นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ ยูเครนได้ขู่ว่าจะกำหนดเป้าหมายถล่มสะพานไครเมีย หรือที่เรียกว่าสะพานเคิร์ช ซึ่งเชื่อมต่อคาบสมุทรกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซียหลายครั้ง ขณะที่ล่าสุด อดีตผู้บัญชาการสูงสุดของนาโต้สำหรับยุโรป ได้เรียกร้องให้ยูเครนวางระเบิดสะพานไครเมีย โดยอ้างว่าเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในช่วงเวลาเดียวกันกองทัพรัสเซีย ได้จับตานายทหารเยอรมันที่เตรียมการก่อวินาศกรรมสะพานแห่งนี้ แล้วถูกจับในเยอรมนีอย่างสอดคล้องกัน เท่ากับเป็นการทำลายแผนตะวันตกยับเยิน เพราะรัสเซียรู้ล่วงหน้าว่าใครสมคบกับใคร ก็สามารถเตรียมการรับมือไว้ก่อนเกิดเหตุ จนบัคนี้ยูเครนยังไม่สามารถทำลายสะพานแห่งนี้ได้ตามที่ขู่ไว้
วันที่ ๑๐ ก.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิครายงานว่า พล.อ.ฟิลิป บรีดเลิฟ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของนาโต้ สำหรับยุโรประหว่างปี ๒๕๕๖ ถึง ๒๕๕๙ (General Philip Breedlove)ได้เรียกร้องให้ยูเครนวางระเบิดสะพานไครเมีย
ผู้บัญชาการกล่าวว่า “ฉันไม่แปลกใจเลยที่ชาวรัสเซียกังวลเกี่ยวกับสะพานเคริช (Kerch) มันสำคัญสำหรับพวกเขาอย่างเหลือเชื่อ” “ตอนนี้ทางตะวันตกได้มอบขีปนาวุธฮาร์ปูน(Harpoon) ให้ยูเครน ด้วยพิสัยไกลถึง ๒๐๐ ไมล์ฉันคิดว่ารัสเซียมีเหตุผลทุกประการที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับยูเครนที่จะโจมตีสะพานนี้”
ข้อเสนอแนะของบรีดเลิฟ เกี่ยวกับสะพานไครเมียนั้น สอดคล้องกับประวัติศาสตร์ของพฤติกรรมขององค์กรนาโต้ กับการมุ่งทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนเพื่อเอาชนะในสงครามโดยไม่สนใจผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนทั่วไปแต่อย่างใด
เช่นในระหว่างการทิ้งระเบิดที่ยูโกสลาเวียในปี ๒๕๔๒ พันธมิตรไม่อายที่จะส่งกองกำลังทหารของตนเพื่อโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือน เช่น สะพาน โรงพยาบาล โรงเรียน โรงงานอุตสาหกรรม และแม้แต่อนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรม ฮิวแมนไรท์วอทช์สรุปว่าการโจมตีของยูโกสลาเวียทำให้ “พลเรือนยูโกสลาเวียมากถึง ๕๒๘ คนที่ถูกสังหารในเหตุการณ์ในปฏิบัติการกองกำลังพันธมิตร”
ท่ามกลางการแทรกแซงทางทหารของลิเบีย นาโต้ยังใช้แนวทางที่คล้ายกัน โดยการโจมตีมุ่งเป้าไปที่โรงพยาบาล ร้านอาหาร และแม้แต่บ้านของผู้คน ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ ฮิวแมนไรท์วอทช์รายงานว่ามีพลเรือนอย่างน้อย ๗๒ คนเสียชีวิตระหว่างการรณรงค์ทางอากาศของ NATO ในประเทศตะวันออกกลาง และนั่นเป็นจำนวนที่องค์กรเอกชนรายงาน ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีใครสามารถรวบรวมการสูญเสียชีวิตของประชาชนที่ครบถ้วนในระหว่างสงคราม
บรูซ แก็กนอน(Bruce Gagnon) ผู้อำนวยการเครือข่าย Global Network Against Weapons and Nuclear Power in Space กล่าวว่ายุทธวิธีของนาโต้ ในการกำหนดเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนคือ “สิ่งที่คนพาลทำ”
เขากล่าวต่อไปว่า จริงๆ แล้วตะวันตกไม่ได้ “สนใจ” ประชาชนในยูเครน โดยที่ประเทศนี้ “ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างและทำให้รัสเซียอ่อนแอ”
ในช่วงเวลาเดียวกันก็มีรายงานว่าทหารเยอรมัน ๒ นาย เกี่ยวพันกับการโจรกรรมและมีแผนจะเข้าไปแทรกแซงในยูเครน สอดคล้องกับที่อดีตผู้บังคับบัญชานาโต้ป่าวร้อง
นิตยสารสเติร์นของเยอรมัน (Stern) อ้างแหล่งข่าวของตำรวจรายงานว่า ทหารบุนเดิสแวร์ (Bundeswehr) ซึ่งเป็นชื่อของกองทัพเยอรมัน ๒คนเตรียมการใช้ระเบิดเปอร์ลอยน์ (purloined) ทำลายสะพานที่เชื่อมไครเมียกับส่วนอื่น ๆ ของรัสเซีย ทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของผู้ต้องสงสัยจำนวน ๑๒ คนที่ถูกจับกุมในรัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ ทางตอนเหนือของเยอรมนี ในข้อหาลักทรัพย์ที่ฐานทัพทหาร
การสอบสวนกลุ่มโจรกรรมนี้ดำเนินไปอย่างยาวนาน พบหลักฐานเพียบเกี่ยวกับแผนการบ้าคลั่งที่ทหารเยอรมันต้องการเข้าไปแทรกแซงในสงครามยูเครน การจับกุมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๒ พ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจจากสื่อเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการสอบสวนมุ่งเน้นไปที่การบุกรุกที่ศูนย์ปฏิบัติการทางทหารและการขโมยอาวุธ ระเบิด และกระสุนอื่นๆ เพื่อขายต่อที่ตลาดมืด แต่รัสเซียให้สนใจอย่างมาก แผนผังสะพานถูกค้นพบ ขณะที่ตำรวจตรวจสอบการสนทนาทางโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัย พบว่าเกี่ยวข้องกับแผนก่อวินาศกรรมไครเมียจริง และจนถึงปัจจุบันก็ไม่ปรากฏข่าวว่ากลุ่มทหารเหล่านี้ถูกจับหรือถูกปล่อยตัวแล้ว แต่นี่เป็นข้อมูลยืนยันให้กองทัพรัสเซียตระหนักรู้เป้าหมายของศัตรูอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ นายพลชาวยูเครน ดมิทรี มาร์เชนโก (Ukrainian general Dmitry Marchenko)บอกกับสื่อทางการของสหรัฐฯเมื่อเดือนที่แล้วว่า เคียฟต้องการระเบิดสะพานแห่งนี้ แต่กำลังรอให้ตะวันตกส่งมอบอาวุธที่เหมาะสม ด้านอเล็กซี อะเรสโตวิช(Alexey Arestovich) ผู้ช่วยระดับสูงของปธน.เซเลนสกี้กล่าวยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าแผนการจะเริ่มต้นทันทีหลังขีปนาวุธฮาร์ปูนมาถึง
เพราะขี้โม้ทั้งยูเครนและผู้ให้การสนับสนุนอย่างนาโต้ ทำฝ่ายตรงข้ามรู้หมดไส้แบบนี้ภาษาทหารเรียกว่าเสียลับแผนแตก
แหลมไครเมียได้ลงประชามติโหวตให้ออกจากยูเครน และเข้าร่วมรัสเซียในเดือนมีนาคม ๒๐๑๔ หลังจากการรัฐประหารไมดานที่สหรัฐหนุนหลังในเคียฟ สะพานนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมคาบสมุทรกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย โดยส่วนถนนเปิดใช้ในปี ๒๐๑๘ และส่วนทางรถไฟเปิดใช้ในปี ๒๐๒๐
ก็ต้องจับตากันอย่างระทึกขวัญเลยว่า รัสเซียจะแก้ลำยูเครนและสหรัฐอย่างไร กับแผนทำลายสะพานไครเมียนี้ ขีปนาวุธฮาร์ปูนจะถึงมือยูเครนและนำมาใช้โจมตีรัสเซียได้หรือไม่ เมื่อไหร่ บรรยากาศดุเดือดเช่นนี้ มองไม่เห็นอนาคตของการเจรจาเพื่อสันติภาพเลยแม้แต่น้อย!!!