ไทยได้อานิสงส์! นักวิชาการบี้รัฐบาล เร่งหาแผนส่งออกข้าว หลังทั่วโลกต้องการซื้อ รีบโกยเงินเข้าประเทศด่วนๆ!?

หลังจากที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ถือเป็นการจุดชนวนผลกระทบเศรษฐกิจโลกหลายด้าน โดยเฉพาะแนวโน้ม “วิกฤติอาหารโลก” ที่เขย่าความมั่นคงทางอาหาร และกำลังกลายเป็นกระแสผลักดันให้ประเทศผู้ผลิตอาหารออกนโยบาย “ห้ามส่งออก” เพื่อรักษาสมดุลอาหารเพื่อเลี้ยงคนในประเทศ

ก่อนหน้านี้ดร.สมเกียรติ โอสถสภา ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องอาหารโลก ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “7 ประเทศที่ส่งออกอาหารหลักของโลก สัดส่วน 55% ไทยคือมหาอำนาจด้านอาหารของโลกนะจ๊ะ ประเทศนี้ไม่โม้ นาน ๆ บอกเตือนทีนึง เดี๋ยวลืม ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ และทำให้ประชาชนหันมาเรียกร้องให้รัฐบาลรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้ ให้ได้มากที่สุด เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของคนไทย

ล่าสุดดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ ได้โพสต์วีดีโอ พร้อมเขียนข้อความผ่านทาง Blockdit ระบุว่า ชาวนา ควรจะร่ำรวยในยุคที่ข้าวมีราคาแพง ตรวจสอบกันให้ดีนะครับ ขอให้ชาวนาได้รายได้จากผลผลิตเต็มที่ ไม่ใช่พ่อค้าคนกลาง ที่แล้วมา พอราคาดี คนที่รวยคือนายทุนคือพ่อค้าคนกลาง ผมเคยเสนอแนะให้ตั้งสหกรณ์ชาวนาไปทั่วประเทศหลายครั้งแล้ว และเน้นเป็นพิเศษคือธรรมาภิบาลเพื่อมิให้เกิดการโกงกัน ให้สหกรณ์รับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาที่ดี จากนั้น สหกรณ์ก็จัดการส่งไปขายในประเทศบ้าง ต่างประเทศบ้าง ชาวนาก็จะอยู่ได้ เพราะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำแน่นอนทุก ๆ ปี แต่บังเอิญว่านักการเมืองไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เรื่อง เพราะมุ่งแต่รับใช้นายทุนเป็นหลัก ถูกชาติตะวันตกล้างสมองว่าทุนนิยมดีกว่าสังคมนิยม จนคิดนอกกรอบไม่เป็น ชาวนาจึงยากจนอยู่เหมือนเดิม

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าว ได้ถูกจับตามองมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลเรื่องปัญหาข้าวสาลีขาดแคลนในตลาดโลก เนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่า ความต้องการข้าวจะสูงขึ้นมากในปีนี้ ซึ่งจะมีผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับสามของโลกรองจากอินเดียและเวียดนาม อาจได้รับอานิสงส์จากราคาข้าวที่สูงขึ้น และเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลไทยจะสามารถวางแผนให้เกิดผลดีกับเกษตรกรมากขึ้นด้วย โดยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย จะได้รับประโยชน์ในฐานะพืชทดแทนของข้าวสาลีที่กำลังขาดแคลนทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป