หอการค้าฯสานต่อการค้าไทย-ซาอุ ได้จัดงานไทย-ซาอุฯบิสซิเนสแมตชิ่ง ด้านริยาดส่งนักธุรกิจมาร่วม ๘๐ ท่าน ประธานหอฯมั่นใจส่งออกอาหารฮาลาลไทยโตก้าวกระโดดในตลาดซาอุฯแน่ ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของภูมิภาคอาเซียน และมุ่งสู่การเป็นครัวของโลกในอนาคต
วันที่ ๖ ก.ค.๒๕๖๕ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่าหอการค้ามณฑลริยาด ได้จัดการเดินทางของนักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย จำนวน ๘๐ คน ที่สนใจการค้า การลงทุนในประเทศไทย โดยมีกำหนดเดินทางระหว่างวันที่ ๔-๘ ก.ค.๒๕๖๕ เพื่อเจรจาธุรกิจกับภาคเอกชนไทย ซึ่งนายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมั่นว่ามีโอกาส ช่องทางเพิ่มการค้าการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุน เชื่อมโยงระหว่างทั้งสองภูมิภาค
โดย ภายหลังการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของ พล.อ.ประยุทธ์เมื่อช่วงต้นปี ๒๕๖๕ ได้ขยายโอกาสในการร่วมมือกันระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย อย่างต่อเนื่องในหลายมิติ หอการค้ามณฑลริยาด ซาอุดีอาระเบีย ได้นำคณะนักธุรกิจภาคเอกชนซาอุดีอาระเบีย จำนวน ๘๐ คน เดินทางมาเยือนไทยเพื่อเจรจาธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย ในงาน Thai-Saudi Business Forum และ Business Matching เยี่ยมชมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล สินค้าสำคัญที่เหมาะสมกับตลาดซาอุดีอาระเบีย และเยือนยัง จ.ภูเก็ต เพื่อเจรจาการค้าการท่องเที่ยว ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและบันเทิง
ทั้งนี้สอดคล้องกับ ๙ สาขาความร่วมมือที่นายกฯได้หารือขณะเยือนซาอุดีอาระเบียไว้ ประกอบด้วย
๑.การท่องเที่ยว ๒.พลังงาน ๓.แรงงาน ๔.ความมั่นคงทางอาหาร ๕.สุขภาพ ๖.ความมั่นคง ๗.การศึกษาและศาสนา ๘.การค้าและการลงทุน และ ๙.กีฬาและวัฒนธรรม โดยกลุ่มสินค้าเป้าหมายที่จะมีการเจรจาและลงทุน ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ
การท่องเที่ยวและบันเทิง ทองคำและอัญมณี การเกษตร การแพทย์ และอาหาร ในด้านการส่งออกสินค้ากระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังซาอุดีอาระเบียในปี ๒๕๖๕ เพิ่มขึ้น ๖.๒% จากปี ๒๕๖๔ ที่มีการส่งออกมูลค่า ๕๑,๕๐๐ ล้านบาท โดยพุ่งเป้าสินค้าไทยที่มีศักยภาพในการส่งออก ๓ กลุ่ม ได้แก่ ๑.เกษตร ๒.อุตสาหกรรม และ ๓.การบริการ
นายธนกรกล่าวว่า “การมาเยือนของกลุ่มนักธุรกิจซาอุฯ ครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นด้านการค้าระหว่างไทย-ซาอุฯ และเป็นการสร้างโอกาสที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนให้กับซาอุฯ ส่งผลต่อยอดเชื่อมโยงถึงระดับภูมิภาคต่อไป นายกฯได้ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินงานสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่องทั้ง ๙ ด้าน ตามที่ได้หารือขณะเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางด้านการค้าของทั้งสองฝ่าย”
ในวันนี้หอการค้าจัด ไทย-ซาอุฯ บิสซิเนสแมตชิ่งมั่นใจอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลตอบโจทย์ ด้าน ส.อ.ท.มองโอกาสลงทุน BCG วางอนาคตอุตสาหกรรมยั่งยืนรับนักลงทุนอุตสาหกรรมใหม่
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังต้อนรับคณะนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย ในโอกาสเดินทางเยือนไทยและขยายโอกาสการค้า การลงทุน พร้อมเข้าร่วมงาน THAI – SAUDI BUSINESS FORUM ซึ่งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในนามภาคเอกชนฝ่ายไทยเป็นผู้จัดงานดังกล่าวขึ้น ระหว่างนี้ คณะนักธุรกิจซาอุดิอาระเบียได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ศูนย์ดังกล่าวถือเป็นหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลแห่งแรกในโลก เป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพและมีประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยี วิจัย และสร้างนวัตกรรมฮาลาล
นอกจากนี้ ในส่วนของการค้าภายในประเทศ หอการค้าฯ ยังได้ร่วมจัดงาน THAIFEX – Anuga Asia ๒๐๒๒ ซึ่งมีการจัดโซนอาหารฮาลาลเป็นการเฉพาะ โดยพบว่ามีผู้ซื้อจากหลายประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย อิรัก โอมาน จอร์แดน อิหร่าน อิสราเอล กาตาร์ คูเวต และบาห์เรน เดินทางมาเจรจาธุรกิจเพิ่มขึ้น ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของภูมิภาคอาเซียน และมุ่งสู่การเป็นครัวของโลกในอนาคต
ด้าน Mr. Krayem S. Alenezi Member the board of directors of the Riyadh Chamber of Commerce เปิดเผยว่า ซาอุดิอาระเบียมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำในภาคการเกษตรเป็นอย่างมาก ตลอดจนมีเทคโนโลยีด้านการเกษตรที่ทันสมัย ซึ่งหากผู้ประกอบการไทยมีความสนใจที่จะนำนวัตกรรมและความรู้ดังกล่าวมาดำเนินการในประเทศไทย
