บิ๊กข่าวกรองระดับโลก เตือนกลิ่นสงครามรอบใหม่! สหรัฐฯเตรียมเทยูเครน วางแผนเปิดหน้ารบโดยตรงรัสเซีย-เบลารุส

0

แม้ว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน จะยืดยื้อเข้าสู่เดือนที่ 5 แต่ยังไม่มีท่าทีว่าจะจบลง ท่ามกลางการอัดฉีดงบประมาณ และอาวุธที่สหรัฐฯเข้ามาช่วยเหลือยูเครน และการเพิ่มกำลังพลของนาโต ที่ส่งสัญญาณว่าแท้จริงแล้ว พร้อมบวกกับรัสเซียอย่างเต็มรูปแบบ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ปูตินวิตกกังวลแต่อย่างใด ด้วยหลายชาติเคยเตือนสหรัฐฯแล้วว่า อย่าให้ต้องไปถึงจุดที่บีบปูตินมากเกินไป เพราะนั่นอาจจะกลายเป็นหายนะใหญ่ของโลก และไม่มีชาติไหนพึงพอใจกับการกระทำของนาโตและสหรัฐฯมากนัก

ล่าสุดมีรายงานว่า สหรัฐฯกำลังวางแผนสำหรับทำสงครามโดยตรงกับรัสเซียและพันธมิตรของมอสโกอย่างเบลารุส จากคำเตือนของหัวหน้าสำนักข่าวกรองทหารเบลารุส

“ดินแดนของโปแลนด์ เช่นเดียวกับประเทศต่าง ๆในแถบบอลติก กำลังถูกเปลี่ยนเป็นสนามจัดฉาก ซึ่งสหรัฐฯมีแผนปลดปล่อยความขัดแย้งนองเลือดรอบใหม่ในยุโรป โดยเล็งเป้าหมายไปที่สหพันธรัฐรัสเซียและพันธมิตรของพวกเขา” พลตรีรัสลาน โคซีกิน หัวหน้าสำนักข่าวกรองทหารเบลารุสระบุ

 

เขาอ้างว่าการฝึกฝนทหารของนาโต้ สำหรับประจำการรวดเร็วในยุโรปตะวันออก และการประจำการระบบต่อต้านขีปนาวุธในภูมิภาค คือหลักฐานชั้นดีของเค้ารางวิกฤตที่กำลังมาเยือน ยิ่งไปกว่านั้นเขาอ้างว่า “มีนักการเมืองโปแลนด์บางส่วน กำลังเคลื่อนไหวที่เป็นอันตราย ในความคิดหวนคืนสู่สิ่งที่เรียกว่าดินแดนประวัติศาสตร์ของโปแลนด์ ในภาคตะวันตกของยูเครนและเบลารุส”

ก่อนหน้านี้สำนักข่าวทาสส์นิวส์ เคยรายงานในเดือนเมษายนว่าสหรัฐฯและโปแลนด์กำลังวางแผนเพื่อจัดการให้โปแลนด์เข้ามาควบคุม “ดินแดนประวัติศาสตร์” ของตนในยูเครน

พลตรีโคซีกิน ระบุหน่วยงานของเขาเชื่อว่าบรรดาชาติตะวันตกกำลังเตรียมการสำหรับโจมตีเบลารุสและรัสเซีย โดยพรางตัวภายใต้ข้ออ้างเพื่อปัดเป่าการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่นาโต้อ้างความชอบธรรมสำหรับการเสริมกำลังทหารในยุโรปตะวันออก “เบลารุส ไม่ชอบสถานการณ์สงคราม แต่จะดำเนินการอย่างแน่วแน่ หากว่ามันกลายเป็นจริง”

เขากล่าวว่าสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายกำลังมีความเป็นไปได้มากขึ้น “เพราะว่าตะวันตกเริ่มตระหนักแล้วว่าวิธีการดั้งเดิมของการรุกรานแบบไฮบริดต่อรัสเซียและเบลารุส ไม่ได้ก่อผลลัพธ์ตามที่พวกเขาต้องการ การเผชิญหน้าโดยตรงกับโปแลนด์และบรรดาประเทศแถบบอลติก ถ้ามันเริ่มต้นขึ้น มันจะคล้ายกับสถานการณ์ความเป็นปรปักษ์ในยูเครน ในแง่ของตัวการสำคัญ โคซีกินกล่าวอีกว่า ยูเครนจงใจสะสมอาวุธมาตั้งแต่ปี 2014 มีการฝึกฝนเพื่อสูรบ และสู้รบกับรัสเซียโดยเฉพาะ”

รัสเซียเปิดฉากโจมตีประเทศเพื่อนบ้านในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังยูเครนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อตกลงมินสก์ ที่ลงนามครั้งแรกในปี 2014 และท้ายที่สุดมอสโกก็ให้การรับรองสาธารณรัฐโดเนตสก์และสาธารณรัฐลูฮันสก์ ในภูมิภาคดอนบาส ในฐานะรัฐเอกราช

 

นับตั้งแต่นั้นเครมลินได้เรียกร้องให้ยูเครนประกาศตนเองอย่างเป็นทางการในฐานะประเทศเป็นกลาง ซึ่งจะไม่มีวันเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรทหารนาโต้ที่นำโดยสหรัฐฯ แต่เคียฟระบุว่า ปฏิบัติการของรัสเซียเป็นการรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุใด ๆ