“ทูตสหรัฐ” กล้าโกหกกลางวงปักกิ่ง ไม่มีห้องแลปอาวุธชีวภาพในยูเครน โดนจับโป๊ะอเมริกาเผยเองมีห้องวิจัย26แห่ง
จากกรณีที่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีนเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่งหยุดเผยแพร่ “คำโกหก” ของรัสเซียโดยนักการทูตระดับสูงของอเมริกาในประเทศตำหนิติเตียนโดยตรงและโดยสาธารณะ
เอกอัครราชทูตนิโคลัส เบิร์นส์ ได้ “ร้องขอ” เพื่อตอบคำถามในฟอรัมที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับสิ่งที่จีนสามารถทำได้เพื่อแก้ไขวิกฤตการรุกรานยูเครนของรัสเซีย เบิร์นส์ย้ำคำเรียกร้องของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่ขอให้ปักกิ่งหลีกเลี่ยงการช่วยเหลือมอสโกในการทำสงคราม ก่อนที่จะพลิกผันไปสู่ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
“ฉันหวังว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนจะหยุดกล่าวหา NATO ในการเริ่มสงครามครั้งนี้ นั่นคือการโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย” เบิร์นส์บอกกับ World Peace Forum ว่า “ฉันหวังว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจะหยุดพูดเท็จเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการอาวุธชีวภาพของอเมริกา ซึ่งไม่มีอยู่ในยูเครน ทั้งหมดนี้มาจากรัสเซีย น่าเสียดายที่ชาวจีนเลือกสิ่งนี้” เบิร์นส์กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กองทัพรัสเซียอ้างว่า พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนได้ทำลายเชื้อโรคทั้งหลายที่กำลังศึกษาวิจัยอยู่ในห้องปฏิบัติการ และมอสโกยังอ้างอีกว่ามีห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาของยูเครนที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐฯ ราว 30 แห่ง กำลังร่วมมืออย่างแข็งขันกับกองทัพอเมริกา
เคียฟยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้กำลังพัฒนาอาวุธชีวภาพ และจากข้อมูลของสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟ โครงการลดภัยคุกคามจากชีวภาพของกระทรวงกลาโหมอเมริกา กำลังทำเพียงแค่ “ร่วมมือกับประเทศพันธมิตรทั้งหลาย ตอบโต้ภัยคุกคามจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ”
ทั้งนี้ จ้าว หลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุว่า จากข้อมูลที่ประเทศของเขามี ห้องปฏิบัติการวิจัยในยูเครนเป็นเพียง “ยอดของภูเขาน้ำแข็ง” และกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ควบคุมห้องปฏิบัติการชีวภาพ 336 แห่งใน 30 ประเทศทั่วโลก “เหล่านี้ทำภายใต้ข้ออ้างความร่วมมือลดความเสี่ยงความปลอดภัยทางชีวภาพและเสริมความเข้มแข็งแกร่งแก่สาธารณสุขโลก”
ในคำกล่าวหาซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการระบุตัวเลขอย่างชัดเจน จ้าวระบุว่า จากข้อมูลทางสหรัฐฯ เป็นคนเผยแพร่เอง พบว่าสหรัฐฯ มีห้องปฏิบัติการวิจัยในยูเครน 26 แห่ง และหลังจากกองทัพรัสเซียรุกรานยูเครน เขาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาทางรับประกันความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการเหล่านั้น
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ ฝ่ายที่คุ้นเคยกับห้องปฏิบัติการเหล่านี้มากที่สุด ควรเผยแพร่รายละเอียดต่างๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในนั้นรวมถึงมันใช้จัดเก็บไวรัสชนิดใดบ้าง และห้องปฏิบัติการเหล่านี้ทำการวิจัยอะไร” เขากล่าว
เขาอ้างว่าสหรัฐฯ ขัดขวางจนเกินงามในการจัดตั้งกลไกตรวจสอบอิสระ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ “ยิ่งซ้ำเติมความกังวลแก่ประชาคมนานาชาติ”
รายงานของริโอไทม์ส สื่อมวลชนบราซิล ระบุว่าสถานทูตสหรัฐฯ ในยูเครนลบข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการชีวภาพที่ได้รับการสนับสนุนจากเพนตากอนในยูเครน ออกจากเว็บไซต์ของสถานทูตในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม Dilyana Gaytandzhieva ผู้สื่อข่าว อ้างว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตลืมลบเอกสารฉบับหนึ่งซึ่งเผยให้เห็นว่าเพนตากอนกำลังให้การสนับสนุนเงินทุนแก่ป้องปฏิบัติการชีวภาพแห่งใหม่ 2 แห่งในกรุงเคียฟ และเมืองโอเดสซา
สื่อมวลชนบราซิลรายงานว่า “ยูเครนไม่ได้เป็นคนควบคุมป้องปฏิบัติการชีวภาพทางทหาร รัฐบาลยูเครนไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลที่อ่อนไหวเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว”
จากคำกล่าวอ้างของ Gaytandzhieva ระบุว่าช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของยูเครน ภายใต้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ได้ลงทุนมากกว่า 285 ล้านดอลลาร์ ในโครงการต่างๆ มากกว่า 1,850 โครงการ และโครงการเหล่านั้นนำโดยบรรดาพวกนักวิทยาศาสตร์ที่ก่อนหน้านี้เคยพัฒนาอาวุธทำลายล้างต่างๆ