนตัวไปมอสโกว์ เข้าพบปธน.ปูติน แต่ขนทีมทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหารบก-เรือ-อากาศไปเพียบ ไปทำภาระกิจหลายเรื่อง ทำฮือฮาไม่น้อยว่าเมียนมาจะเคลื่อนไหวอะไรต่อไป ท่ามกลางสงครามย่อยยังคุกรุ่นในพื้นที่ป่าเขาระหว่างกองทัพทางการและกลุ่มชาติพันธ์ที่ร่วมกับฝ่ายต้าน ส่งผลกระทบกระทั่งที่ชายแดนของไทยประปราย
วันที่ ๑๓ ก.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวริเอโนวอสติ (Ria Novosti)ของรัสเซียรายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลเมียนมาเดินทางเยือนกรุงมอสโกว์ในพุธที่ ๑๒ ก.ค.ที่ผ่านมา
สถานทูตรัสเซียในพม่าเปิดเผยกับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย อยู่ในกรุงมอสโกว์ เยือนรัสเซียเป็นการส่วนตัวและ “เขาวางแผนที่จะมีส่วนร่วมในการเปิดศูนย์วัฒนธรรมพม่าและอื่นๆ”
ผบ.กองทัพบกเมียนมา มีกำหนดเข้าพบเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านอวกาศและนิวเคลียร์ของมอสโกว์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพเรือเมียนมาจะเข้าพบ นิโคไล เยฟเมนอฟ ผู้บัญชาการกองทัพเรือรัสเซีย และเข้าร่วมงาน International Maritime Defense Show ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ขณะเดินทางไปกับมิน ออง หล่าย ระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซียด้วย
การประกาศเยือนมีขึ้น ๒ วันหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเคน ให้คำมั่นว่าจะกดดันรัฐบาลของเมียนมาต่อไป ในขณะที่เขาได้พบกับนักเคลื่อนไหวฝ่ายต่อต้านในการเยือนประเทศไทย และตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงว่า รัสเซียและเมียนมาต้องกระชับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศของตนให้แน่นแฟ้นขึ้นหลังจากการประชุมในกรุงมอสโกว์ระหว่างผู้นำกองทัพเมียนมาและเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของรัสเซีย
การประกาศที่ออกโดยกองทัพเมื่อคืนวันจันทร์ระบุว่า ผู้นำรัฐบาลทหารจะเข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่เจดีย์ชเวซิกองในเอธโนเมียร์ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมในมอสโกว์ โดยเสริมว่ามิน อ่อง หล่ายจะได้พบกับประธานสมาคมมิตรภาพเมียนมารัสเซีย และหารือถึงความร่วมมือเพิ่มเติมในภาคเศรษฐกิจและการศึกษา การท่องเที่ยว และการฝึกอบรมสำหรับเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือน
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการผลิตพลังงานไฟฟ้า การผลิตพลังงานนิวเคลียร์ และวิธีการทางการเกษตรล่าสุดสำหรับพืชน้ำมัน และเรื่องการนำเข้า-ส่งออก ถ้อยแถลงระบุเสริม รัสเซียได้ติดต่อกับรัฐบาลเมียนมาอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาข้อตกลงด้านพลังงานจากรัสเซีย ในการชดเชยการขาดแคลนเชื้อเพลิงที่เกิดจากการคว่ำบาตรของสหรัฐและตะวันตก
ก่อนหน้านี้ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ออนไลน์อลิน เดลี่( Alin Daily) เมื่อวันที่ ๒๐มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะผู้แทนรัฐบาลทหารได้มีโอกาสพบกับชัลกินอฟ นิโคลาย (Shulginov Nikolay) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซีย นอกรอบในการประชุม International Economic Forum ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในวันที่ ๑๕-๑๘ มิ.ย. เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงาน
รายงานระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้จัดการเจรจาเกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำมันของรัสเซียในเมียนมา และการส่งออกน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ตลอดจนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ พวกเขายังหารือถึงความเป็นไปได้ของการแลกเปลี่ยนสกุลเงินโดยตรงระหว่างธนาคารกลางของทั้งสองประเทศและการซื้อเชื้อเพลิงจากรัสเซีย
ตัน โซ นาย นักวิเคราะห์จากเมียนมา กล่าวว่า รัฐบาลอยู่ในระยะเริ่มต้นของการเจรจากับรัสเซีย เพื่อจัดการกับวิกฤตด้านพลังงานที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนเพราะถูกสหรัฐและตะวันตกคว่ำบาตร ทั้งจะต้องเอาชนะอุปสรรคหลายประการก่อนที่จะดำเนินการตามข้อตกลงเพื่อที่จะแก้ปัญหาได้
เขากล่าวว่า“ความร่วมมือกับรัสเซียในโครงการนิวเคลียร์ไม่น่าจะเป็นไปได้หากปราศจากการสนับสนุนจากจีน นอกจากนี้ รัฐบาลทหารซึ่งกำลังเผชิญกับวิกฤตการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อพลังงานนิวเคลียร์ได้”
สรุปว่า ทริปนี้ของมิน อ่อง หล่าย ต่อยอดหลายเรื่องทั้งเศรษฐกิจ และความมั่นคง เพราะขนทีมงานระดับสูงไปครบ แต่ไม่มีรายละเอียดการเข้าพบเป็นการส่วนตัวกับปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย คงต้องจับตาดูต่อไปว่า บทบาทของรัสเซียในเมียนมา จะเสริมกันกับจีนในมิติไหนบ้าง เมื่อมหาอำนาจทั้งสองจีนและรัสเซียต่างเป็นพันธมิตรร่วมสู้ศึก ผลักดันโลกเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว อย่างดุเดือด!!
