ผู้นำอังกฤษไม่รอดแน่! เผยแล้ววิธีโค่นลงจากตำแหน่ง หลังโพลปชช.เกือบ70% จี้ลาออก-ส.ส.เคยหนุนแห่ถอนตัวอื้อ
จากกรณีที่สื่ออังกฤษได้รายงานว่า Alex Chalk ของ Cheltenham ลาออกจากตำแหน่งอัยการสูงสุดในคณะรัฐมนตรีของ Boris Johnson ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีสาธารณสุข Sajid Javid และนายกรัฐมนตรี Rishi Sunak โดยเขาโพสต์จดหมายลาออกในทวีตหลังจากสมาชิกสภานิติบัญญัติอีก 4 คนลาออกจากตำแหน่งผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของรัฐบาล
ขณะที่ Sajid Javid รมว.สาธารณสุขประกาศลาออก พร้อมระบุ “ด้วยสำนึกผิดชอบชั่วดี ทำหน้าที่ในรัฐบาลนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว” โดย รมว.คลัง Rishi Sunak ก็ลาออกเช่นกัน
ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวานนี้ (6 กรกฎาคม 2565) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ขัดขืนแรงกดดันจากคณะรัฐมนตรีระดับอาวุโสและการก่อขบถเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆภายในพรรคคอนเซอร์เวทีฟของเขา ที่หวังบีบให้เขาลาออกจากตำแหน่ง โดยประกาศกร้าวจะต่อสู้กับความพยายามใดๆที่มีเป้าประสงค์ขับไล่เขาลงจากเก้าอี้ อันสืบเนื่องจากกรณีอื้อฉาวต่างๆนานา
หลังจากก่อนหน้านี้มีบุคคลภายในรัฐบาลลาออกมากกว่า 40 รายและส.ส.จากพรรคคอนเซอร์เวทีฟหลายรายก่อขบถอย่างเปิดเผย บรรดารัฐมนตรีบางส่วนได้มุ่งหน้าไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรี ถนนดาวนิ่ง เพื่อบอกกับ จอห์นสัน ว่าถึงเวลาแล้วที่เขาควรสละตำแหน่ง รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว
หนึ่งในนั้นเสนอให้เขาลาออกอย่างสง่างามด้วยการกำหนดกรอบเวลาของตนเอง แทนที่จะต้องเผชิญกับการลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจำนวนมาก เชื่อว่ายังไงเสียเขาก็จำเป็นต้องลงจากตำแหน่ง และคำถามเดียวก็คือมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เท่านั้น
ส.ส.หลายสิบคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความจริงใจของจอห์นสัน หลังเขาถูกบีบให้ออกมาขอโทษต่อกรณีแต่งตั้งส.ส.รายหนึ่งให้เข้ามาทำหน้าที่ด้านกฎระเบียบและสวัสดิการของพรรค ทั้งๆที่บุคคลดังกล่าวโดนร้องเรียนเกี่ยวกับการประพฤติผิดทางเพศ
กรณีนี้ถือเป็นวิกฤตล่าสุดที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลของจอห์นสัน ตามหลังเรื่องอื้อฉาวและความผิดพลาดต่างๆนานาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงกรณีจัดงานปาร์ตีในบ้านพักและทำเนียบนายกรัฐมนตรีถนดาวนิ่ง ซึ่งละเมิดมาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 อันเข้มงวด และทำให้เขาถูกตำรวจปรับเงิน
แม้มีเสียงเรียกร้องดังกึกก้องให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่ เจมส์ ดัดดริดจ์ ส.ส.หัวอนุรักษ์นิยมและผู้ช่วยคนสนิทของจอห์นสัน ให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ ว่าผู้นำสหราชอาณาจักร “ยังคงเบิกบานและยืนหยัดต่อสู้” หลังจากพบปะกับสมาชิกระดับสูงในคณะรัฐมนตรี
ดัดดริดจ์ กล่าวว่า จอห์นสัน และ นาดฮิม ซาฮาวี รัฐมนตรีคลังที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งหมาดๆ จะจัดทำแผนงานใหม่ด้านเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า ในนั้นรวมถึงมาตรการปรับลดภาษี
ก่อนหน้านี้ จอห์นสัน เปิดเผยกับคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งของรัฐสภาว่า “ผมจะไม่ลาออกและสิ่งสุดท้ายที่ประเทศแห่งนี้ต้องการ พูดตรงก็คือ การเลือกตั้ง”
จอห์นสันระบุว่าเขาได้รับอาณัติจากศึกเลือกตั้งทั่วไปปี 2019 ซึ่งเขาคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายและครองเสียงข้างมาก และมันจะกลายเป็นคนขาดความรับผิดชอบ หากเดินหนีจากหน้าที่การงาน ท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพและสงครามในยุโรป ทั้งนี้ จอห์นสัน เป็นผู้สนับสนุนตัวยงของยูเครน ตามหลังถูกรัสเซียรุกรานในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
การลาออกอย่างกะทันหันของรัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรีสาธารณสุขในวันอังคาร(5ก.ค.) กระตุ้นทำให้นักการเมืองระดับรองลงมาลาออกตามมาอีกหลายสิบคน และสมาชิกสภาที่เคยภักดีต่อนายกรัฐมนตรีจอห์นสันถอนการสนับสนุนด้วยเช่นกัน โดยหลายคนสมาชิกพรรคคอนเซอร์เวทีฟหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเขามีความเหมาะสมที่จะบริหารประเทศต่อไปหรือไม่
จอห์นสัน ก้าวสู่อำนาจเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน จากคำสัญญาจะสานต่อการถอนตัวภารกิจถอนสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป และช่วยสหราชอาณาจักรหลุดพ้นจากความขัดแย้งอันเจ็บปวด ตามหลังศึกประชามติเบร็กซิตในปี 2016 ทว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาเผชิญข่าวคราวอื้อฉาวต่างๆนานา ผลการสำรวจความเห็นของประชาชนระยะสั้นโดย YouGov ชี้ว่า ชาวอังกฤษ 69% คิดว่า จอห์นสัน ควรลาออกจากตำแหน่ง
เมื่อเดือนที่เเล้ว จอห์นสัน ยังคงสามารถรักษาเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไว้ได้ แม้ว่าจะเผชิญการลงมติไม่ไว้วางใจจากนักการพรรคอนุรักษ์นิยม และตามกฎของพรรค เขาจะไม่สามารถถูกยื่นขอลงมติไม่ไว้วางใจจากพรรคอีกครั้งภายในหนึ่งปี กระนั้นมันก็อาจเกิดได้ หากว่าส.ส.ภายในพรรคเห็นพ้องแก้ไขกฎระเบียบของทางพรรค