จากที่คนร้ายซึ่งเคยเป็นอดีตกองกำลังสำคัญลอบสังหารอดีตนายกญี่ปุ่น นอกจากสร้างความสะเทือนใจไปทั้งโลกแล้ว ยังสร้างความเคลือบแคลงสงสัยต่อวัตถุประสงค์ในการลงมือ รวมทั้งอาวุธที่ใช้ที่ประดิษฐ์ขึ้นเองนั้น
ขณะเมื่อวันที่ 8 กรกฏาคม 2565 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ เพจ World Update ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเผยแพร่ข้อมูลอีกด้านเกี่ยวกับเรื่องราวของญี่ปุ่นและผู้ลงมือก่อเหตุไว้บางช่วงว่า
“ภายหลังพ่ายแพ้ต่อสหรัฐ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นก็ถูกสหรัฐ เขียนรัฐธรรมนูญไม่ให้มีกองทัพ ให้มีแต่กองกำลังป้องกันตนเอง
อดีตนายกรัฐมนตรี ซินโซ อาเบะ เป็นนักการเมืองฝ่ายขวาอนุรักษ์นิยม สายเหยี่ยว เป็นสมาชิกของนิปปงไคจิ ที่มีทัศนะแบบแก้ไขประวัติศาสตร์ (Revisionist) ย้อนหลังสงคราม จึงทำให้เกิดความตึงเครียดกับเกาหลีใต้ ที่ทหารญี่ปุ่นก่อวีรกรรมและมีปัญหาตึงเครียดกับเกาหลีเหนือด้วยเช่นกัน
เขามีความต้องการให้ญี่ปุ่นมีกองทัพที่แข็งแกร่งอีกครั้งจึงต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 9 เลิกข้อห้ามญี่ปุ่นมีกองทัพ เหมือนตาเขาอดีตนายกฯ คิชิ โนบุสุเกะ ที่ถูกลอบสังหาร
ในยุคของอาเบะ จึงพยายามสร้างแสนยานุภาพกำลังทหารญี่ปุ่นให้แกร่งขึ้นอย่างมาก โดยทุ่มงบประมาณซื้ออาวุธขนานใหญ่ เขาเพิ่งให้สัมภาษณ์สื่อว่า ต้องการให้สหรัฐมาติดตั้งขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น
เขาคือเจ้าพ่อนโยบายเศรษฐกิจ อะเบะโนมิกส์ ซึ่งมีการพิมพ์เงินเยนกระดาษปริมาณมากโดยทำ QE และไม่มีทองคำค้ำประกัน อัดฉีดปริมาณเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้จะพ้นตำแหน่งนายกฯ ไปแล้ว แต่ อาเบะ ยังเป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลอย่างสูงภายในพรรค LDP และการเมืองญี่ปุ่น เขารักษาการหัวหน้าพรรค โดยมีแคนดิเดทในพรรคจะมาเป็นหัวหน้าแทนเขามากกว่า 5 คน
ที่สร้างความแปลกใจคือ อาวุธปืนประดิษฐ์ ที่มือปืนใช้ก่อเหตุเป็นท่อเหล็กสองอันติดบนกระดานไม้ ใช้เทคนิคการยิงจากไฟฟ้าโดยต่อขั้วสายไฟไปที่ด้ามจับ ออกแบบให้จุดระเบิดด้วยไฟฟ้าให้ผงสีดำแทนแรงกระแทกแบบปืนทั่วไป
ส่วนประกอบปืนก็ทำมาจากการพิมพ์ 3 มิติอีกด้วย เป็นการออกแบบที่ค่อนข้างล้ำหน้ามาก มือปืนคือ เท็ตสึยะ ยามางามิ วัย 41 ปี อดีตเมื่อ 17 ปีก่อนช่วงปี 2002-2005 เขาเป็นทหารกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น (ทหารเรือ)
ปัจจุบันเขาจบปริญญาเอก เป็นรองศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด สำหรับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม เขาจึงรู้จุดอ่อนกายวิภาคมนุษย์อย่างดี และให้การกับตำรวจญี่ปุ่นว่า ไม่พอใจนโยบายหลายเรื่องของอดีตนายกฯ อาเบะ และตั้งใจมาเพื่อสังหาร
น่าแปลกที่ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่วงก่อน-หลัง สงครามโลกแต่ละครั้งที่ผ่าน มีการลอบสังหารนายกฯ และอดีตนายกฯ กันขนานใหญ่..คราวนี้มือสังหารที่มีความรู้สูงมากขนาดนี้เขาทำเพื่อจุดประสงค์ใดแน่?”
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เยือนเอเชียครั้งแรกนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง ก่อนหน้านี้เดินทางไปพบปะกับผู้นำคนใหม่ของเกาหลีใต้ จากนั้นก็บินไปญี่ปุ่นต่อเพื่อหารือด้านความร่วมมือที่จะช่วยให้สหรัฐฯ กลับมามีอิทธิพลในภูมิภาคอีกครั้งอีกหนึ่ง เป้าหมายของการเยือนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ครั้งนี้มีขึ้นเพื่อคานอำนาจกับอิทธิพลของจีน
หลังเดินทางถึงญี่ปุ่นเมื่อช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ก็ปรากฏภาพของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พบปะกับ ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
ในขณะที่ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นต้อนรับสหรัฐฯ เสมอ และสหรัฐฯ จะยังคงมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกต่อไป
ประเด็นสำคัญของการพูดคุยกับผู้นำญี่ปุ่นคือ ความร่วมมือทั้งทางเศรษฐกิจและความมั่นคง เป้าหมายคือเพื่อคานอิทธิพลของจีนในภูมิภาค
และในช่วงหนึ่งของการหารือ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวชัดเจนว่า สหรัฐฯ พร้อมจะใช้อาวุธตอบโต้ หากจีนรุกรานไต้หวัน ที่พูดถึงประเด็นนี้มาจากการที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
