ม็อบลามเดือด! ชาวโปแลนด์-เยอรมันนับหมื่นประท้วงรัฐบาล ร้องผูกมิตรรัสเซีย-จี้เลิกตามก้นอเมริกา
จากกรณีที่ก๊าซพรอม บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียได้แจ้งกับโปแลนด์และบัลแกเรีย ว่าจะยุติการส่งก๊าซให้กับสองประเทศดังกล่าว โดยมีผลเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา โดย PGNiG ซึ่งเป็นบริษัทก๊าซแห่งชาติของโปแลนด์ระบุว่า บริษัทได้รับแจ้งจากก๊าซพรอมว่าการนำส่งก๊าซมายังโปแลนด์ทั้งหมดจะถูกระงับตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันดังกล่าว
การดำเนินการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัสเซียกล่าวว่า ชาติที่ไม่เป็นมิตรกับรัสเซียจะต้องเริ่มต้นการจ่ายเงินค่าก๊าซเป็นเงินสกุลรูเบิล หรือไม่เช่นนั้นก็จะถูกตัดการส่งมอบ ทั้งนี้ โปแลนด์และบัลแกเรียเป็น 2 ประเทศที่ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินตามแนวทางที่รัสเซียระบุ
ล่าสุดทางด้าน ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์คลิปพร้อมกับข้อความถึงกรณีที่ชาวโปแลนด์ ได้ออกมาประท้วงกลางถนน เรียกร้องให้รัฐบาลผูกมิตรกับรัสเซีย โดยระบุว่า ประชาชนชาวโปแลนด์ออกมาแล้ว: ประชาชนโปแลนด์หลายพันคนออกมาประท้วงรัฐบาลที่แสดงท่าทีเป็นศัตรูกับรัสเซีย
ประชาชนเหล่านี้อยากสื่อสารให้รัฐบาลของตนแสดงท่าที่เป็นมิตรกับรัสเซียมากกว่าเพราะประเทศตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน ประชาชนต้องไล่รัฐบาลทาสอเมริกาถึงจะมีความเป็นไทและหันไปคบกับบ้านใกล้เรือนเคียงได้ครับ
ในขณะที่ประเทศเยอรมัน ก็มีการประท้วงรัฐบาลในทำนองเดียวกัน โดยดร.ปฐมพงษ์ ได้บอกว่า ประชาชนชาวเยอรมันที่อยากให้เยอรมนีกับรัสเซียเป็นมิตรกันออกมาชุมนุม ประทั่วงกลางถนน เรียกร้องให้รัฐบาลผูกมิตรกับรัสเซียมากกว่าเป็นศัตรูตามอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ผู้นำประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก กลุ่ม G-7 พบหารือที่เยอรมนีในวันอาทิตย์ โดยได้ประกาศจุดยืนร่วมกันในการต่อต้านรัสเซียรุกรานยูเครน พร้อมหารือหนทางต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อลดราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้นอย่างมาก
ซึ่งมีผู้ประท้วงประมาณ 3,500 คนรวมตัวกันในมิวนิก ขณะที่กลุ่ม G7 ของผู้นำทางเศรษฐกิจเตรียมจัดการชุมนุมประจำปีในเทือกเขา Bavarian Alps ในเยอรมนี ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีหมุนเวียนในปีนี้
ขณะที่กลุ่มที่วิพากษ์วิจารณ์โลกาภิวัตน์ 15 กลุ่ม ตั้งแต่ Attac ไปจนถึง World Wildlife Fund จะเข้าร่วมในการประท้วง ความต้องการที่หลากหลายของพวกเขารวมถึงการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ความยุติธรรมทางสังคม และความพยายามที่มากขึ้นในการต่อสู้กับความหิวโหย
โดย Kilian Wolter กล่าว จากกรีนพีซว่า “ข้อเรียกร้องของฉันสำหรับG7คือการที่พวกเขามีความมุ่งมั่นอย่างชัดเจนในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน นั่นคือการออกจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เชื้อเพลิงฟอสซิลทุกรูปแบบ อย่างช้าที่สุดภายในปี 2035 เพื่อให้เราสามารถหยุดการจัดหาเงินทุนสำหรับสงครามและความขัดแย้ง”
ทางด้านสมาชิกของ Oxfam โพสต์ในการประท้วงก่อนหน้านี้ในเมืองโดยสวมศีรษะขนาดใหญ่ของผู้นำ G7 และเรียกร้องความเท่าเทียมกันในระดับโลกมากขึ้น “เราต้องการการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมเพื่อรับมือกับวิกฤตหลายครั้งในยุคของเรา”