ฟัดกันเองแล้ว!? “ยูเครน” หน้าเสีย หลังยึดเรือสินค้ายุโรปแลกอาวุธ แต่โดนขู่สวนกลับ “ระงับเงินกู้”
ล่าสุดในวันที่ 8 ก.ค.65 ทางด้านของเพจสาธารณะ World Update ได้รายงานถึง การต่อรองกันระหว่าง ยูเครน และยุโรป โดยมีรายละเอียดว่า “ยูเครน ใกล้ประกาศชัยชนะแล้ว! ยึดเรือสินค้ายุโรปแลกอาวุธ ยุโรป สวนกลับระงับเงินกู้”
จากกรณีประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน วิดีโอลิ้งไปที่การประชุมฟื้นฟู URC2022 ที่เมืองลูกาโน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีอังกฤษ เป็นเจ้าภาพ ระบุว่า “ตอนนี้ ยูเครน ต้องการเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์ เพื่ออยู่ให้ได้ไปจนถึง ธ.ค.2022 จากนั้นช่วงปี 2023 – 2032 เขาจะเอาเงินอีก 750,000 ล้านดอลลาร์” ( 26.77 ล้านล้านบาท)
โดยบังคับเกณฑ์ให้ชาติที่ปกครองโดยประชาธิปไตยทั่วโลก ต้องจัดสรรเงินเอาไปให้เขา โดยเขามุ่งจะเป็นผู้นำยูเครนแต่เพียงผู้เดียวใช้เงินนี้ไปไม่ต่ำกว่าอีก 10 ปี อ้างว่าจะนำเงินมาก่อสร้างโน่นนี่นั่น ท่ามกลางฝนเหล็กห่าใหญ่รัสเซีย , แต่เมื่อรัสเซีย ถอนกำลังออกจากเกาะงูตามข้อตกลงกับสหประชาชาติ (UN) และตุรเคีย ไปตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2022 ทางยุโรป เริ่มพบปัญหาเริ่มเกิดขึ้น
เมื่อตรวจสอบพบว่าเหลือธัญพืชตกค้างอยู่ที่ท่าเรือยูเครน แค่ราว 6 ล้านตัน และข้าวโพดอีกราว 7 ล้านตัน ปริมาณเพียงแค่นี้ทั้งสหภาพยุโรป (EU) ไม่พอกิน ฝ่ายยูเครน แก้ตัวใหม่ว่าที่เคยบอกว่ามีธัญพืช 50 – 60 ล้านตันนั้น เป็นฤดูกาลหน้าที่จะเก็บเกี่ยวใหม่
ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เพราะพื้นที่ราบลุ่มแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์สำหรับเพาะปลูกส่วนใหญ่นั้นสาธารณรัฐโดเนตสก์ และลูฮันสก์ ที่แยกเอกราชได้ปลดปล่อยพื้นที่จากการยูเครน ไปเรียบร้อยแล้ว
เวลาผ่านมากว่า 1 สัปดาห์ ทางรัฐบาลยูเครนก็ยังยืนยันว่า “ยังไม่พร้อมที่จะอนุญาตให้มีการขนส่งข้าวสาลีจากท่าเรือของตน” โดยทำการยึดเรือต่างประเทศไว้เป็นตัวประกันจำนวน 70 ลำ จาก 16 ประเทศ ไม่อนุญาตให้เรือออกสู่ทะเลดำอย่างเป็นอิสระจากท่าเรือ 6 แห่ง
คือ Kherson, Nikolaev, Chernomorsk, Ochakov, Odessa และ Yuzhny การยึดเรือเป็นตัวประกันเพื่อบีบให้ชาติเจ้าของเรือส่งอาวุธ และเงินมาไถ่เรือของตนเองออกไป ซึ่งเรื่องนี้รัสเซียไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะเป็นข้อพิพาทระหว่างยุโรปกับยูเครน ที่ต้องตกลงกันเอง เพราะท่าเรือในทะเลอาชอฟ ที่รัสเซียเคลียร์ทุ่นระเบิดหมดแล้ว ปัจจุบันก็เปิดเดินเรือสินค้าคึกคักตามปกติ
ส่วนกรณีที่ยูเครน และสื่อตะวันตกอ้างว่าตุรเคีย ยึดเรือธัญพืชรัสเซียที่ปากทะเลดำช่องแคปบอสฟอรัส นั้นก็เป็นเรื่องลวงโลกเหมือนเคย เพราะตุรเคีย คือลูกค้าธัญพืชรายใหญ่รัสเซีย ย่อมไม่ทุบหม้อข้าวตนเองให้เจ็บ
ส่วนกรณี รักษาการนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ ต่อสายหาประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยุเครน ขอให้สั่งทหารสู้ต่อไปอย่ายอมแพ้รัสเซีย ให้ความมั่นใจว่าผู้นำยูเครน จะเกณฑ์ทหารมาเพิ่มอีกและจะชนะยึดคืนพื้นที่ได้แน่นอนนั้น ขณะนี้ผู้นำยูเครนได้จัดสรรแผ่นดินให้ต่างชาติจองพื้นที่ระยาวเพื่อ “ค้ำประกันหนี้” แล้ว โดยอังกฤษ จองกรุงเคียฟ และพื้นที่โดยรอบ
ฝรั่งเศส จองภูมิภาคเชอโนฮิฟ ทางเหนือกรุงเคียฟ เขตติดต่อเบลารุส ที่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ยังปิดเดินเครื่อง โดยใช้คำบังหน้าว่า “มาร่วมฟื้นฟูพัฒนาพื้นที่” ความจริงคือยึดทำประโยชน์ระยะยาว ทำให้ชาติสหภาพยุโรปอื่นที่ยังไม่ได้ธัญพืชไปกิน และยังไม่ได้รับจัดสรรพื้นที่เป็น “หลักประกันหนี้เงินกู้” ซื้ออาวุธเริ่มตีรวน และลังเลปล่อยกู้ให้ยูเครนเพิ่ม
เช่น เยอรมนี สั่งระงับแพ็คเกจเงินช่วยเหลือ (เงินกู้) เกือบ 9,000 ล้านยูโร , คณะกรรมาธิการงบประมาณสหภาพยุโรป (EU) ระงับเงินช่วยเหลือ (เงินกู้) 1,500 ล้านยูโร ไม่ว่าเป็นเงินกู้ระยะสั้นจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่ยูเครน หรือเงินกู้ระยะยาวค่าอาวุธ เพราะเริ่มไม่มั่นใจว่ายูเครนจะมีศักยภาพชำระหนี้คืนได้ไหว
เพราะสถาบันจัดอันดับยังคงประเมินว่า ยูเครน ไม่มีเครดิตความน่าเชื่อถือทางการเงิน ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และอันดับการทุจริตคอรัปชั่นก็ยังไม่มีวี่แววจะพัฒนาดีขึ้น โดยทาง EU ต้องการ “หลักประกันเงินกู้” สินทรัพย์จากยูเครน ในอัตรา 70% วงเงินกู้ เช่น พื้นที่ ทรัพยากร สินทรัพย์รัฐวิสาหกิจของชาติ ฯลฯ
ทาง EU ต้องลดความเสี่ยต่อเงินกู้ดังกล่าว เมื่อยูเครน หนี้สินล้นพ้นตัวจนล้มละลายและผิดนัดชำระหนี้ จะสามารถยึดมาชดใช้หนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยได้ ป้องกันหนี้สูญ
ขณะนี้กระทรวงการคลังยูเครน หมดหนทางหารายได้ในประเทศ และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขยายอายุสัมปทานทรัพยากรให้นักลงทุนต่างชาติ และตั้งความหวังพึ่งพิงเงินกู้จากต่างประเทศเท่านั้น
ส่วนสหรัฐ เปลี่ยนเป้ามายุแหย่อาเซียน ไม่ค่อยสนิทกับยูเครน แล้ว..ยุโรป ให้กู้ซื้ออาวุธต่ออีกสักนิด ยูเครนยึดเรือยุโรปเรียกค่าไถ่ต่ออีกสักหน่อย..สู้ต่อไป ชนะเละเทะแน่นอน