๔ กรกฎาคมปีนี้เป็นวันประกาศอิสรภาพครั้งที่ ๒๔๖ ของสหรัฐอเมริกา แต่ก่อนวันดังกล่าว สื่อของสหรัฐฯ เต็มไปด้วยรายงานข่าวการเสียชีวิตของ เจย์แลนด์ วอล์กเกอร์ ผู้ขับขี่รถยนต์ผิวดำ ซึ่งถูกตำรวจไล่ยิงอย่างน้อย ๖๐ ครั้ง และคดีเหยื่อข่มขืนวัย๑๐ ขวบที่ถูกบังคับเดินทางจาก โอไฮโอไปอินเดียน่าเพื่อทำแท้ง ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ควรมีอยู่ใน “สังคมอารยะและพัฒนา” แต่เป็นพิภพเล็ก ๆ ที่เป็นรูปธรรมของสังคมอเมริกันในปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับวิกฤติ
ในสุนทรพจน์วันประกาศอิสรภาพเมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวด้วย “ความมั่นใจ” ว่า “อเมริกากำลังกลับมารวมกัน” แต่อีกหนึ่งปีต่อมา สิ่งที่เห็นคืออเมริกาที่แตกแยก สับสน และโกลาหลมากขึ้น ปัญหาที่ฝังลึกในสหรัฐฯ มาอย่างยาวนานได้มาถึงจุดที่ปะทุขึ้นอย่างหนาแน่น ประเด็นต่างๆ เช่น การยิงสังหารหมู่ การแบ่งขั้วทางการเมือง ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน และความขัดแย้งทางเชื้อชาติ การเมืองแบบพรรคพวกและสิทธิสตรี ได้สร้างความตื่นตระหนกต่อฉากหลังของการระบาดใหญ่ของโควิด-๑๙ และอัตราเงินเฟ้อที่รุนแรง
ล่าสุดโศกนาฎกรรมสยองมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๖ ราย บาดเจ็บหลายสิบ เซ่นเหตุกราดยิงสยองกลางขบวนพาเหรดวันชาติสหรัฐ ที่รัฐอิลลินอยส์ เร่งล่าตัวคนร้ายสุดอันตราย สุดท้ายพบว่ามีประวัติรักษาโรคจิต
วันที่ ๕ ก.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวเอพีและซีเอ็นเอรายงานว่า เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เกิดเหตุสลดน่าสยดสยองในงานฉลองวันชาติสหรัฐ
สำนักงานตำรวจเมืองไฮแลนด์ พาร์ค ห่างจากเมืองชิคาโกไปทางเหนือราว ๔๐ กิโลเมตร รายงานการเกิดเหตุกราดยิง เมื่อช่วงสายของวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ระหว่างขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐ ซึ่งตรงกับวันที่ ๔ ก.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๖ ราย และได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ ๓๖ คน
จิม แอนโธนี โฆษกของระบบสุขภาพมหาวิทยาลัยนอร์ทชอร์ (Jim Anthony, a spokesman for NorthShore University Health System)เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า ๓๖ คน ส่วนใหญ่เป็นบาดแผลจากกระสุนปืน เหยื่อที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไฮแลนด์พาร์ค มีอายุระหว่าง ๘ ถึง ๘๕ ปี
หลังเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง พนักงานสอบสวนจับกุม นายโรเบิร์ต อี. คริโมที่ ๓ วัย๒๒ ปี “คือบุคคลที่ต้องสงสัยมีความเกี่ยวข้อง” กับเหตุกราดยิงครั้งนี้ ระหว่างเรียกตรวจยานพาหนะบนถนนสายหนึ่ง โดยก่อนหน้านั้นมีการเผยแพร่ภาพถ่าย และคำบรรยายรูปพรรณสัณฐานของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน โดยขอให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสของบุคคลดังกล่าว “ซึ่งอันตรายอย่างมาก” เนื่องจากมีอาวุธครบมือ
ทั้งนี้ เหตุกราดยิงที่เมืองไฮแลนด์ พาร์ค นับเป็นการกราดยิงครั้งที่ ๓๐๘ ในสหรัฐ ตามการรายงานของ “กันส์ ไวโอเลนซ์ อาร์ไคฟ์” องค์กรอิสระซึ่งรวบรวมสถิติเกี่ยวกับเรื่องนี้ และให้นิยามการกราดยิงว่า เป็นเหตุรุนแรงจากอาวุธปืน ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๔ ราย โดยไม่รวมผู้ก่อเหตุ ขณะที่เพียง ๔ วันแรกของเดือนนี้ เกิดเหตุกราดยิงในสหรัฐแล้วอย่างน้อย ๑๑ ครั้ง ตามรายงานของกันส์ ไวโอเลนซ์ อาร์ไคฟ์
ความรุนแรงจากปืนมีแนวโน้มที่จะจุดชนวนการถกเถียงของชาวอเมริกันเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธปืน และมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสามารถป้องกันการยิงจำนวนมากที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา
WATCH: Police are searching the car of Robert E. Crimo III, Highland Park's Fourth of July parade shooter, after an arrest during a traffic stop. pic.twitter.com/LmHTaHzx2R
— BNN Newsroom (@BNNBreaking) July 5, 2022
หลังเหตุกราดยิงอูวัลด์และบัฟฟาโล เมื่อเดือนที่แล้ว สภาคองเกรสผ่านกฎหมายปฏิรูปการควบคุมปืนของรัฐบาลกลางครั้งใหญ่ครั้งแรก ในรอบสามทศวรรษ โดยให้ทุนรัฐบาลกลางแก่รัฐต่างๆ ที่จัดการกฎหมาย “ธงแดง” ที่มีจุดประสงค์เพื่อถอดปืนออกจากบุคคลที่ถือว่าเป็นอันตราย
แต่ยังคงไม่ได้ห้ามการขายปืนไรเฟิลสไตล์จู่โจมหรืออาวุธความจุกระสุนสูง ดำเนินการบางขั้นตอนในการตรวจสอบประวัติโดยอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรรมที่สำคัญที่กระทำโดยเด็กและเยาวชนเท่านั้น และนั่นก็ไม่ได้ช่วยให้เหตุการณ์รุนแรงซ้ำซากจากปินลดลงแต่อย่างใด??