เดินหน้าลุยอาเซียน! รัสเซีย จับมืออินโดฯ สร้างโรงกลั่นน้ำมันในชวาตะวันออก มูลค่า 22 พันล้านดอลลาร์!

0

เดินหน้าลุยอาเซียน! รัสเซีย จับมืออินโดฯ สร้างโรงกลั่นน้ำมันในชวาตะวันออก มูลค่า 22 พันล้านดอลลาร์!

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย ได้เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ที่จะจัดขึ้นที่เกาะบาหลีในเดือนพ.ย.นี้ โดยผู้นำรัสเซียได้กล่าวขอบคุณ และยืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว

ขณะที่ทางด้าน ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่อินโดนีเซีย ได้เตรียมที่จะเข้าร่วมกลุ่ม BRICS โดยระบุว่า

รัสเซียและอินโดนีเซียชื่นมื่น: อินโดนีเซียวางแผนเข้ากลุ่ม BRICS ได้อย่างลีกล้ำ ยังไม่ทันได้รับสถานะสมาชิก BRICS แต่สามารถตกลงสัญญาต่างๆ กับรัสเซียได้ล่วงหน้า ปูทางให้อินโดนีเซียหันมาทาง BRICS ได้อย่างน่าชื่นชม ในคลิปนี้ ทั้งสองฝ่ายร่วมแถลงอะไร?

๑.บริษัทการรถไฟของรัสเซียได้เข้าร่วมโครงการขนถ่ายสินค้าระหว่างรัสเซีย-อินโดนีเซีย

๒.บริษัท Rosatom Corporation ของรัสเซียจะเข้าร่วมโครงการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ต่างๆ ในอินโดนีเซีย

๓.รัสเซียจะจัดการส่งปุ๋ยราคามิตรภาพไปให้อินโดนีเซียสม่ำเสมอ

เห็นประเทศอื่นๆ คืบหน้าแล้ว หันกลับมาดูประเทศไทย…เหมือนเต่าครับ

ล่าสุดสำนักข่าวThe Straits Times  รายงานว่า อินโดนีเซียและรัสเซียจะสร้างโรงกลั่นมูลค่า 22 พันล้านดอลลาร์ในชวาตะวันออกในโครงการอื่นๆ

โดยอินโดนีเซียและรัสเซียเตรียมทำงานร่วมกันในหลายโครงการ แม้ในขณะที่ตะวันตกกำลังแยกรัสเซียออกเพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครน

บริษัทน้ำมันของรัฐ Pertamina ของชาวอินโดนีเซียและบริษัท Rosneft Oil ของรัสเซียกำลังดำเนินการโครงการเพื่อสร้างโรงกลั่นในจังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซียเพื่อผลิตเชื้อเพลิงและวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลชาวอินโดนีเซียกล่าวกับ The Straits Times ว่า

“รัสเซียกำลังเจรจาเพื่อขอพักภาษี โครงการนี้ยังคงอยู่ในการดำเนินการ” เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลโครงการและกล่าวโดยไม่เปิดเผยชื่อกล่าว ก่อนหน้านี้ บริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของทั้งสองได้ก่อตั้งบริษัทร่วมทุนในจาการ์ตา PT Pertamina Rosneft Pengolahan dan Petrokimia ซึ่งจะจัดการ New Grass Refinery Root (NGRR) ของ East Java ในเมือง Tuban และมีกำลังการผลิตน้ำมันเบนซินดีเซล 229,000 บาร์เรลต่อวัน และน้ำมันเครื่องบิน

ขั้นตอนการวางแผนก่อนโครงการเสร็จสมบูรณ์แล้วด้วยเงิน 16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (22 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์) ซึ่ง Rosneft จะเป็นเจ้าของ 45% และ Pertamina 55%

ทั้งนี้ เมื่อแล้วเสร็จ โครงการนี้จะช่วยให้อินโดนีเซียลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงที่ราคาสูงขึ้นได้อย่างมาก