ไทยไหวตัวทัน ลดเก็บดอลลาร์แล้วกว่า 1 ล้านล้าน! เห็นบทเรียน “ศรีลังกา” ล่มสลาย เพราะตุนไว้มาก ทำปท.-ศก.พัง

0

ไทยไหวตัวทัน ลดเก็บดอลลาร์แล้วกว่า 1 ล้านล้าน! เห็นบทเรียน “ศรีลังกา” ล่มสลาย เพราะตุนไว้มาก ทำปท.-ศก.พัง

จากกรณีที่มีรายงานว่า เรือ Vittoria จากกลุ่มบริษัทแร่เหล็กของออสเตรเลีย BHP ที่บรรทุกแร่เหล็กจากเหมืองในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย มาถึงท่าเรือ Rizhao ในมณฑลซานตงทางตะวันออก ซึ่งเป็นท่าเรือซื้อขายแร่เหล็กรายใหญ่ของจีน แต่การมาครั้งนี้ถือว่าต่างจากปกติ เพราะเป็นการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของสาขาเซี่ยงไฮ้ของ กลุ่มบริษัท BHP และถือว่าเป็นการซื้อขายแร่เหล็กโดยการใช้สกุลเงินหยวนเป็นฐานครั้งแรกของบริษัทออสเตรเลียอีกด้วย

ต่อมาทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ออสเตรเลีย รับชำระค่าสินค้าเป็นเงินหยวนจีน ลอยแพดอลลาร์ โดยอ้างอิงจากGlobal Times และPrachachat ระบุว่า  ประวัติศาสตร์มนุษยชาตินั้น จะเปลี่ยนแปลงจัดระเบียบโลกใหม่ทุกไม่เกิน 100 ปี รวมถึงเงินสกุลหลักที่โลกใช้ในขณะนั้นด้วย เช่น เงินเปเซตาสเปน , ปอนด์อังกฤษ ก็เคยรุ่งเรืองมาก่อน , เงินเอสคูโดโปรตุเกส อยู่ไม่ถึง 80 ปี ปัจจุบันก็ไม่มีบทบาทต่อการค้าโลก , จุดเริ่มเงินดอลลาร์ครองโลกเริ่มเมื่อ 78 ปีก่อนในปี 1944 จากข้อตกลงเบรตตัน วูดส์ (Bretton Woods agreement) อัตราแลกเปลี่ยนคงที่่กำหนดให้ทองคำ 1 ออนซ์ = 35 ดอลลาร์

จากนั้นมาหลายประเทศทั่วโลก ก็เอาค่าเงินตนเองมาผูกและเทียบกับดอลลาร์ เงินนี้จึงก็มีความต้องการสูงขึ้น ต่อมาสหรัฐ มุ่งแต่คุมระเบียบโลกทำสงครามใหญ่ไปทั่ว เช่น เกาหลี , เวียดนาม ฯลฯ จึงพิมพ์เงินกระดาษใช้เองขนานใหญ่โดยไม่มีทองคำค้ำประกัน ค่าเงินก็ด้อยค่าลง เศรษฐกิจ สหรัฐตกต่ำ เงินเฟ้อสูง ของแพงทั้งแผ่นดิน คนตกงาน ขาดดุลการค้า ประธานาธิบดีริกชาร์ด นิกสัน แห่งสหรัฐ จึงประกาศยุติการผูกค่าเงินดอลลาร์กับทองคำดื้อๆ ชาติทั่วโลกที่เคยผูกเงินตนไว้กับดอลลาร์จึงพากันวินาศหายนะตามไปด้วยเป็นแถว
ต่อมาปี 1973 สหรัฐ ได้ตกลงกับซาอุดิอาระเบีย และชาติผลิตน้ำมัน ให้ขายเป็นสกุลดอลลาร์เท่านั้น สหรัฐ จะรับประกันความมั่นคงขายอาวุธให้และจะมายืนเคียงข้างเสมอ ทำให้ทั่วโลกที่จะซื้อน้ำมันดิบถูกบีบให้นำเงินตนเองไปแลกดอลลาร์ หรือค้าขายสินค้าโภคภัณฑ์กับสหรัฐ เพื่อให้ได้เงินดอลลาร์กระดาษเอามาจ่ายค่าน้ำมันดิบไปกลั่นใช้ , แต่ในช่วงหลังมาสหรัฐ ทำสงครามจนมีหนี้สินล้นพ้นตัวกว่า 30 ล้านล้านดอลลาร์ กว่า 134% ของ GDP เกินกว่ารายได้และฐานะทางการเงินอันดับ 14 ของโลกจะชำระคืนไหว
ประจวบกับเงินหยวนจีนที่มีทองคำค้ำประกันมั่นคงกว่าเติบโตต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ขนาดเศรษฐกิจจีนพอๆ กับสหรัฐ แถมเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สหรัฐ อีกด้วย ทำให้ทั่วโลกต้องลดความเสี่ยงใช้เงินดอลลาร์จากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากค่าเงิน และจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงของสหรัฐ 8.6% และหันมาใช้สำรองเงินหยวนที่อัตราเงินเฟ้อต่ำแค่ 2.1% ใช้ค้าขายชำระค่าสินค้าโภคภัณฑ์ สถานะดอลลาร์ในเวลานี้เรียกว่า “Dollar Milkshake” เป็นช่วงแรงดิ้นเฮือกสุดท้าย ที่จะสูญเสียสถานะเงินหลักที่ครองโลก
ดังนั้นประเทศใดถือครองเงินทุนสำรองดอลลาร์หรือพันธบัตรสหรัฐไว้มาก จะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน เงินเฟ้อทะยานสูง ลากเศรษฐกิจของประเทศนั้นให้พังทลายล่มสลายไปด้วย (คล้ายศรีลังกา) , กรณีไทย ก็ลดความเสี่ยงนี้ตั้งแต่ต้นปี 2022 ถึงปัจจุบัน ลดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศดอลลาร์ลงไปแล้วกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1 ล้านล้านบาท) ณ 24 มิ.ย.2022 เงินทุนสำรองฯ ปรับลดลงคงเหลือ 251,000 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังถือว่ามากเกินไป ควรปรับสัดส่วนลดลงไปอีก แล้วเพิ่มถือครองสินทรัพย์ทองคำ และสัดส่วนเงินหยวน เพื่อชำระค่าสินค้าแทน
ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาออสเตรเลีย แม้อยู่ฝ่ายระเบียบเก่า ก็ตระหนักดีถึงความเสี่ยงหายนะจากถือครองดอลลาร์ กลุ่มบริษัทแร่เหล็ก BHP ที่เป็น Supplier แร่เหล็กของออสเตรเลีย ขนสินค้าด้วยเรือ Vittoria บรรทุกแร่เหล็กจากเหมืองในรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ถึงท่าเรือ Rizhao ซึ่งเป็นท่าเรือซื้อขายแร่เหล็กรายใหญ่ในมณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน , นาย Jeremie Louis รองประธานฝ่ายการตลาดและการขาย BHP ระบุว่าเป็นการขายแร่เหล็ก “ในสกุลหยวน” ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับบริษัทในออสเตรเลียในการเข้าถึงตลาดจีนมากขึ้น
เพราะจีนเป็นชาติที่นำเข้าแร่เหล็กมากที่สุดในโลก การชำระด้วยเงินหยวน จะเป็นประโยชน์ในการชำระราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในวงกว้าง และลดการใช้ดอลลาร์ท่ามกลางความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนมหาศาลต่อผู้ประกอบการเหล็กของจีน โดยบริษัท Shandong Port Group Co, ผู้ดำเนินการท่าเรือ Rizhao , นาย Wang Guoqing ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Beijing Lange Steel Information Research Center ระบุว่า “การค้าเงินหยวนช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองของผู้ประกอบการ และยังหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์”
“พร้อมรับประกันอัตรากำไรและความมั่นคงด้านต้นทุนสำหรับผู้ประกอบการ ราคาตลาดของผู้ซื้อและผู้ขายจะค่อนข้างคงที่ สามารถวัดผลได้ และเป็นประโยชน์สำหรับหุ้นส่วนทางการค้าระยะยาว”..สรุป อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ สูงดอลลาร์แลกเปลี่ยนกับสกุลท้องถิ่นแล้วด้อยค่าลงเอาแน่นอนไม่ได้ เสี่ยงขาดทุน แต่จีนอัตราเงินเฟ้อต่ำเงินหยวนแลกเปลี่ยนกับเงินท้องถิ่นค่าคงที่กว่า เสี่ยงต่ำ กำไรมาก..ถือเงินดอลลาร์ไว้มากเงินเฟ้อชาตินั้นก็จะเฟ้อสูงมากตามสหรัฐ 8.6% ไปด้วย แต่ถือเงินหยวนไว้มาก เงินเฟ้อชาตินั้นจะน้อยตามจีน 2.1% ไปด้วย