จากที่วันนี้ 06 กรกฏาคม 2565 เพจ World Update ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจยิ่งผ่านแหล่งที่มาจากสื่อหลายสำนักคือ Tfiglobalnews Aljzeera Reuters กลาโหมรัสเซีย และ สื่ออิสระยูเครน ถึงสถานการณ์ล่าสุดนั้น
ทั้งนี้โดยเนื้อหาที่เพจ World Update ได้โพสต์เผยแพร่ไว้มีเรื่องราวที่สำคัญบางส่วนระบุว่า “ยุโรป หัวจะปวด! ยูเครน จับข้าวเป็นตัวประกัน ไม่ปล่อยออกจากท่าเรือ ต่อรองขออาวุธ
ภายหลังรัสเซียปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และสหรัฐ ยุโรป บริวารคว่ำบาตร ส่งผลดีเหลือเชื่อให้รัสเซีย ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์พลังงาน น้ำมัน ก๊าซ และ ถ่านหิน ได้เพิ่มขึ้นมูลค่า 100,000 ล้านดอลล่าร์/วัน หรือรวมราว 13 ล้านดอลลาร์ (442 ล้านบาท)
ยังไม่นับสินค้าสินแร่ อาหาร ฯลฯ อีกนับไม่ถ้วน และมีชาติทวีปต่างๆ เสียงส่วนใหญ่กว่า 150 ชาติ ไม่ร่วมโหวตประนามรัสเซียในสหประชาชาติ มีเสียงส่วนน้อยเพียง 40 ชาติเท่านั้นที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย , ล่าสุดราคาก๊าซในยุโรปพุ่งขึ้น 10% เป็น 1,722 ดอลลาร์/พันคิวบิกเมตร รัสเซีย รวยหนักขึ้น ยุโรปจนลง
ช่วงกองทัพรัสเซีย ประจำการที่เกาะงู ใกล้เมืองท่าโอเดสซา ทางรัฐบาลยูเครน และ NATO ต่างโวยวายอ้างว่ารัสเซีย ปิดล้อมสินค้าธัญพืชไม่ให้ออกจากท่า เป็นสาเหตุทำให้เกิดวิกฤติอาหารโลก แต่รัสเซีย พบว่า ยูเครน สร้างสตอรี่ลวงโลก หลอกต้มนานาชาติว่ามีธัญพืชมากมาย
ช่วงแรกๆ ก็อ้างว่ามี 50 ล้านตัน ต่อมาก็อ้างว่ามี 25 ล้านตัน แต่ตรวจสอบแล้วเหลือธัญพืชตกค้างอยู่ที่ท่าเรือยูเครน แค่ราว 6 ล้านตัน และข้าวโพดอีกราว 7 ล้านตัน ปริมาณเพียงแค่นี้ ไม่ช่วยให้วิกฤตขาดแคลนอาหารทั่วโลกดีขึ้นแน่นอน แต่เพื่อแสดงถึงความใจกว้าง และทำตามข้อตกลงกับสหประชาชาติ (UN) และตุรเคีย ทางรัสเซีย จึงถอนกำลังออกจากเกาะงู แต่ยังจับตาชายฝั่งทะเลดำอย่างใกล้ชิดทางเรือ และอากาศยานโดรน
รัสเซีย ส่งเฮลิคอปเตอร์มารับทหารและขนอาวุธออกจากเกาะงูตั้งแต่ 29 มิ.ย.2022 แต่ถัดไปอีก 1 วันยูเครน สร้างสตอรี่ตลกโดย “ถล่มเกาะเปล่า” แล้วประกาศชัยชนะทางสื่อตะวันตกว่าขับไล่รัสเซียไปแล้ว จากบัดนั้นจนถึงบัดนี้ทางรัฐบาลยูเครน อ้างว่า “ยังไม่พร้อมที่จะอนุญาตให้มีการขนส่งข้าวสาลีจากท่าเรือของตน”
แม้ว่าตุรกี จะพยายามเจรจาช่วยเหลือชาวยุโรป ให้พ้นจากวิกฤตความหิวโหยแต่ยูเครน ก็ยังยืนกรานที่จะ “จับข้าวไว้เป็นตัวประกัน” ปฏิเสธที่จะปล่อยข้าวสาลีจากท่าเรือโอเดสซาของตน ไม่ยอมส่งอาหารบรรเทาทุกข์ไปยังทุกประเทศที่ประสบปัญหาวิกฤตการณ์อาหารอย่างรุนแรง
ผู้นำยูเครน สั่งให้กองทัพวางทุ่นระเบิด YaM ยุคสหภาพโซเวียตจำนวน 420 ทุ่น ลอยไปทั่วทะเลดำ ไปถึงชายฝั่งตุรเคีย โรมาเนีย และปากแม่น้ำคัมเชียไปทางตะวันออก จนกลาโหมบัลแกเรียต้องสั่งกองทัพทำลายทุ่นระเบิดยูเครนทิ้ง
ทะเลดำเป็นเส้นทางเดินเรือ สำหรับผลิตภัณฑ์ธัญพืช น้ำมัน และผลิตภัณฑ์น้ำมัน ถ้ายูเครนไม่เก็บทุ่นระเบิด เรือสินค้าก็ไม่สามารถเดินเรือเข้าออกจากท่าได้อีกนาน
ยูเครน จึงจับข้าวเป็นประกันเพื่อแบล็คเมล์บีบให้ชาติในสหภาพยุโรป เอาอาวุธมาให้มากๆ เอาเงินมาให้กู้ โดยประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน วิดีโอลิ้งไปที่การประชุมฟื้นฟู URC2022 ที่เมืองลูกาโน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีอังกฤษ เป็นเจ้าภาพ ระบุว่า “ตอนนี้ ยูเครน ต้องการเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์ เพื่ออยู่ให้ได้ไปจนถึง ธ.ค.2022 จากนั้นช่วงปี 2023 – 2032 เขาจะเอาเงินอีก 750,000 ล้านดอลลาร์” ( 26.77 ล้านล้านบาท)
ผู้นำยูเครน พูดเสมือนว่าต่อจากนี้ไป เขาจะเป็นผู้นำยูเครนแต่เพียงผู้เดียวตลอดไปไม่ต่ำกว่าอีก 10 ปี ไม่เปลี่ยนใหม่ เขาอ้างว่าจะนำเงินมาก่อสร้างโน่นนี่นั่น ท่ามกลางฝนเหล็กห่าใหญ่รัสเซีย “เศรษฐกิจรัสเซียกำลังเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี กำลังล่มสลาย ขาดดุล และยากจน ประเทศทั่วโลก ปฏิเสธที่จะสานสัมพันธ์กับรัสเซีย จะเป็นเช่นนี้ตลอดไป”
ล่าสุด อิรัก อิหร่าน ซาอุฯ สั่งซื้อธัญพืชหนักมากจากเมืองซาโปริเซีย สาธารณรัฐโดเนตสก์ ในอารักขารัสเซีย เมืองนี้ปลดปล่อยจากยูเครนตอนไต้ไปแล้ว ผลิตข้าวอร่อย แถมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรปให้รัสเซียยึดไปอีกด้วย”
