จากที่เพจ Thailand Vision ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจโดยระบุแหล่งที่มาของข่าวสารจากหลายสำนัก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างรัฐมนตรีจากสองขั้วอำนาจที่กำลังมีความขัดแย้งกันอยู่นั่นคือ รัสเซียและสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ เพจ Thailand Vision ได้โพสต์ข้อความว่า “สื่อต่างประเทศรายงานว่า คณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม G20 ได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมที่มีอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ และจัดขึ้นในวันนี้บนเกาะบาหลี โดยมีนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของทั้งสองคนนับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน
โดยนายบลิงเคน และนายลาฟรอฟ ได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม G20 ในวันนี้ โดยที่สหรัฐฯ ตั้งเป้าเดินหน้าหาเสียงสนับสนุนจากประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก เพื่อกดดันรัสเซียจากการบุกโจมตียูเครน นอกจากนี้ นายบลิงเคนจะพยายามรื้อฟื้นการหารือเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน เกี่ยวกับปัญหาตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในหลายประเด็น เช่น ไต้หวัน
ขณะเดียวกัน นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซีย ได้กล่าวเปิดการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม G20 โดยที่มีนายลาฟรอฟนั่งอยู่ด้วยว่า กลุ่ม G20 ต้องทำหน้าที่ช่วยยุติสงครามให้ได้โดยเร็ว และต้องยุติความขัดแย้งบนโต๊ะเจรจา ไม่ใช่ในสนามรบ
การประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม G20 ในครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่การรับมือกับผลกระทบจากสงครามที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงด้านอาหาร และพลังงาน รวมถึงการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกจากการระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรง โดยมีขึ้นก่อนที่อินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่ม G20 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ต่อมาวันที่ 8 กรกฏาคม 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เผยแพร่ความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวผ่าน Blockdit ด้วยว่า
“ตะวันตกพากันเล่นแง่คว่ำบาตรรัสเซียในงานประชุม G20 ทั้งๆ ที่กลุ่มนี้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อหารือกันทางเศรษฐกิจรอบโลกร่วมกันโดยเฉพาะเพื่อส่งเสริมกันและกันทางเศรษฐกิจ แต่ก็พากันเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง สามัคคีคว่ำบาตรัสเซีย คิดว่าจะโดดเดี่ยวรัสเซียได้
ลาฟรอฟบอกว่าที่ไปร่วมกับ G20 ก็เพื่อขยายงานทางเศรษฐกิจกับมิตรประเทศ ไม่ได้ไปแค่เพื่อถ่ายภาพ สร้างภาพให้คนดู
พอไปถึง มีมิตรประเทศหลายชาติมะรุมมะตุ้มขอหารือด้วยไม่ขาด โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ BRICS และประเทศที่สนใจอยากเข้าร่วม BRICS เพื่อร่วมมือทางการค้า
การประชุม G20 ทำให้รัสเซียมีโอกาสคุยเพื่อร่วมมือกันทางเศรษฐกิจกับมิตรประเทศรัสเซียทั้งพหุภาคีและทวิภาคีมากยิ่งขึ้นอีก ส่วนประเทศที่คว่ำบาตรชาติอื่นไม่ได้ทำอะไรเพื่อประเทศชาติตนเองมากนักเพราะคว่ำบาตรประเทศที่ตนไม่ชอบไปเสียแล้ว จึงได้คุยในแวดวงจำกัดลง”
ล่าสุดวันนี้ 09 กรกฏาคม 2565 นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวอีกครั้งโดยมีความคืบหน้าว่า
“ไปประชุม G-20 ลาฟรอฟโดนแก๊งที่มีอเมริกาและอังกฤษเป็นหัวโจกคว่ำบาตร พวกนี้ ไม่มาร่วมดินเนอร์รับรอง และถ่ายรูปด้วย ไม่จำเป็นต้องไปแคร์อะไรกับแก๊งค์ล่าอาณานิคมครับ ได้พูดคุยขยายเศรษฐกิจกับมิตรประเทศอย่างเต็มอิ่มก็พอแล้ว”
