ประเทศในอาฟริกามักเป็นประเทศนอกสายตาของคนทั่วไป นอกเหนือไปจากการท่องเที่ยวในนามกาฬทวีป แต่วันนี้สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงเริ่มแล้ว เมื่อความขัดแย้งระหว่างกลุ่มมหาอำนาจเก่าตะวันตกกำลังอับแสง เพราะถูกท้าทายจากมหาอำนาจหลายขั้วในการจัดระเบียบโลกใหม่ให้เท่าเทียมและยุติธรรมขึ้น พลิกฟื้นมาตรฐานทองคำแทนนี้เงินกระดาษผูกขาดของดอลลาร์สหรัฐ
ข่าวที่ยูกานดาค้นพบแร่ทองคำ ๓๑ ล้านตันและมอบสิทธิ์พัฒนาเหมืองทองคำให้รัสเซียพัฒนาก็น่าตื่นเต้นแล้ว แต่ล่าสุด นักลงทุนทั่วโลกยิ่งพากันตื่นเต้นกับข่าวที่ ซิมบับเววางแผนที่จะใช้ทองคำควบคุมเงินเฟ้อ แก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อมานานโดยเลิกใช้ดอลลาร์กันอย่างจริงจัง
ซิมบับเวเตรียมเปิดตัวเหรียญทองคำที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็บมูลค่าไว้ภายในประเทศได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงขึ้นจนควบคุมไม่ได้ และสกุลเงินท้องถิ่นยังคงลดค่าลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักดอลลาร์-ยูโร
วันที่ ๖ ก.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวทีจีเอฟโกลบัล รายงานว่า ปธน.เอ็มเมอร์สัน อึมนังกากวา แห่งสาธารณรัฐซิมบับเว(Emmerson Mnangagwa)ประกาศเลิกใช้ดอลลาร์สหรัฐและเปลี่ยนเป็นเหรียญทองคำ ทั้งในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และการแลกเปลี่ยนซื้อขายเพื่อสุ้เงินเฟ้อกระฉูด ทั้งนี้ประเทศในแอฟริกาจำนวนมากขึ้นแสดงท่าทีที่จะปฏิบัติตามเช่นกัน
ซิมบับเวประสบภาวะเงินเฟ้อรุนแรงมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ อัตราเงินเฟ้อประจำปี ของซิมบับเวพุ่งขึ้นเป็น ๑๙๒% ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบปี เนื่องจากค่าอาหารพุ่งขึ้นกว่าสามเท่า ดอลลาร์ซิมบับเว ซึ่งเป็นสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพแย่ที่สุดของแอฟริกาในปีนี้ หลังจากสูญเสียมูลค่ามากกว่าสองในสามเมื่อเทียบกับดอลลาร์ อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น
ซิมบับเวอยู่ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโดยมีอัตราเงินเฟ้อสูง ค่าเงินท้องถิ่นอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว การว่างงาน ๙๐% และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง และตอนนี้ ซิมบับเวกำลังใช้ทองคำเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อ และด้วยเหตุนี้จึงลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐในประเทศได้อย่างทันสถานการณ์
รัฐบาลได้ตรึงสกุลเงินของตนไว้กับทองคำด้วยเหตุผลที่แม่นยำเพื่อสู้เงินเฟ้อนี้ เนื่องจาก ทองคำมักถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อในสินทรัพย์หลายประเภท โดยพื้นฐานแล้วมันบ่งชี้ว่าในระยะยาว ทองคำสามารถสร้างผลตอบแทนที่เอาชนะเงินเฟ้อได้
นายจอห์น มังกูดยา (John Mangudya) หัวหน้าธนาคารกลางของประเทศทางตอนใต้ของแอฟริกา ประกาศว่าเหรียญทองใหม่นี้จะมีจำหน่ายผ่านสถาบันการธนาคารทั่วไป
คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางซิมบับเว (MPC) ได้มีมติให้นำเหรียญทองเข้าสู่ตลาดเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็บมูลค่าได้ เหรียญทองจะถูกสร้างโดยฟิเดลลิตี้ โกลด์ รีไฟเนอร์รี่ ไพรเวท ลิมิเต็ด (Fidelity Gold Refineries -Private Limited) และจะขายให้กับประชาชนทั่วไปผ่านช่องทางธนาคารปกติ”
“คณะกรรมการตั้งข้อสังเกตว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อกำลังบ่อนทำลายอุปสงค์และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และหากไม่ได้รับการควบคุม ก็จะพลิกกลับกำไรทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่ทำได้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา”
การเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการชื่นชมอย่างดีจากนักลงทุนในประเทศ เช่น บาตานัย มัตซิกา(Batanai Matsika) หัวหน้าฝ่ายวิจัยสำหรับบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์มอร์แกนแอนด์โค (Morgan & Co) กล่าวว่าเหรียญทองคำเป็นการพัฒนาที่น่ายินดีในตลาดที่ขาดแคลนทางเลือกในการลงทุน และจะช่วยให้นักลงทุนป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อได้อย่างมีอนาคต
ตาเต็นดา มาบันดี(Tatenda Mabhande) นักเศรษฐศาสตร์จากอะคริบอส แคปปิตัล( Akribos Capital) ในเมืองฮาราเร แสดงความเห็นมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับความสามารถของเหรียญทองคำในการทำหน้าที่เป็นตัวเก็บมูลค่าว่า ” เพื่อให้เหรียญทองมีประสิทธิภาพ ผู้ที่ต้องการซื้อควรจะสามารถจ่ายด้วยดอลลาร์ซิมบับเวไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซับสกุลเงินท้องถิ่นส่วนเกินในการหมุนเวียน
เขากล่าวเสริมว่าธนาคารกลางจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามูลค่าที่ตราไว้ของเหรียญทองคำมีค่ามากกว่ามูลค่าที่แท้จริงเสมอ เพื่อให้พวกเขาได้รับการปฏิบัติเหมือนเงิน และสำหรับนักลงทุนที่จะใช้มันเป็นทางเลือกแทนหน่วยดอลลาร์ของสหรัฐฯ
ในที่สุด ประเทศในแอฟริกาอื่น ๆ อีกหลายแห่งก็จะเดินตามเส้นทางเดียวกัน ลดการพึ่งพาสกุลเงินสหรัฐ ตัวอย่างเช่น ซูดาน เอธิโอเปีย และแองโกลา ซึ่งปรับอัตราเงินเฟ้อแล้วที่ ๒๔๕ เปอร์เซ็นต์ , ๓๕ เปอร์เซ็นต์ และ ๒๔ เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ สามารถบรรเทาเศรษฐกิจได้โดยการตรึงสกุลเงินไว้กับทองคำ และด้วยเหตุนี้จึงป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ บางทีนี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ยุคของการครอบงำของดอลลาร์สหรัฐ ในแอฟริกาอาจถูกทำลายลงในไม่ช้า