เยอรมัน-ฝรั่งเศสกุมขมับ! กลัวรัสเซียตัดก๊าซถาวร หนำซ้ำเครื่องผลิตไฟฟ้าขัดข้อง-เสี่ยงกระทบอุตสาหกรรม!

0

เยอรมัน-ฝรั่งเศสกุมขมับ! กลัวรัสเซียตัดก๊าซถาวร หนำซ้ำเครื่องผลิตไฟฟ้าขัดข้อง-เสี่ยงกระทบอุตสาหกรรม!

จากกรณีที่ท่อลำเลียงใหญ่ที่สุดที่ลำเลียงก๊าซจากรัสเซียป้อนสู่เยอรมนี จะเริ่มซ่อมบำรุงประจำปีในวันจันทร์ (11 ก.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่ากระแสก๊าซจะหยุดไหลเป็นเวลา 10 วัน แต่รัฐบาลชาติต่างๆ ในยุโรป ตลาดและบริษัทเอกชนทั้งหลาย แสดงความกังวลว่าการปิดท่อลำเลียงอาจลากยาวออกไป สืบเนื่องจากสงครามในยูเครน

โดย ท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 1 ลำเลียงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ลอดใต้ทะเลบอลติกสู่เยอรมนี 55,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่มันมีกำหนดปิดซ่อมบำรุงประจำปีตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 21 กรกฎาคมนี้

ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่เยอรมนี-ฝรั่งเศสผวา กลัวรัสเซียจะปิดท่อก๊าซถาวร โดยอ้างอิงจากThe Guardians ระบุว่า 

ภายหลังสหภาพยุโรป (EU) คว่ำบาตรรัสเซีย ทั่วทั้งยุโรป อุตสาหกรรมหันมาใช้เชื้อเพลิงที่ก่อมลพิษมากกว่าก๊าซ เช่น ถ่านหิน เนื่องจากให้ความสำคัญกับต้นทุนต่อเศรษฐกิจ การหยุดชะงักของธุรกิจและราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น มากกว่าเป้าหมายระยะยาวลดโลกร้อน หรือจะเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงคาร์บอนเป็นศูนย์ จะไม่มีวันเป็นจริงได้อีกแล้วตราบเท่าที่คว่ำบาตรรัสเซีย บริษัท Gazprom รัฐวิสาหกิจรัสเซีย ครึ่งปีแรกโกยรายได้และกำไรมหาศาล มีกำหนดปิดท่อส่งก๊าซ Nostream1 เป็นเวลานาน 10 วันช่วง 11-21 ก.ค.2022
เพื่อซ่อมบำรุงรักษาท่อ ทำให้จะไม่มีก๊าซไหลแม้แต่ลูกบาศเมตรเดียวไปที่ Hub บริษัทก๊าซในเยอรมนี แล้วกระจายต่อไปยังฝรั่งเศส อิตาลี และยุโรป ชาติอื่นๆ ถ้าซ่อมไม่เสร็จ รัสเซียก็อาจอ้างขยายเวลาซ่อมท่อต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้กำหนดนโยบาย บริษัทก๊าซ และอุตสาหกรรมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเยอรมนี หลอนและหวาดกลัวว่าการบำรุงรักษา 10 วันในท่อส่งน้ำ Nord Stream1 จะนำไปสู่การหยุดการไหลของก๊าซรัสเซียอย่างไม่มีกำหนด ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมายุโรปส่งอาวุธขายให้ยูเครนมาก รัสเซีย ก็ตอบโต้โดยปรับลดปริมาณก๊าซที่ไหลผ่านท่ออย่างมีนัยยะสำคัญ
บรรดานักการเมืองจำนวนมาก และนายโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของเยอรมนี วิเคราะห์กันว่ารัสเซียกำลังยุติการไหลของก๊าซไปยังประเทศต่างๆ “ทีละขั้นตอน” หลายคนกลัวถึงขนาดคาดว่า Gazprom จะไม่กลับมาปล่อยก๊าซผ่านท่ออีก “ปัญหาการขาดแคลนก๊าซที่อาจเกิดขึ้นในเยอรมนี จะเป็นตัวตัดสินว่าวิกฤตก๊าซในเยอรมนีจะใกล้เข้ามาและรุนแรงเพียงใด หากรัสเซียจงใจลดก๊าซลงเป็นระยะเวลานาน เราจำเป็นต้องพูดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการประหยัดก๊าซ”
ส่วนในฝรั่งเศส ก็หลอนหนักเช่นกัน บริษัทที่ใช้พลังงานมากของฝรั่งเศสกำลังเร่งแผนฉุกเฉินและเปลี่ยนหม้อไอน้ำที่ใช้แก๊สเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากต้องเตรียมพร้อมการหยุดชะงักในกรณีที่ปริมาณก๊าซของรัสเซียลดลงอีกจะนำไปสู่ไฟฟ้าดับ ผู้บริหารระดับสูงหลายคนเครียด นัดรวมตัวกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาประชุมทางธุรกิจและเศรษฐกิจทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เตรียมพร้อมสำหรับไฟดับที่อาจเกิดขึ้น , นายฟลอร็องต์ เมเนโกซ์ หัวหน้าของมิชลิน หนึ่งในบริษัทกล่าว ผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำของโลก ระบุว่า “สิ่งที่เราทำคือเปลี่ยนหม้อไอน้ำของเรา เพื่อให้สามารถใช้ก๊าซหรือน้ำมันได้ และสามารถเปลี่ยนไปใช้ถ่านหินได้อีกด้วย”
“เป้าหมายคือการหลีกเลี่ยงการปิดโรงงานอุตสาหกรรมในกรณีที่ประสบปัญหาการขาดแคลนก๊าซรัสเซีย และปัญหาการขาดแคลนก๊าซในยุโรปมีแนวโน้มว่าน้ำมันจะยังคงมีไว้เป็นทางเลือก เขาต้องใช้เวลาหลายวันในการเริ่มต้นการผลิตล้อยางที่โรงงานผลิต ทำให้จำเป็นต้องรักษาแหล่งพลังงานให้คงที่” แต่การลดการไหลก๊าซผ่านท่อ Nord Stream1 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งก๊าซรัสเซียไปยังยุโรปตะวันตกเหลือเพียง 40% ของกำลังการผลิต ทำให้นักการเมืองและอุตสาหกรรมต่างกังวลว่าจะเกิดการขาดพลังงานร้ายแรง
ปัจจุบันฝรั่งเศสใช้พลังงานนิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้าประมาณ 70% ของทั้งหมด ฝรั่งเศส จึงพึ่งพาก๊าซรัสเซียโดยตรงน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านเยอรมนี แต่อย่างไรก็ตาม EDF ผู้ผลิตไฟฟ้าที่ควบคุมโดยรัฐกำลังประสบปัญหาในการตอบสนองความต้องการของชาวฝรั่งเศส เนื่องจากไฟฟ้าขัดข้องที่โรงไฟฟ้าเก่า เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 29 เครื่องจาก 56 เครื่องถูกระงับตรวจสอบและซ่อมแซม จึงเพิ่มความตึงเครียดให้กับแหล่งผลิตไฟฟ้าที่เหลือ รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังตรวจสอบทีละบริษัทว่าแห่งใดต้องใช้แหล่งพลังงานอย่างต่อเนื่องหยุดไม่ได้
โดยพยายามลดผลกระทบของราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นด้วยการกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันและพลังงานจนถึงสิ้นปี 2022 ซึ่งช่วยให้อัตราเงินเฟ้อของฝรั่งเศสอยู่ในระดับต่ำที่สุดในยุโรป , นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส แจ้งกับผู้บริหารระดับสูงขององค์กรที่เข้าร่วมการประชุมว่า “รัฐบาลจะไม่รับผิดชอบ ถ้าบริษัทไม่เตรียมพร้อมสำหรับปัญหาการขาดแคลน มาเตรียมพร้อมสำหรับการตัดแก๊สรัสเซียกันเถอะ วันนี้เป็นสถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด” บริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งระบุว่าธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งหมดกำลังเปลี่ยนกลับมาใช้น้ำมัน
หัวหน้าผู้บริหาร Carlos Tavares ผู้ผลิตรถยนต์ Stellantis กำลังตัดสินใจเพื่อผลิตพลังงานของตนเองในกรณีที่ระบบพลังงานประเทศขัดข้อง ด้วยการสร้างโรงไฟฟ้าของตนเองหรือลงทุนในโรงงานที่มีอยู่เพื่อรักษาความปลอดภัยการผลิต , นาย Thierry Breton กรรมาธิการตลาดภายในฝรั่งเศส ระบุว่า บริษัทต่างๆ ทั่วสหภาพยุโรปควรเปลี่ยนจากก๊าซเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงโดยควรเริ่มเปลี่ยนแปลงจากเขตยุโรปตะวันออก ซึ่งเป็นผู้บริโภคก๊าซรายใหญ่ โดยเบลเยียม และเยอรมนี ควรกลับมาเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ผลิตกระแสไฟฟ้าอีกครั้ง แม้ว่าจะเคยปิดไปแล้ว
นายมิคัล เคอร์ตีกา อดีตรัฐมนตรีพลังงานของโปแลนด์ ซึ่งเปลี่ยนจากใช้ก๊าซ มาเป็นถ่านหินเป็นพลังงานกว่า 70% บอกกับผู้บริหารในการประชุมว่ายุโรปกำลังมุ่งหน้าสู่ “พายุหนาวที่สมบูรณ์แบบในฤดูหนาวนี้”..สรุป..ยุโรปหาก๊าซรัสเซียมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม และผลิตไฟฟ้าไม่ได้จึงจะเปลี่ยนเครื่องจักรมาใช้พลังงานถ่านหิน น้ำมัน และแร่ยูเรเนียมนิวเคลียร์..ซึ่ง 3 ชนิดนี้รัสเซีย คือเจ้าพ่อผลิตและส่งออกชาวโลกเช่นกัน ถ้ายังคว่ำบาตรรัสเซียอยู่ปัญหาก็จะวนกลับมาที่เดิมไม่จบไม่สิ้น ไม่มีทางพ้นกับดักรัสเซียไปได้แม้อดีตจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม ยุโรป ต้องรีบตัดสินใจลอยแพยูเครนที่เป็นภัยคุกคาม ให้สหรัฐ อังกฤษ โอบอุ้มยูเครนตามลำพังฉุดให้ติดหล่มไว้ แล้วยุโรปชิงเอาตัวรอดเหยียบปีนขึ้นจากหล่มแทน..สู้ต่อไป ฉุดกันลงเหวแน่นอน