ฟาดหน้าสหรัฐ! รัสเซีย อู้ฟู่รับกำไรเน้นๆ ให้สิทธิชาวยูเครนขอสัญชาติรัสเซีย! สวัสดิการดี-ยกเลิกล้างหนี้สินธนาคารให้
จากกรณีที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามในกฤษฎีกาฉบับใหม่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่อนุมัติให้ชาวยูเครนทุกคนสามารถยื่นเรื่องขอสัญชาติรัสเซียได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้ มีเพียงประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองดอแนตสก์และลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในแคว้นซาปอริซห์เชียและแคว้นเคอร์ซอน ซึ่งล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลมอสโก ที่ได้รับอนุญาตให้เลือกยื่นขอสัญชาติรัสเซียได้
ในขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีชาวยูเครนที่เข้าข่ายนี้ยื่นขอสัญชาติรัสเซียกี่คน แต่ข้อมูลเท่าที่ผู้สื่อข่าวรวบรวมมาระบุว่า ในช่วงระหว่างปี 2562 ซึ่งเป็นปีแรกที่รัสเซียเปิดโอกาสให้คนในดอแนตสก์และลูฮันสก์ขอสัญชาติได้ และปี ค.ศ. 2565 มีประชากรยูเครนราว 18% ในพื้นที่ที่กลุ่มกบฏยึดครองอยู่ ได้รับหนังสือเดินทางของรัสเซียไปแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัสเซียเพิ่งประกาศขยายโครงการมอบสัญชาติให้กับชาวยูเครนในแคว้นซาปอริซห์เชียและแคว้นเคอร์ซอน ด้านรัฐบาลยูเครนยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกฤษฎีกาฉบับใหม่นี้
ต่อมาทางด้าน World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่สหรัฐ นำน้ำมันสำรองออกมาขาย ขณะที่รัสเซียอนุมัติให้ชาวยูเครนทุกคนสามารถยื่นเรื่องขอสัญชาติรัสเซียได้ โดยอ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า
ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นเงินที่พิมพ์ขึ้นมาโดยไม่มีสินทรัพย์มีค่าทองคำค้ำประกันค่าเงิน การพิมพ์เงินจึงเรียกว่าระบบ QE ให้ธนากลางสหรัฐ “การันตีตัวเอง” สินทรัพย์ที่ค้ำก็คือ “เครดิตความเชื่อใจ” ซึ่งเป็นนามอธรรมจับต้องไม่ได้ ไม่มีคุณค่าแท้จริงในตัวเงินเอง แต่มีค่าอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะเป็นฝ่าย “กุมระเบียบโลกเก่า” ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปียุครัฐบาลโจ ไบเดน สหรัฐ พิมพ์เงินมาใช้จ่ายมากถึง 5.9 ล้านล้านดอลลาร์ 206.5 ล้านล้านบาท) โดยไม่มีทองคำค้ำประกันแม้สักกรัมเดียว ลงทุนเพียงกระดาษ หมึกพิมพ์ เท่านั้น วิธีการนี้ยังใช้กับเงินสกุลยูโร ปอนด์ เยน ในฝ่ายระเบียบโลกเก่าอีกด้วย
ทำให้ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เงินกระดาษที่ถูกพิมพ์ออกมามากมายเหล่านี้นำไปซื้อสินทรัพย์ และเข้าลงทุนทั่วโลก เรียกคนเหล่านี้ว่า “นักลงทุนต่างชาติ” ครอบครองส่วนแบ่งตลาดการค้าโลกในสัดส่วนส่วนที่สูงกว่าเงินที่พิมพ์โดยใช้ทองคำค้ำประกันสกุลหยวน รูเบิล ฯลฯ โดยสหรัฐ ยังบังคับให้ชาติทั่วโลกถือเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของตนเป็นดอลลาร์ หรือ พันธบัตร แทนทองคำ หรือเงินสกุลอื่น ทำให้เงินดอลลาร์มีอิทธิพล และทรงค่าสมมุติอยู่ได้แม้ตัวเงินนั้นจะมีค่าไม่ต่างจากกระดาษธรรมดาก็ตาม สหรัฐ ยังค้ำประกันค่าเงินดอลลาร์โดย “น้ำมัน” กำหนดให้ซาอุดิอาระเบีย ขายน้ำมันเป็นดอลลาร์เท่านั้น เมื่อบวกกับน้ำมันที่สหรัฐ ผลิตขายเองจึงเรียกว่า “เปโตรดอลลาห์” เงินนี้จึงครองสัดส่วนการค้าโลก และทุนสำรองประเทศต่างๆ เรื่อยมา
เมื่อรัสเซีย คิดแก้ลำด้วย “เปโตรรูเบิล , ก๊าซรูเบิล” บังคับให้ยุโรปชำระค่าพลังงานเป็นรูเบิล จึงทำให้ค่าเงินยูโรด้อยค่าลง จากเดิมอัตราดอลลาร์/ยูโร คือ 1 : 1.2 ล่าสุดเป็น 1 : 1 หมายความว่ายูโรอ่อนค่าลง 20% ความผันผวนค่าเงินยูโร และดอลลาร์ ที่ไม่แน่นอน อีกทั้งเงินหยวน รูเบิล ที่มีสัดส่วนการค้าโลกค่อยๆ ขยับสูงขึ้นอย่างมั่นคงเรื่อยๆ ทำให้นานาชาติ ทะยอยลดการถือครองขายทิ้งดอลลาร์ ยูโร และพันธบัตรตะวันตก เงินเหล่านี้จึงไหลจากทั่วโลกกลับไปประเทศ ต้นทางเจ้าของเงินเรียกว่า “เงินทุนไหลออก” ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะถือครองเงินทุนดอลลาร์ลดลง ก็สามารถเปลี่ยนไปถือครองทองคำ หยวน ที่มีค่าแท้จริงแทน
เงินดอลลาร์ที่ไหลกลับไปท่วมสหรัฐ ยามนี้จึงเกิดอัตราเงินเฟ้อสูง เป็นความเสี่ยงแพ้เลือกตั้งของพรรคเดโมแครต ประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการเลือกตั้งกลางเทอมเดือน พ.ย.2022 เพื่อจะรักษาการควบคุมของทั้งสองสภา รัฐบาลไบเดนที่กำลังคะแนนนิยมต่ำเตี้ยเพียง 29% ต้องรีบแก้ไขด่วน ขณะนี้จึง “ทุบกระปุกกินบุญเก่า” โดยอนุมัติให้ 14 บริษัทที่เป็นนายทุนพรรค เช่น Chevron Corp , ExxonMobil Corp , Valero Energy Corp ได้รับสัญญาการขายน้ำมันจากคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธ์ศาสตร์ฉุกเฉินในภาวะสงคราม (SPR) ซึ่งกักขังอยู่ในถ้ำเกลือที่มีโพรงบนชายฝั่งรัฐหลุยเซียน่า และเท็กซัส ปล่อยน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นเวลา 6 เดือนขายทั้งใน และต่างประเทศ
การขายน้ำมันครั้งล่าสุดเสนอ 45 ล้านบาร์เรล แต่บริษัทต่างๆ ซื้อเพียง 39 ล้านบาร์เรลเท่านั้น แต่สหรัฐ คาดหวังว่าการทุบกระปุกน้ำมันสำรองครั้งนี้ จะช่วยกดราคาน้ำมันดิบต่ำลงเหลือ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปลายปี 2022 , ในทางกลับกันธนาคารกลางรัสเซีย ระบุว่าไตรมาสที่ 2 ปีนี้ รัสเซีย ที่ถูกสหรัฐ ยุโรป และบริวารคว่ำบาตร กลับตาลปัตร “ร่ำรวยผิดปกติ” รัสเซีย ได้ดุลการค้าเกินดุลบัญชีระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.35 ล้านรูเบิล (70,100 ล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี แยกเป็นส่งออก 9.49 ล้านรูเบิล (153,100 ล้านดอลลาร์) นำเข้า 4.48 ล้านรูเบิล (72,300 ล้านดอลลาร์ )
หรือในไตรมาส 2 ปี 2022 นี้ ขณะถูกคว่ำบาตร รัสเซียมีรายได้เฉลี่ยวันละ 105,400 รูเบิล (1,700 ล้านดอลลาร์) ถ้านับช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ รัสเซีย รวยไม่บันยะบันยังได้ดุลการค้าเกินดุลบัญชีถึง 8.55 ล้านรูเบิล (138,500 ล้านดอลลาร์) หรือจะเรียกรัสเซียว่าเป็น “เศรษฐีใหม่ภายใน 6 เดือน ที่เป็นผลจากถูกสหรัฐ และบริวาร คว่ำบาตรก็ไม่ผิดนัก” ผลจากความรวยนี้ทำให้รัฐบาลรัสเซียถึงกับออกกฤษฎีกา ช่วยชาวยูเครนมาร่วมใช้เงิน มอบสิทธิ “พลเมืองชาวยูเครนทุกคน ทุกพื้นที่ ขอสัญชาติและรับพาสปอร์ตรัสเซียแบบด่วน” ได้เลย สามารถย้ายไปทำงานเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเขตที่ปลดปล่อยจากยูเครนแล้วพร้อมรับสวัสดิการต่างๆ มากมาย
สวัสดิการที่ทำไปแล้วในเมืองคอร์ซอน มาลิอูโปล เช่น ยกเลิกล้างหนี้สินต่อธนาคารยูเครนให้ธนาคารหนี้สูญล้มละลายไป , มอบอพาร์ทเมนต์ฟรีครอบครัวละยูนิต , มอบเงินบำนาญชราภาพ , โอกาสการจ้างงานถาวรมีงานทำรายได้สูงจากแหล่งอุตสาหกรรม และพื้นที่เพาะปลูกเกษตรกรรม ฯลฯ..สรุป สหรัฐ จนลงต้องทุบกระปุกน้ำมันเก่ามาขายหาเลี้ยงชีพ ส่วนรัสเซีย ร่ำรวยขึ้นใช้เงินไม่ทัน ขอชาวยูเครนโอนสัญชาติมาช่วยใช้เงินกันเยอะๆ..ทนคว่ำบาตรรัสเซียต่ออีกสักหน่อย สู้ต่อไป ชนะจนรัสเซียถนนเททองคำแน่นอน